posttoday

ว่าด้วยเพลงรัก ในวันแห่งความรัก

13 กุมภาพันธ์ 2559

ความรักกับเพลงรัก มักเป็นสิ่งที่คู่กัน ยิ่งใกล้วันวาเลนไทน์ วันแห่งความรัก เพลงรักยิ่งมีความหมาย

โดย...ตุลย์ จตุรภัทร ภาพ... คลังภาพโพสต์ทูเดย์

ความรักกับเพลงรัก มักเป็นสิ่งที่คู่กัน ยิ่งใกล้วันวาเลนไทน์ วันแห่งความรัก เพลงรักยิ่งมีความหมาย ยิ่งฟังผ่านรายการวิทยุ ยิ่งได้อารมณ์กว่าปกติ คงดี ถ้าเราจะได้พูดคุยกับเหล่าดีเจ ที่จะมาบอกเล่าถึงเพลงรักที่กำลังมาแรง ฟังแล้วฟังอีกได้ไม่มีเบื่อ มีความหมาย และเหมาะจะฟังในวันแห่งความรัก

และอีกมากมาย “ที่เกี่ยวข้องกับเพลงรัก”

ว่าด้วยเพลงรัก ในวันแห่งความรัก ดีเจอ้อย - นภาพร

 

มองสภาพสังคม ผ่านเพลงรัก

ผมมีโอกาสได้พูดคุยกับ ดีเจอ้อย-นภาพร ไตรวิทย์วารีกุล แห่งคลื่นกรีนเวฟ 106.5 เธอเผยว่า ตอนนี้เพลงรักที่กำลังมาแรงและคาดการณ์ว่าจะถูกขอมากที่สุด ในวันวาเลนไทน์ต้องยกให้เพลงสิ่งของของวงเคลียร์ ในฐานะดีเจคนหนึ่ง นภาพร เผยว่า เพลงนี้โดนใจคนส่วนใหญ่ เพราะคนส่วนใหญ่มักคิดว่า ตนเองคือสิ่งไร้ค่าในสายตาของใครคนหนึ่ง มากกว่าจะคิดว่าตนเองคือสิ่งมีค่า แต่พอมีใครอีกคนมารักมาเห็นคุณค่าของเรา เราเลยรู้สึกดี

“หากมองถึงสภาพสังคมในยุคนี้ ความรักของผู้คนอาจเริ่มต้นกันได้ไม่ยากเย็นนัก เริ่มง่าย จบง่ายคนคนหนึ่งก็เลยมีความรักครั้งใหม่ได้บ่อยๆ พอไม่ได้ใช้เวลาดูใจกันอย่างเต็มที่ แล้วได้เห็นมุมแห่งความเป็นจริงของชีวิต หรือได้เห็นมุมแห่งความเป็นคนธรรมดาที่มีข้อดีข้อเสีย แล้วรับข้อเสียไม่ไหว ก็เลยเลิกกัน พอเป็นอย่างนี้บ่อยเข้า เราก็มักคิดว่าเราอาภัพ เราเป็นสิ่งไร้ค่า เริ่มมองตัวเองไม่มีค่าที่ใครจะมารักเราได้นานๆ พอมาฟังเพลงสิ่งของเข้า ก็เลยอินกันใหญ่”

นภาพร มองว่า อาจเพราะยุคสมัยนี้ คนชอบเสพติดความเร็ว ยอมเสียตังค์ค่าไว-ไฟแพง เพียงเพื่อให้ได้มาซึ่งความเร็วในการใช้งาน “เช่นเดียวกับความสัมพันธ์ของคนเรา ที่ชอบใครรักใคร ต้องรีบบอกให้เขารู้หรือบอกไปแล้ว เขาต้องรีบรับรัก ซึ่งความรวดเร็วว่องไวแห่งยุคการสื่อสาร ทำให้เราเสพติดความเร็วว่องไวไปเสียหมด ทั้งๆ ที่หลายเรื่อง มันต้องใช้เวลา โดยเฉพาะเรื่องของความรัก”

ว่าด้วยเพลงรัก ในวันแห่งความรัก

 

