ซาร่า แจงยิบดราม่าเงินไม่พอใช้ เผยค่าใช้จ่ายลูกมากกว่าที่คิด

ซาร่า คาซิงกีนี โพสต์ยาวเหยียดแจงค่าใช้จ่ายลูกชาย เงินที่ฝ่ายชายให้ไม่พอใช้ บอกตนหารายได้เพิ่มเป็นเสาหลักให้มั่นคงต่ออนาคตลูก

กลายเป็นประเด็นดราม่าขึ้่นมาอีกแล้ว หลังจากที่คุณแม่ลูกหนึ่งคนสวย ซาร่า คาซิงกีนี ได้ไปออกรายการ ยิ่งศักดิ์ยิ่งแซ่บ เผยถึงค่าเลี้ยงดูลูกที่ไมค์ส่งให้เดือนละ 30,000 บาท ว่ายังไม่เพียงพอกับใช้จ่ายของลูก รวมถึงการพาดข่าวที่ทำให้เธอถูกวิพากษ์วิจารณ์เพราะคนไทตัดสินคนจากพาดหัวมากกว่าเข้าไปอ่านเนื้อข่าวเต็มๆ

งานนี้ สาวซาร่า ขอเคลียร์แบบยาวเหยียดผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Sarah Casinghini ระบุว่า... ตนตอบตามความจริงว่าเงินที่ได้มาจากไมค์ไม่พอใช้แต่ก็ไม่ได้พาดพิงว่าเขาผิดหรืออะไร เพราะเงินที่ได้มานั้นเราถือว่าเป็นโบนัสให้ลูก ซึ่งปกติตนก็ทำงานเป็นเสาหลักหาความมั่นคงเพื่ออนาคตของลูกอยู่แล้ว แต่คนเป็นแม่จะรู้ดีว่าค่าใช้จ่ายลูกมันมีมากกว่าที่คิด ทั้งนี้ปัญหาดราม่าต่างๆที่เกิดขึ้นมาจาคนนอกตลอด แต่ก็ทำใจเพราะตนเป็นคนของสังคม และเชื่อว่าลูกโตมาก็จะเข้าใจด้วยเช่นเดียวกัน

 

 "คือจริงๆค่าเลี้ยงดูจำนวนนี้หลายคนที่ติดตามน่าจะทราบกันมากนานแล้ว เช่น ตอนที่พ่อน้องแจ้งออกมา คนก็ไปด่า ว่ามันน้อย วันนี้ซาร่าพูด คนว่ามันเยอะมากแล้ว บางทีก็ไม่เข้าใจสังคมโซเชี่ยล ที่ผ่านมาซาร่าก็ไม่เคยอยู่ๆมานั่งป่าวประกาศเรื่องจำนวนเงิน แต่ที่ตอบก็เป็นหลายๆคนตั้งคำถาม ละเราก็ตอบตามเดิมทุกครั้ง แต่เพียงครั้งนี้ อ. ได้ถามว่ามันพอหรอ ก็ตอบตรงๆค่ะ ไม่พอสำหรับค่าใช้จ่ายทุกอย่างจริงๆ และตั้งแต่เกิดเรื่อง หน้าที่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายช่วงแรกเป็นซาร่า ซึ่งทางบ้านฝ่ายชายได้มาช่วยทีหลัง (แต่ระยะเป็นปีแล้วค่ะ)

 

 

ซาร่าจึงมองว่า เราเป็นเสาหลัก เราต้องทำงาน หาเงิน เลี้ยงตัวเองและลูกนะ ส่วนจำนวนเงินจากพ่อน้อง มันคือ โบนัสที่เสริมมา เพราะเราก็ไม่รู้ว่าเงินจำนวนนี้ลูกเราจะได้ไปถึงแค่ไหน ถ้าให้ซาร่าไม่ทำอะไรเลย หวังแต่เงินจากพ่อน้อง คงเป็นไปไม่ได้ค่ะ ซาร่าไม่อยู่กับความคาดหวังที่ไม่มั่นคง เราต้องทำตัวเราให้มั่นคงต่ออนาคตลูกก่อน ซาร่าไม่ได้โทษใครผิดใครถูก ซาร่าโฟกัสที่หน้าที่ตัวเองเป็นหลัก ถามว่าพ่อน้องเข้ามายื่นมือช่วยค่าใช้จ่ายดีไหม มันดีแน่นอนค่ะ ไม่ว่าจำนวนเงินมันจะมากหรือน้อย นั่นคือหน้าที่ ที่พ่อควรพึ่งกระทำ

แต่เมื่อมีคำถามว่า พอ ไหม? ซาร่าไม่สามารถเอาเงินแค่จำนวนนี้เลี้ยงตนและลูกพอค่ะ ไม่ต้องเลี้ยงตัวเองหรอก แค่ลูกก็ไม่พอจริงๆค่ะ ถ้าจะพอจริงๆ มันพอแค่ค่าอาหารการกินเองค่ะ ซาร่าไม่สามารถทราบว่าแต่ละบ้านเลี้ยงลูกกันอย่างไร ใช้จ่ายกันเท่าไร ไม่เคยเอามาเปรียบเทียบ แต่ละบ้านต่างกันแน่นอนค่ะ

 

 

