posttoday

Sell in May and go away?

25 เมษายน 2560

โดย...อรลักษณ์ วงศ์มาศา นักวิเคราะห์อนุพันธ์ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด

โดย...อรลักษณ์ วงศ์มาศา นักวิเคราะห์อนุพันธ์ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด

Sell in May and go away คือปรากฏการณ์ที่ตลาดหุ้นเผชิญแรงขายในเดือน พ.ค. และมีแนวโน้มลดลง หากดูจากสถิติ 10 ปีที่ผ่านมาดัชนี SET50 ในเดือน พ.ค. ลดลง 7 ปี จาก 10 ปี (คิดเป็น 70%) ในปีนี้คาดว่าจะเริ่มมีแรงขายทำกำไรหลังต้นเดือน พ.ค. เมื่อบริษัทขนาดใหญ่ประกาศผลกำไรไตรมาสแรกปีนี้

ผลสำรวจของนักวิเคราะห์ที่คาดกำไรไตรมาสแรกปีนี้ของบริษัทที่อยู่ในดัชนี SET50 จะลดลงราว 9% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนประกอบกับการขึ้น XD ของหุ้นขนาดใหญ่ เช่น ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) วันที่ 24 เม.ย. ส่งผลต่อดัชนี SET50 ราว 1.4 จุด และบริษัท ซีพีออลล์ (CPALL) วันที่ 27 เม.ย. ส่งผลราว 0.9 จุด โดยเฉพาะในระหว่างวันที่ 2-8 พ.ค.นี้ จะมีการขึ้น XD หุ้นในดัชนี SET50 รวม 11 ตัวส่งผลราว 3.3 จุดที่จะกดดันตลาดหุ้นลดลงได้

ด้านต่างประเทศ ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ขับเคลื่อนนโยบายได้เร็วตามที่ตลาดคาดหวังไว้ โดยเฉพาะการปรับลดภาษีนิติบุคคล

แต่การผ่านกฎหมายในสภาคองเกรสยังเป็นเรื่องยาก และอาจต้องรอผ่านกฎหมายประกันสุขภาพฉบับใหม่ในช่วงครึ่งหลังของปี รวมทั้งคำพูดของทรัมป์ที่กลับลำจากที่เคยประกาศไว้  นอกจากนี้ทรัมป์ยังคงแทรกแซงค่าเงินโดยใช้คำพูดโดยให้สัมภาษณ์ว่าค่าเงินเหรียญสหรัฐในปัจจุบันแข็งค่าเกินไป เป็นความกังวลว่าทรัมป์จะดำเนินนโยบายได้ตามที่สัญญาไว้หรือไม่

ในระยะสั้นมีปัจจัยเสี่ยงคือการจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบแรกในวันที่ 23 เม.ย.นี้ ผู้สมัครที่ได้รับคะแนนสูงสุดอันดับ 1 และ 2 ในการเลือกตั้งรอบแรกจะมีสิทธิเลือกตั้งในรอบ 2 วันที่ 7 พ.ค.นี้ หากดูจากผลโพลล่าสุด ผู้สมัครคนสำคัญ คือ มารีน เลอเปน จากพรรคขวาจัด ผู้ซึ่งประกาศนโยบายจะนำฝรั่งเศสออกจากสหภาพยุโรป มีคะแนนเป็นอันดับ 2 ทำให้ได้รับสิทธิลงเลือกตั้งรอบ 2

หากเลอเปนได้สิทธิลงเลือกตั้งรอบ 2 และมีแนวโน้มว่าคะแนนจะตีตื้นกับผู้สมัครที่ได้รับการคาดหมายว่าจะเป็นประธานาธิบดี คือ เอมมานูเอล มาครอง อาจกลายมาเป็นความเสี่ยงกดดันให้ตลาดหุ้นยุโรปปรับลงแรงได้  หากดูจากผลโพลซึ่งชี้ว่าคะแนนเลือกตั้งรอบ 2 ของเลอเปนยังคงตามห่างจากมาครองมาก (34% ต่อ 66%) ทำให้คาดว่ามีความเป็นไปได้น้อยที่เลอเปนจะได้รับชัยชนะ นอกจากนี้ยังให้ติดตามความตึงเครียดระหว่างเกาหลีเหนือกับสหรัฐ ประเมินว่าไม่น่าเกิดสถานการณ์บานปลาย

