ปันผลสะพัด3แสนล้าน

นักวิเคราะห์รุมเชียร์เก็บหุ้นปันผลดี เชื่อเงินสะพัด 3 แสนล้าน เข้าซื้อก่อนขึ้นเครื่องหมาย XD 2 เดือน มีโอกาสได้กำไรเกิน 10%

นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ เปิดเผยว่า แนวโน้มการลงทุนเดือน ก.พ. นักลงทุนควรให้น้ำหนักกับหุ้นปันผลเพิ่มขึ้น เนื่องจากสถิติในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา พบว่าหุ้นปันผลในดัชนี SETHD (SET High Dividend 30 Index) สามารถสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยในเดือน ก.พ. ถึง 3.2% และถือว่าเป็นเดือนที่ให้ผลตอบแทนสูงสุด

สำหรับสาเหตุที่หุ้นปันผลสามารถสร้างผลตอบแทนในเดือน ก.พ.ได้ดีที่สุด เนื่องจากเป็นช่วงที่หลายบริษัทเตรียมประกาศจ่ายปันผล ทำให้นักลงทุนเข้ามาดักซื้อหุ้นในช่วงเวลาดังกล่าว และมีโอกาสที่หุ้นปันผลจะปรับตัวได้ดีกว่าหุ้นประเภทเน้นการเติบโตที่ราคาเริ่มอยู่ในระดับสูงแล้วช่วงนี้

สำหรับเกณฑ์การคัดเลือกหุ้นปันผลจะเน้นหุ้นที่อยู่ในดัชนี SETHD ที่มีการจ่ายปันผลต่อเนื่องอย่างน้อย 3 ปี และมีอัตราผลตอบแทนเงินปันผลคาดหวังสูงกว่า 4.2% ซึ่งเป็นระดับเงินปันผลคาดการณ์ล่าสุดประจำปี 2560 ของดัชนี SETHD ขณะเดียวกัน ในแง่ราคาหุ้นที่ซื้อขายในปัจจุบันจะต้องต่ำกว่าราคาเป้าหมายปีนี้ของนักวิเคราะห์ในตลาดอย่างน้อย 5%

จากการศึกษาข้างต้น ฝ่ายวิเคราะห์พบหุ้นที่ได้ตามเกณฑ์คัดเลือกอยู่ทั้งสิ้น 2 บริษัท ประกอบด้วย หุ้นบริษัท เอพี (ไทยแลนด์) (AP) ซึ่งเป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยเดือน ก.พ. ในระดับสูงที่ 9.2% และให้ผลตอบแทนในเดือนนี้เป็นบวกตลอด 7 ปีหลังสุด อีกบริษัทคือ บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป (TISCO) ถือเป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยเดือน ก.พ. ในระดับสูงที่ 6.5%

สำหรับหุ้นปันผลอื่นๆ ที่น่าสนใจรองลงมาตามเกณฑ์การคัดเลือกของฝ่ายวิเคราะห์ ประกอบด้วย AMATA HANA KTB QH SCC SIRI TCAP

นายประสิทธิ์ รัตนกิจกมล นักวิเคราะห์ บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า หลังจาก บจ.ประกาศงบปีก็จะมีการประกาศจ่ายเงินปันผลส่วนใหญ่จะอยู่ช่วงเดือน มี.ค.-พ.ค. ซึ่งจะทำให้หุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผลในระดับสูงได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษ

จากการวิเคราะห์สถิติย้อนหลัง 5 ปี พบว่าหุ้นที่มีอัตราเงินปันผลมากกว่า 3% ราคาหุ้นจะปรับตัวเพิ่มขึ้นก่อนขึ้นเครื่องหมาย XD เสมอ โดยหุ้นที่จ่ายปันผลปีละ 1 ครั้ง หากซื้อก่อนวันขึ้น XD ราว 2 เดือนแล้ว ขายทำกำไรในวันขึ้น XD จะมีผลตอบแทนจากราคาหุ้นเฉลี่ยถึง 11.66% หากลดระยะเวลาลงผลตอบแทนก็จะลดลงตามไปด้วย เช่น 1.5 เดือน ผลตอบแทนเหลือ 9.43% หรือ 1 เดือน ผลตอบแทนเหลือ 6.37% และหากเหลือ 2 สัปดาห์ผลตอบแทนจะอยู่ที่ 2.31% ยิ่งถ้าซื้อก่อนเพียง 1 สัปดาห์ ผลตอบแทนเฉลี่ยจะอยู่ที่เพียง 0.50% เท่านั้น

บล.เอเซีย พลัส ได้คัดเลือกหุ้นในกลุ่มปันผลโดยเน้นหุ้นที่มีโอกาสเพิ่มขึ้นมากกว่า 10% ขึ้นไป พร้อมกับมีอัตราการจ่ายเงินปันผลในอดีตสูง และราคาหุ้นมักปรับตัวเพิ่มขึ้นก่อน XD เสมอ

สำหรับ บล.ทิสโก้ ระบุว่า หุ้นที่จะให้อัตราเงินปันผลเกิน 4% จากระดับราคาปัจจุบัน สำหรับงบปี 2559 ได้แก่ บริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (ASP) บริษัท นามยง เทอร์มินัล (NYT) และบริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ (QH)

นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.ธนชาต กล่าวว่า กลยุทธ์ในการลงทุนในช่วงจังหวะนี้คือ แนะนำให้นักลงทุนเลือกซื้อหุ้นปันผลเพราะในแต่ละปีเม็ดเงินจากเงินปันผลของ บจ.ที่ออกมาจะอยู่ในระดับ 3 แสนล้านบาท โดยให้เลือกซื้อหุ้นปันผลที่มีผลกำไรเติบโตเท่านั้น เพราะจะช่วยเพิ่มโมเมนตัมความน่าสนใจต่อนักลงทุน

ทั้งนี้ หุ้นมีแนวโน้มปันผลดีและมีแนวโน้มผลประกอบการดีของ บล.ธนชาต ได้แก่ ธนาคารเกียรตินาคิน (KKP) แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ (LPN) QH ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส (HANA) ธนาคารกรุงไทย (KTB) เอพี (ไทยแลนด์) (AP) ราชธานีลิสซิ่ง (THANI)