posttoday

ไทยพาณิชย์ให้กู้บ้านภูธรวูบ

29 สิงหาคม 2559

ยอดซื้อคอนโดมิเนียมต่างจังหวัดหดตัว กดสินเชื่อบ้านไทยพาณิชย์ในต่างจังหวัดวูบ 24%

ยอดซื้อคอนโดมิเนียมต่างจังหวัดหดตัว กดสินเชื่อบ้านไทยพาณิชย์ในต่างจังหวัดวูบ 24%

นางพิกุล ศรีมหันต์ รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุดสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและธุรกิจรายย่อย ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า สินเชื่อบ้านปล่อยใหม่ในตลาดต่างจังหวัดลดลง 24% ทำให้สัดส่วนสินเชื่อใหม่ในต่างจังหวัดเหลือ 40% และกรุงเทพฯ 60% จากปีที่แล้วมีสัดส่วน 50% เท่ากัน เนื่องจากในอดีตสินเชื่อที่ปล่อยในต่างจังหวัดเติบโตจากคอนโด แต่ปีนี้คอนโดในต่างจังหวัดชะลอลงมาก เทียบกับแนวราบที่ยังปล่อยได้เป็นปกติ ขณะที่ตลาดกรุงเทพฯ เติบโตได้ดี จากยอดโอนคอนโดราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ที่เพิ่มขึ้นจากมาตรการของภาครัฐ

ทั้งนี้ ภาพรวมตลาดสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยปีนี้ค่อนข้างทรงตัว โดยคาดว่าทั้งระบบจะมีการปล่อยสินเชื่อบ้าน 5.78 แสนล้านบาท เท่ากับปีที่ผ่านมา โดย
ครึ่งปีแรกมียอดปล่อยสินเชื่อบ้านแล้ว 2.9 แสนล้านบาท เป็นการขยายตัวจากมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ที่ช่วยให้เกิดการเร่งโอนที่อยู่อาศัยในสิ้นเดือน เม.ย. จึงดึงความต้องการล่วงหน้าออกไปส่วนหนึ่ง

สำหรับธนาคารไทยพาณิชย์ตั้งเป้าสินเชื่อบ้านปล่อยใหม่ปีนี้ 1.1 แสนล้านบาท ไม่เติบโตเมื่อเทียบกับปี 2558 ที่ปล่อยได้ 1.2 แสนล้านบาท โดยครึ่งปีแรกธนาคารปล่อยสินเชื่อใหม่ 6 หมื่นล้านบาท ลดลงเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ปล่อยใหม่ 6.3 หมื่นล้านบาท แต่ทั้งปีคาดว่าจะปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ตามเป้า ทำให้มียอดคงค้างสินเชื่อบ้าน 6 แสนล้านบาท เติบโต 5% จาก 5.7 แสนล้านบาท เมื่อสิ้นปีที่แล้ว

“ยอดคงค้างสินเชื่อบ้านปีนี้จะเติบโตลดลงเล็กน้อย เมื่อเทียบกับปีที่แล้วที่เคยเติบโต 9% เนื่องจากพอร์ตเก่าแก่มีลูกค้าเดิมที่ใกล้ครบอายุสัญญาเร่งชำระคืนจำนวนมาก โดยแต่ละปีมียอดชำระคืน 7 หมื่นล้านบาท ปล่อยใหม่ 1.1 แสนล้านบาท ยอดคงค้างจะเติบโตสุทธิประมาณ 3 หมื่นล้านบาท/ปี”นางพิกุล กล่าว

อย่างไรก็ดี กลยุทธ์สินเชื่อบ้านไม่เน้นการเติบโตมาก แต่มุ่งเน้นการบริหารจัดการหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) เพราะเศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอน โดยเอ็นพีแอลเคยปรับขึ้นไปถึง 2% ของสินเชื่อรวม ก่อนการบริหารจัดการจนปรับลดลงเหลือ 1.8-1.9% เมื่อสิ้นปี ปัจจุบันยังสามารถบริหารจัดการให้คงที่ในระดับเดิม แต่ยังวางใจไม่ได้ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด โดยเอ็นพีแอลส่วนใหญ่มาจากลูกค้ากลุ่มที่ทำธุรกิจส่วนตัว สายป่านไม่ยาว ซึ่งธนาคารพยายามช่วยเหลือผ่อนปรนให้ลูกค้า เพื่อไม่ให้เอ็นพีแอลเกิน 2% จนถึงสิ้นปีนี้

สำหรับยอดปฏิเสธสินเชื่อปรับลดลงจาก 20% ในปีที่แล้ว เหลือ 17% จากระบบคัดกรองลูกค้า (มาสเตอร์ สกอร์ การ์ด : เอ็มซีเอส) โดยลูกค้า 90% ที่ขอสินเชื่อบ้านเป็นลูกค้าเดิมที่มีธุรกรรมกับธนาคารไทยพาณิชย์อยู่แล้ว ไม่ว่าฝากเงิน หรือบัตรเครดิต ซึ่งบันทึกเป็นสกอริ่งที่ทำให้เห็นศักยภาพของลูกค้า ทำให้ยอดปฏิเสธสินเชื่อลดลง ส่วนกลุ่มที่ถูกปฏิเสธสินเชื่อ สาเหตุส่วนใหญ่มาจากภาระหนี้ที่ไม่ผ่านเกณฑ์

นางพิกุล กล่าวว่า ธนาคารจะทำงานร่วมกับพันธมิตรผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (ดีเวลลอปเปอร์) ใกล้ชิดขึ้น ในภาวะที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังทรงตัวอยู่ ยอดเปิดโครงการใหม่ไม่ขยายตัว เพราะสต๊อกบ้านเหลือขายยังมีอยู่มาก ดีเวลลอปเปอร์ต้องออกโปรโมชั่นแรงมากขึ้นเพื่อดึงดูดผู้ซื้อ และส่วนใหญ่จะเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ที่ยังเปิดโครงการ หรือหน้าใหม่กลุ่มเจ้าของที่ดินที่รวยมากมาทำตลาด ขณะที่รายเล็กเริ่มหายไปจากตลาด

ขณะที่รูปแบบการลงทุนโดยเฉพาะโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ ผู้ประกอบการจะต้องหาพันธมิตรเข้ามาร่วมทุน ซึ่งเป็นการปรับตัวของตลาดที่มองหาช่องทางในการที่จะลดต้นทุนและลดความเสี่ยง