หากมองถึงบทบาทของเพลง นภาพร เผยว่า เพลงมันสะท้อนถึงวิธีคิด ทัศนคติในการดำเนินชีวิต หรือแม้กระทั่งภาพของสิ่งต่างๆ รอบตัวในช่วงเวลาที่เพลงนั้นๆ ดัง “อย่างยุคแห่งการเสพติดโซเชียลมีเดีย ผู้คนก็แทบจะไม่เงยหน้ามองใคร ไม่สนใจผู้ใด เราก็เลยได้ฟังเพลงโอมจงเงย ของแสตมป์ อภิวัชร์ หรือเพลงระบายเฉยๆ ของวงรูม 39 ซึ่งถ้าเป็นยุคสมัยก่อน เราคงไม่มีเพลงแบบนี้”

ลักษณะของเพลงอีกรูปแบบหนึ่งที่ตอนนี้มีเพิ่มมากขึ้น นภาพร เผยว่า มันคือเพลงที่สะท้อนถึงการรักคนมีเจ้าของ และเพลงที่สะท้อนถึงความรักที่ไม่จำกัดเพศ “เพลงทั้งที่ผิดก็ยังรัก ของวงเอบีนอร์มอล เลยดังถล่มทลาย หรือเพลงรักไม่มีเงื่อนไข ของนัท-ต้อล ก็กินใจและโดนใจคนที่รักเพศเดียวกันมาก สำหรับแนวเพลงอกหัก สมัยก่อนจะออกแนวต้องตายไปต่อหน้าต่อตา แต่เพลงอกหักในสมัยนี้จะสะท้อนออกมาว่า เจ็บปวดแค่ไหนก็ตาม มันก็เป็นความเจ็บปวดที่ยังทนได้ ยังเข้าใจได้ ยังอยู่ได้สบายดีเสียใจมั้ย เสียใจ แต่ก็ยังต้องเดินหน้าต่อ”

ว่าด้วยเพลงรัก ในวันแห่งความรัก คูลเจแนน - กัญดา

 

 

วงจรรัก และเพลงรัก

เมื่อหมุนคลื่นวิทยุ เอ๊ย ไม่ใช่สิ คลิกไปที่คลื่นคูลฟาเรนไฮต์ 93 แล้วได้ทักทายกับ คูลเจแนน-กัญดา ศรีธรรมูปถัมภ์ เธอบอกเล่าให้ผมฟังว่าเพลงรักที่มาแรงในตอนนี้ต้องยกให้เพลงประกอบละคร ที่เมื่อเพลงดังแล้ว มักดังนานละครจบไปแล้ว เพลงก็ยังดังอยู่ “อย่างตอนนี้เพลงที่ถูกขอมากที่สุด คือเพลงเธอคือลมหายใจ ประกอบละครเรื่องตามรักคืนใจ ร้องโดย จั๊ก ชวิน หรือเพลงเหตุผลของคนไม่ดี ประกอบละครเรื่องสองหัวใจนี้...เพื่อเธอ ร้องโดย โอปอ ประพุทธ์ ซึ่งพระเอกของเรื่องก็อย่างที่รู้ๆ กันว่าระดับตัวท็อปของวงการ ไม่ว่าจะเป็นณเดชน์ หรือมาริโอ้”

แน่นอนว่า เพลงดังหรือเพลงฮิตมักสะท้อนถึงความรักของคนหนุ่มสาว โดยส่วนใหญ่ในแต่ละยุคสมัย กัญดา เผยว่าหากมองถึงเนื้อหาของเพลงดังหรือเพลงฮิตในแต่ละยุคสมัยมักจะอยู่ในวงจรความรักเดียวกันหมด และไม่ว่าคนหนุ่มสาวในยุคสมัยใด ต่างต้องพบเจอวงจรความรักนี้อย่างหลีกหนีไม่พ้น “ชีวิตคนเรามักวนเวียนอยู่กับการแอบรักกุ๊กกิ๊ก อินเลิฟแล้วเข้าไปสู่วัฏจักรของการอกหัก ผิดหวัง อยู่ตัวคนเดียว ล้วก็กลับมาแอบรัก กุ๊กกิ๊ก อินเลิฟ อกหัก ผิดหวัง อยู่ตัวคนเดียว วนเวียนไปอย่างนี้เรื่อยๆ”

ว่าด้วยเพลงรัก ในวันแห่งความรัก รูม 39

 

