posttoday

ทรัมป์-เกาหลีเหนือ หนุนทองขึ้นต่อ!

22 สิงหาคม 2560

โดย...นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานบริษัท เอ็มทีเอสโกลด์ แม่ทองสุก

โดย...นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานบริษัท เอ็มทีเอสโกลด์ แม่ทองสุก

สภาพตลาดทองคำโดยองค์รวมดูเหมือนจะอยู่ในทิศทางเชิงบวก และมีสภาวะเกื้อหนุนจากข่าวต่างๆอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเด็นความตึงเครียดระหว่างสหรัฐ-เกาหลีเหนือ ที่เปรียบเสมือนปัจจัยแรกที่ผลักดันให้ทองคำปรับตัวขึ้นได้เกือบ 10 ดอลลาร์สหรัฐ โดยราคาปรับขึ้นอย่างรวดเร็วจากระดับ 1,254 ดอลลาร์ และปรับตัวกลับขึ้นมาแถว 1,280 ดอลลาร์ หลังจากที่เกาหลีเหนือเผยแผนยุทธศาสตร์ที่จะโจมตีเกาะกวมของสหรัฐ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในที่มั่นสำคัญของกองกำลังสหรัฐ โดยจะเป็นการโจมตีด้วยขีปนาวุธพิสัยระยะกลางและระยะไกล 4 ลูก ด้วยกัน

แต่แล้วในสัปดาห์นี้แผนการโจมตีดังกล่าวถูกชะลอออกไป เนื่องจาก คิมจองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือต้องการดูท่าทีของสหรัฐมากกว่านี้ ก่อนตัดสินใจอนุมัติการโจมตีดังกล่าว ขณะที่ทางสหรัฐเองก็ตอบโต้ด้วยท่าทีแข็งกร้าวว่า หากเกาหลีเหนือโจมตีจริงอาจก่อให้เกิดการเอาคืนอย่างรุนแรง แต่สถานการณ์ที่เป็นเพียงการโต้กันไปมาทางคำพูด และยังไม่เกิดภาวะตึงเครียดหรือทวีความรุนแรงที่มากขึ้น ดูเหมือนจะไม่ส่งผลให้ราคาอ่อนตัวลงไปมากนัก โดยตลาดทองคำกลับมาสนใจรายงานประชุมเฟดประจำเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา

รายงานล่าสุดสะท้อนให้เห็นว่าบรรดาสมาชิกเฟดมีความกังวลเกี่ยวกับการอ่อนตัวของเงินเฟ้อ ซึ่งสมาชิกเฟดบางส่วนต้องการรอพิสูจน์ว่าเงินเฟ้อจะสามารถขยายตัวได้ตามเป้า 2% ก่อน จึงจะดำเนินการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นลำดับต่อไป ขณะเดียวกันสมาชิกเฟดบางรายก็เริ่มกังวลต่อการจัดการเรื่องปัญหาเพดานหนี้ของสหรัฐที่ดูเหมือนจะใกล้เข้ามาทุกขณะในเดือน ต.ค.นี้ เพราะอาจส่งผลกระทบต่อการกำหนดกรอบเวลาการปรับลดยอดงบดุลของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งคงต้องรอให้สภาคองเกรสมีการนำเรื่องดังกล่าวเข้าประชุมเพื่อหาทางออก

ดังนั้น ตลาดการเงินและบรรดานักลงทุนจึงเริ่มลดทอนโอกาสการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในเดือนธ.ค. กลับมาต่ำกว่าระดับ 50% อีกครั้ง และไฮไลต์สำคัญสำหรับสัปดาห์นี้ที่เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ราคาดีดกลับขึ้นไปทดสอบ 1,290 ดอลลาร์ ได้อีกครั้ง มาจากปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองของสหรัฐ อันจะเห็นได้จากการที่ผู้นำภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมประกาศลาออกจากสภาที่ปรึกษาทางภาคธุรกิจและการผลิต เพื่อประท้วงการเหยียดชนชาติของทรัมป์จากเหตุการณ์ที่เมืองชาร์ลอตต์วิลส์  จึงทำให้ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ตัดสินใจยุบทั้งสองสภาดังกล่าวลง และทำให้ตลาดการเงินสั่นคลอน

ทั้งนี้ เนื่องจากนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับความสามารถของทีมบริหารของทรัมป์ว่าจะสามารถผลักดันนโยบายได้ตามคำกล่าวอ้างอีกหรือไม่ โดยเฉพาะนโยบายปรับลดภาษีและนโยบายทางเศรษฐกิจอื่นๆ จึงทำให้นักวิเคราะห์ต่างมองว่า หากความวุ่นวายการเมืองสหรัฐและแนวโน้มเฟดชะลอดอกเบี้ยยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ก็อาจทำให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นเหนือ 1,300 ดอลลาร์ได้

วิเคราะห์ทางเทคนิค

ราคาทองคำยังคงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องไปทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบปี ทะลุจุดสูงสุดเดิมที่ระดับ 1,293 ดอลลาร์ ขึ้นมาได้ในช่วงเย็นวันศุกร์ที่ผ่านมา จึงวิเคราะห์ได้ว่า ราคาทองคำน่าจะมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อเนื่องได้ไปหาระดับเป้าหมายใหม่บริเวณ 1,310 ดอลลาร์ โดยที่ดัชนีชี้นำทุกตัวยังส่งสัญญาณบวกต่อเนื่อง ซึ่งระยะยาวยังคาดว่าราคาทองคำน่าจะมีโอกาสทดสอบระดับ 1,365 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดเดิมถัดไปของปีที่แล้ว โดยที่สัปดาห์หน้าคาดว่าราคาทองคำจะอยู่ในกรอบ 1,280 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับแนวรับและมีแนวต้านบริเวณ 1,310 ดอลลาร์ ประเด็นที่นักลงทุนต้องติดตามคือ ถ้อยแถลงของประธานเฟดสาขาต่างๆ ที่จะทยอยออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐและเรื่องดอกเบี้ย รวมไปถึงตัวเลขเศรษฐกิจที่จะประกาศออกมา

ปัจจัยภายนอกที่เข้ามากระทบอยู่ประจำตามที่ได้กล่าวข้างต้น คือความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี และความสับสนวุ่นวายจากการบริหารงานของประธานาธิบดีสหรัฐที่ดูจะไม่มีความลงตัว