เปลี่ยนตัวเอง ให้มีความสุขแบบไม่น่าเชื่อ

โดย...มิกกี้ เมาท์

1.ทำตัวเองให้ยุ่งแต่ไม่เร่งรีบงานวิจัยหลายชิ้นสรุปว่า การที่พาตัวเองต้องอยู่ในภาวะเร่งรีบตลอดเวลา ไม่ต่างจากการพาตัวเองขึ้นทางด่วนไปสู่ความทุกข์ในทางกลับกัน งานวิจัยจำนวนไม่น้อยเห็นพ้องว่า การไม่ทำอะไรเลย ก็ทำให้สภาพจิตใจแย่ลงไม่ต่างกัน พื้นที่ตรงกลางที่ดูเหมือนจะสร้างสุขคือ การค่อยๆ พาตัวเองออกจากพื้นที่ปลอดภัยของตัวเองไปเปิดรับสิ่งใหม่ๆ แทนที่จะปล่อยให้สิ่งไม่คุ้นเคยถาโถมเข้ามาจนเกินรับไหว ยกตัวอย่างง่ายๆ เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณยุ่งกับงานที่คุณอ้าแขนรับมาทั้งที่คุณไม่ได้ตื่นเต้นกับสิ่งที่ทำ คุณจะไม่สนุกกับมัน ทางที่ดีเราควรรู้จักปฏิเสธและตอบรับกับสิ่งที่คิดว่าใช่

2.สร้างความสัมพันธ์ที่แนบแน่นเคยมีคนบอกว่า “เพื่อนแท้มีค่ายิ่งกว่าทอง” นี่คือเรื่องจริง แต่ในหัวข้อนี้ เรากำหนดว่าต้องมีความสัมพันธ์แนบแน่นอย่างน้อย 5ความสัมพันธ์ ทำไมต้อง 5? คำตอบคือ นี่คือตัวเลขเฉลี่ยที่เหมาะสมหลังจากศึกษาจากงานวิจัยหลายต่อหลายชิ้น มีผลสำรวจพบว่า กลุ่มตัวอย่างที่บอกว่า มีเพื่อนสนิท 5 คนหรือมากกว่านี้ที่เขาหรือเธอสามารถเล่าเรื่องสำคัญให้ฟังได้ 60% ของคนกลุ่มนี้ ส่วนใหญ่ยอมรับว่าตัวเองมีความสุข อย่างไรก็ตามเรื่องของจำนวนความสัมพันธ์ไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุดเพราะสิ่งที่สำคัญกว่าคือ ความใส่ใจที่บรรจงใส่ลงไปในความสัมพันธ์มากกว่า

3.อย่าเอาความสุขไปผูกกับปัจจัยภายนอกความภาคภูมิใจในตัวเอง (Self-esteem)เป็นสิ่งที่ดี แต่งานวิจัยหลายชิ้นระบุว่า คนเรามักเอาความภาคภูมิใจในตัวเองผูกไว้กับปัจจัยภายนอกจนทำให้ทุกข์ เช่น นักเรียนจะภาคภูมิใจในตัวเอง เมื่อได้รับผลการเรียนที่ดี หรือรู้สึกมีความสุขเมื่อได้รับจดหมายตอบรับเข้าเรียน แต่จะผิดหวังสุดๆ ถ้าถูกปฏิเสธ

4.ออกกำลังกายไม่ว่าคุณจะเกลียดการออกกำลังกายแค่ไหน แต่เชื่อเถอะว่า เมื่อไหร่ที่คุณลองลงมือทำ คุณอาจจะติดการออกกำลังกายโดยไม่รู้ตัว ผลของการออกกำลังกายไม่เพียงทำให้รูปร่างคุณดูดีขึ้น แต่ยังช่วยให้ร่างกายคุณหลั่งฮอร์โมนเอนดอร์ฟิน ซึ่งร่างกายผลิตขึ้นเมื่อเกิดความสุขใจมากขึ้น

5.ชื่นชมกับความลำบากที่มาก่อนความสำเร็จงานวิจัยหลายชิ้นบอกว่า กว่าจะผ่านการฝึกฝนให้มีทักษะเชี่ยวชาญในกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่ง อาจต้องผ่านความลำบากความเครียด แต่เชื่อว่า เมื่อผ่านไปได้ แล้วมองย้อนหลังกลับมาดูเส้นทางที่ผ่านมา คุณจะพบกับความสุขอย่างไม่น่าเชื่อ

6.จ่ายเงินเพื่อซื้อประสบการณ์ชีวิตถ้าเทียบระหว่างการจ่ายเงินเพื่อซื้อสิ่งของกับการจ่ายเงินเพื่อซื้อประสบการณ์ให้กับชีวิตงานวิจัยพบว่า เงินที่จ่ายเพื่อซื้อประสบการณ์ชีวิตทำให้คนเรามีความสุขมากกว่า ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น เพราะสิ่งของบางอย่างซื้อมาก็เก่าและล้าไปตามกาลเวลา แต่ประสบการณ์ชีวิตมักเป็นสิ่งมีค่า ที่หลายครั้งเรามักนึกถึงเช่น ประสบการณ์การปีนเขาครั้งแรก ที่สำคัญความสุขจากการซื้อสิ่งของ ทำให้เรามักเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น แต่ความสุขจากประสบการณ์ชีวิต เป็นสิ่งเฉพาะบุคคล ที่แต่ละคนสร้างขึ้นมาเฉพาะตัว

7.อย่าละทิ้งความฝันมีผลสำรวจที่ไปถามนางพยาบาลที่ดูแลผู้ป่วยในระยะสุดท้าย พบว่า 5 อันดับแรกที่ผู้ป่วยเหล่านี้เสียใจที่สุดในชีวิต คือ การไม่ได้ทำความฝันของตัวเองให้เป็นจริง หากคนมองย้อนกลับไปในชีวิต จะพบว่าความฝันหลายอย่างที่ถูกทอดทิ้งไว้กลางทาง มารู้ตัวอีกทีก็เมื่อเดินทางมาถึงบั้นปลายชีวิตแล้ว ดังนั้นถ้าสัปดาห์หนึ่งมี 7 วัน ลองแบ่งสักหนึ่่งวันมาทำความฝันให้เป็นจริงดู