ด้านทิศทางน้ำมันในระยะสั้นอาจแกว่งตัวลงได้บ้างแต่ไม่มากนัก เนื่องจากรายงานกลุ่มผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ของโลก (โอเปก) เดือนที่ผ่านมาชี้ว่าประเทศที่ร่วมทำข้อตกลงได้ปรับลดการผลิตน้ำมันตามข้อตกลงที่ทำไว้แล้ว ถือเป็นสัญญาณของความร่วมมือกัน ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ระดับสูงของหลายประเทศในโอเปกต่างส่งสัญญาณว่าต้องการขยายเวลาข้อตกลงต่อเนื่องไปในช่วงครึ่งหลังของปี

ในมุมมองของนักวิเคราะห์พื้นฐาน KGI คาดว่ากลุ่มโอเปกและผู้ผลิตน้ำมันนอกโอเปกน่าจะบรรลุการขยายเวลาข้อตกลงต่อไปได้ ประกอบกับคาดว่าภาวะความต้องการซื้อและการผลิตน้ำมันจะเริ่มเข้าสู่ภาวะสมดุลได้ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ รวมกันจะเป็นปัจจัยหนุนให้ราคาน้ำมันไม่ปรับลดลงมากนัก

อย่างไรก็ตาม มีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องตามดูคือปริมาณผลิตน้ำมันสหรัฐที่ยังคงปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

กลยุทธ์การลงทุนเดือน พ.ค. ในช่วงแรกอาจจะปรับดีดขึ้นได้เพื่อเก็งกำไรผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน หากพ้นช่วงต้นเดือน ซึ่งบริษัทขนาดใหญ่น่าจะประกาศผลประกอบการออกมาแล้ว ต้องระวังแรงขายทำกำไร โดยเฉพาะช่วงหลังการขึ้น XD ของหุ้นขนาดใหญ่ หรือเมื่อสัญญา S50M17 ปรับขึ้นไปถึงเป้าหมายที่แนวต้าน 1,005-1,015 จุด อาจมีแรงขายทำกำไรฉุดให้แกว่งตัวลงได้เล็กน้อย แนะนำให้เทรดดิ้งสัญญา S50M17 โดยเปิด Short ที่แนวต้านใกล้ 1,005-1,015 จุด เพื่อรอปิดสถานะช่วงชะลอลงมาที่แนวรับ 980/970 โดยให้ตัดขาดทุนหากผิดคาดทะลุเหนือ 1,015 หาก S50M17 ลงมาใกล้แนวรับ 980/970 เป็นจังหวะให้เข้าสะสม Long อีกครั้งเพื่อรอขายในเดือนหน้าที่แนวต้าน 995/1005 จุด โดยให้จุดตัดขาดทุนหากทะลุต่ำกว่า 970

สำหรับสัญญาทองคำล่วงหน้า ราคาทองคำจะแกว่งตัวขึ้นจำกัดหากไม่สามารถปรับขึ้นและทะลุผ่านแนวต้าน 21,200 บาทขึ้นไปได้ น่าจะถูกขายทำกำไรสลับชะลอลงทดสอบแนวรับ 20,500/20,300 บาท โดยยังคงคำแนะนำ ลงซื้อขึ้นขายในสัญญา GF10M17 โดยแนะนำซื้อเมื่อชะลอลงมาแนวรับ 20,500/20,300 บาท เพื่อรอขายในช่วงเด้งขึ้นไปใกล้แนวต้าน 20,900/21,200 บาท โดยให้ตัดขาดทุนหากหลุดต่ำกว่า 20,300 บาท