กัญดา เผยว่า ทุกจังหวะชีวิตของคนเรา มักมีเรื่องราวความรักไม่ในแง่มุมใดก็แง่มุมหนึ่ง ในจังหวะชีวิตหนึ่ง มักมีเพลงที่ตรงใจ โดนใจ ตรงกับเรื่องราวชีวิตของตัวเอง แต่เมื่อกาลเวลาเปลี่ยน จังหวะชีวิตเปลี่ยน เรื่องราวชีวิตเปลี่ยนเพลงที่ตรงใจ โดนใจ ตรงกับเรื่องราวชีวิตของตัวเอง ย่อมเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย “เพลงที่ขอหน้าไมค์ให้กับใครสักคนก็เปลี่ยนไปตามกาลเวลาด้วยนะคะ ในยุคสมัยหนึ่ง เพลงที่เราอยากขอหน้าไมค์ให้คนพิเศษ อาจเป็นเพลงลมหายใจ ของบอย โกสิยพงษ์ แต่พอมาในยุคสมัยนี้อาจต้องเลือกเพลงจะบอกเธอว่ารัก ของวงพาร์กินสัน ซึ่งถึงแม้เพลงเพลงหนึ่งจะเป็นเพลงฮิตตลอดกาล แต่เพลงในแต่ละยุคสมัย ในแต่ละช่วงเวลาก็จะมีเพลงดีๆเพลงโดนๆ มาให้เราชอบได้อยู่เสมอ นี่คือเรื่องจริง”

หากมองถึงความเป็นมากกว่าเพลงเพลงหนึ่ง กัญดาเผยว่า เพลงเป็นเหมือนยาวิเศษ ที่ทำให้เราทุกคนได้เต้น ได้ยิ้มได้โยกหัวตามไปด้วย “แนนเชื่อว่าเพลงมันช่วยบริหารจิตใจของเราในทุกๆ ช่วงเวลาได้นะคะ ไม่ว่าเราจะอยู่ในอารมณ์ดีไม่ดี เศร้า หรือเหงา และเพลงก็เข้าถึงเราทุกคนได้ตั้งแต่เราอยู่ในท้องเรื่อยมา นั่นเป็นเพราะเพลงคือเพื่อนของเราในทุกๆ อารมณ์ และในทุกๆ เวลา และสามารถขับเคลื่อนพลังในร่างกายและในจิตใจของเราได้เป็นอย่างดี”

ท้ายสุด กัญดาฝากข้อคิดสำหรับคนฟังเพลงไว้ว่า เมื่อเพลงแต่ละเพลงมีความสำคัญกับชีวิตเรา ให้ความสุขแก่เราได้อย่างมากมายมหาศาล เราก็ควรให้ความสำคัญ และมอบความสุขให้กับศิลปินและผู้สร้างสรรค์เพลงทุกเพลงด้วยเช่นเดียวกัน “จากที่เราเคยรณรงค์ให้คนฟังเพลงงดซื้อเทปผีซีดีเถื่อน ยุคต่อมารณรงค์ให้ดาวน์โหลดเพลงอย่างถูกต้องตามกฎหมายมาในยุคสมัยนี้ เพลงมันฟังกันได้ฟรียิ่งกว่าฟรีทางยูทูบ สิ่งที่เราคนฟังเพลงจะช่วยศิลปินและผู้สร้างสรรค์งานเพลงได้นั่นคือ ดูโฆษณาก่อนเข้าเพลงให้จบอย่าสกิป เพื่อที่เงินที่ได้จากการชมโฆษณาของเรา จะถูกส่งต่อไปยังศิลปินและผู้สร้างสรรค์เพลงเพลงนั้น”

ว่าด้วยเพลงรัก ในวันแห่งความรัก ดีเจคาร์ลา

 

เพลงรัก ซื่อสัตย์น้อยลง กิเลสเพิ่มขึ้น

เมื่อคลิกไปที่คลื่น MET 107 แล้วได้พูดคุยกับดีเจคาร์ลา ปอร์เทอร์ เราก็ได้รู้อะไรในอีกแง่มุมหนึ่งเกี่ยวกับความรักความสัมพันธ์ของวัยรุ่นยุคใหม่ ผ่านเพลงฮิตอย่างเพลง Sorry ของจัสติน บีเบอร์ ที่ติดอันดับหนึ่งในคลื่นวิทยุถึงหกสัปดาห์