 อย่าลืมว่าเด็กไม่ได้กินแค่ข้าวค่ะ ค่าสังคมน้อง ค่าเรียนเสริมพิเศษ ( ยิมเอย ว่ายน้ำเอย ฝึกภาษาเอย ดนตรีเอย สารพัดค่ะ ) ค่าตั๋วบินไปกลับกทม-ภูเก็ต ค่ารพ/วัคซีน ค่าของเล่น ค่าสวนสนุก ค่าทำกิจกรรม ซาร่าเป็นคนชอบพาลูกออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านค่ะ มันเป็นการปูพื้นฐาน เสริมความรู้สร้างพัฒนาการต่อเด็ก มันสำคัญมากจริงๆ ค่าของใช้ที่จำเป็นของเด็กซึ้งต้องซื้ออยู่เรื่อยเมื่ออายุน้องขยับ ค่าของใช้ในห้องน้ำ ค่าแพมเพิส นม น้ำผลไม้ ชีส อาหารเสริม (น้องทานเก่งมากค่ะ ฮา) ค่าเสื้อผ้าที่ต้องซื้ออยู่เรื่อยตามช่วงอายุ เด็กโตเร็วค่ะ ไม่ใช่ผู้ใหญ่อย่างเราที่ไม่มีความจำเป็นต้องซื้อเสื้อผ้าอยู่ตลอดเวลา ไม่ต้องคิดอะไรมาก บางทีแค่พาน้องไปกินข้าวในห้าง เรามีธุระ มีไปนัด ไปงาน พบปะเพื่อนฝูงน้อง มื้อหนึ่งก็เกือบ 1000 แล้วค่ะ น้องทาน 3 มื้อ และบางคนอาจจะตั้งคำถาม กินแต่ข้าวห้างหรือไง ไม่ค่ะมันก็มีบางวันที่เราไม่ได้ไปไหนอยู่คอนโด เราก็สั่งอาหารตามสั่งมากล่องนึงประมาณ 40 ถึง 50 บาท น้องโตแล้วโตพอที่จะเลือกกินอะไรไม่กินอะไร

 

 

ที่พูดแจกแจงมาส่วนนึง เพียงแค่อยากจะแจ้งให้ทุกคนรู้ว่าน้องมีค่าใช้จ่ายอะไร ทำไมจำนวนเงินนั้นถึงไม่พอ (ถ้าในกรณีที่อยู่เฉยๆไม่ทำอะไรเลยแล้วรอรับเพียงแต่เงินจากฝ่ายชาย ) และซาร่าเองก็ไม่เคยมีความคิดที่อยากจะอยู่เฉยๆไม่ทำงานตั้งแต่แรก ผู้หญิงที่ทำงานไปด้วยเราสามารถเลี้ยงลูกไปด้วยได้สำหรับซาร่าเป็นผู้หญิงที่มีคุณค่าและน่าภูมิใจมากค่ะ ซาร่าอยากเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูก ตอนนี้น้องยังไม่สามารถหาเลี้ยงด้วยตัวเองได้ แต่วันหนึ่งเมื่อน้องเติบโตขึ้นน้องก็ต้องออกไปทำงานหาเลี้ยงตนเองค่ะ

ซาร่าทำได้แค่ปูพื้นฐานสั่งสอนลูก เลี้ยงให้เขาเป็นคนมีคุณภาพ เป็นคนดีของสังคม สามารถเติบโตช่วยเหลือตัวเองได้ ไม่เป็นภาระของคนอื่น ตัวซาร่าเองนั้น คิดว่าการที่เรานำเงินมาทุ่มกับสังคมลูกชีวิตลูกอนาคตลูกความรู้ลูกมันคุ้มค่าค่ะ และยังโชคดีที่ไม่ต้องมีค่าแม่บ้านค่าคนเลี้ยงน้อง เพราะซาร่าเป็นคนที่เลี้ยงลูกเองด้วย2มือแม่

 

 

ซาร่าเองก็ไม่รู้ว่าชีวิตซาร่าและลูกจะต้องเจอกับปัญหาดราม่าของคนนอกไปอีกเมื่อไหร่ แต่ความเป็นจริงก็คงต้องยอมรับว่าเราเป็นคนของสังคม แถมพ่อน้องก็คือเขา มันเป็นอะไรที่เลี่ยงค่อนข้างยาก ทำได้แต่ต้องยอมรับความเป็นจริงและอยู่กับมันให้ได้

และหลายคนก็กลัวว่าเมื่อน้องเติบโตขึ้นจะต้องมารับรู้เรื่องราวทั้งหมด ไม่ต้องห่วงค่ะยังไงน้องต้องรู้ความจริงอยู่แล้ว และซาร่าเชื่อว่าน้องจะต้องเข้าใจ และขอความกรุณาไม่ว่าไม่พาดพิงถึงฝ่ายชายเพราะเค้าไม่ได้ทำผิดอะไรกับเรื่องนี้ เราไม่ได้มีปัญหาอะไรกันค่ะ

ถ้าใครมีโอกาสได้พบปะได้เจอน้อง จะรู้ว่าน้องไม่ใช่ลูกเทวดา น้องเป็นแค่ลูกคนธรรมดา ลูกของแม่คนนี้ ที่รักและอยากปกป้อง เมื่อเรามีโอกาสมากกว่าหลายหลายคนๆ แม่ก็อยากมอบสิ่งดีดีให้กับลูก น้องเป็นเด็กดี เป็นเด็กที่ชอบช่วยเหลือ และเป็นเด็กที่เชื่อฟังแม่มากค่ะ (อวยนิดหนึ่ง )"