“เนื้อหาของเพลงเพลงนี้สะท้อนให้เราได้เห็นว่า กับความรักที่จบลงแบบไม่สวยงาม หากมองในมุมของผู้ชาย ผู้ชายส่วนใหญ่เวลาทำผิดมักปากแข็ง ทั้งๆ ที่ลึกๆ ข้างในก็รู้สึกผิด รู้สึกเสียใจ และอยากเอ่ยคำขอโทษ หากมองในมุมของผู้หญิง สิ่งที่ผู้หญิงต้องการก็มักเป็นคำขอโทษและการสำนึกผิดจากผู้ชาย แต่ที่ไม่อาจกลับมาคืนดีได้ อาจเป็นเพราะผู้ชายเอ่ยคำขอโทษในวันเวลาที่สายเกินไป ผู้หญิงก็เลยต้องเดินจากลาแบบไม่ย้อนคืนกลับมา”

ว่าด้วยเพลงรัก ในวันแห่งความรัก

 

หากมองเพลงรักกับความรักของคนหนุ่มสาวในสมัยนี้บทเพลงก็สะท้อนให้เราได้เห็นอะไรอยู่หลายอย่าง แต่ที่สำคัญๆคาร์ลา เผยว่า มันสะท้อนให้เราได้เห็นถึงความซื่อสัตย์ของคนหนุ่มสาวที่มีน้อยลง แต่มีกิเลสเพิ่มมากขึ้น

“เราอาจมีช่องทางที่ทำให้เราได้รู้จักกันง่ายขึ้น สมัยก่อนตอนคาร์ลาอยู่ไฮสกูล เวลาจะรู้จักผู้ชายสักคนค่อนข้างยาก มันไม่ได้มีแบบว่า เฮ้ยแก เปิดไอจีดูสิ ผู้ชายคนนี้น่ารักดีเนอะ อยากเป็นแฟนด้วย ไม่มีแบบนี้นะ ไม่มีเลย มากสุดคือไฮไฟ ซึ่งบางคนเล่น บางคนก็ไม่ได้เล่น แล้วการที่จะขอไลน์ ขอไอจี หรือตามเฟซบุ๊กคนที่เราชอบ มันง่ายมากเมื่อก่อนผู้ชายจะไปขอเบอร์สาว คิดแล้วคิดอีก อายม้วนต้วนแต่เดี๋ยวนี้ขอไลน์คุยกันแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก อีกทั้งคนหนุ่มสาวสมัยนี้หน้าตาก็หล่อสวยกันได้ง่ายขึ้น ศัลยกรรมช่วยเราได้ จนทำให้ผู้ชายหล่อผู้หญิงแซ่บมีเพียบ จนทำให้เวลาเราฟังเพลงรักสมัยนี้ รู้สึกได้เลยทันทีว่า คนเราซื่อสัตย์ต่อน้อยลงเหลือเกิน แถมยังแอบปันใจไปให้ใครอีกคนเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย”

หากพูดถึงพลังวิเศษของบทเพลงสากล คาร์ลา เผยว่าทุกๆ เพลงมีผลกับตัวเราไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นความไพเราะของบทเพลงที่กระทบใจ ช่วยเราในเรื่องของความรู้สึก เรายังได้เรียนรู้ภาษาอังกฤษผ่านการเรียนรู้เนื้อหาของบทเพลง “มีหลายคนบอกคาร์ลามาว่า สมัยก่อนพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ สมัยนี้พูดได้แล้ว เข้าใจมากขึ้น ใช้งานได้เป็น แล้วก็เห็นถึงความสวยงามของบทเพลงสากลได้มากขึ้น ทำให้เห็นว่าเพลงสากลมันมีประโยชน์กับตัวเราเอง ทั้งในแง่ของอารมณ์ความรู้สึกและฝึกให้เราใช้ภาษาอังกฤษได้ดี”

ว่าด้วยเพลงรัก ในวันแห่งความรัก

 

ว่าด้วยเพลงรัก ในวันแห่งความรัก เอบีนอร์มอล