posttoday

กรรมการบริษัท "โชกุน" พบตำรวจ จ่อออกหมายจับเพิ่มอีก8

15 เมษายน 2560

6 กรรมการบริษัทเวลท์ เอฟเวอร์ ของซินแส โชกุน เข้าพบตำรวจแสดงความบริสุทธิ์ใจ ขณะที่กองปราบฯจ่อออกหมายจับเพิ่มอีก 8 คน

6 กรรมการบริษัทเวลท์ เอฟเวอร์ ของซินแส โชกุน เข้าพบตำรวจแสดงความบริสุทธิ์ใจ ขณะที่กองปราบฯจ่อออกหมายจับเพิ่มอีก 8 คน

เมื่อวันที่  15 เม.ย. คณะกรรมการ บริษัทเวลท์ เอฟเวอร์ จำกัด จำนวน 6 คน ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ หลังตำรวจพบว่าทั้ง 6 คนมีชื่อเป็นกรรมการบริษัทดังกล่าวที่มี น.ส.พสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ หรือ น.ส.ศรัณย์พัชร์ กิติขจรพัชร์ หรือ “ซินแสโชกุน” เป็นกรรมการบริหารบริษัทอยู่ด้วย โดยมี พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผู้บังคับการกองปราบปราม (ผบก.ป.) และ พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ เสนาธิการผู้บังคับบัญชาฝ่ายกฎหมาย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ร่วมสอบปากคำด้วยตัวเอง

ก่อนหน้านี้ตำรวจกองปราบฯเข้าจับกุม ซินแสโชกุน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหาฉ้อโกงประชาชน หลังจากร่วมกับพวกรวม 9 คน ที่เป็นญาติของซินแสโชกุน หลอกลวงผู้เสียหายกว่า 1,000 คน โดยอ้างว่าได้จัดทริปเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น ด้วยการเช่าเหมาลำเครื่องบินสายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิก นัดหมายกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ แต่ภายหลังกลับปล่อยลอยแพโดยไม่มีการเดินทางแต่อย่างใด โดยขณะนี้ ซินแสโชกุน ได้ถูกส่งตัวไปยังควบคุมที่ทัณฑสถานหญิงกลาง โดยตำรวจคัดค้านการประกันตัว

หนึ่งในกรรมการบริษัท เวลล์ เอฟเวอร์ จำกัด กล่าวว่า ได้นำเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง มามอบให้พนักงานสอบสวนเพื่อชี้แจงกรณีที่เกิดขึ้น เนื่องจากได้รับการชักชวนจากซินแสโชกุน ให้สมัครสมาชิกกับบริษัทแห่งนี้ เพื่อซื้ออาหารเสริม ซึ่งตนนับเป็นสมาชิกรุ่นแรก เมื่อประมาณ 3 เดือนก่อน ต่อมาจึงถูกชวนให้ร่วมเป็นกรรมการบริษัทเพื่อบริหารงานเมื่อประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา โดยไม่มีเอกสารแต่งตั้งเป็นทางการ ซึ่งตนก็ไม่ได้นำเงินมาลงทุน และยังไม่เคยได้รับผลตอบแทนในส่วนการเป็นกรรมการแต่อย่างใด แต่ยอมรับว่าครั้งแรกที่ซินแสโชกุนมาชวนนั้น ระบุว่าจะมีผลตอบแทนปันผลให้ในอนาคต หากว่าบริษัทมีกำไร ทั้งนี้ที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีการประชุมผู้บริหารบริษัท และไม่เคยมีการเรียกพนักงานหรือแม่ข่ายคนใดเข้าอบรมแนะนำสินค้าเหมือนธุรกิจขายตรงอื่นๆแต่อย่างใด

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 7-9 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้ร่วมเดินทางไปท่องเที่ยวที่ฮ่องกง ก่อนที่วันที่ 17-20 ก.พ. จะได้ไปเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น เพราะสั่งซื้อสินค้าและสะสมคะแนนครบตามยอดที่ทางบริษัทกำหนดไว้ คือ 8,830 บาท ซึ่งการเที่ยวตลอดทริปไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอีกเลย ถือเป็นราคาที่ถูกมาก โดยซินแสโชกุน อ้างว่าการไปเที่ยวดังกล่าวนั้นเป็นโปรโมชั่น และเงินส่วนต่างที่เหลือนั้นได้มาจากงบด้านการโฆษณามาใช้ดูแลตลอดทริป อย่างไรก็ตามเมื่อเดินทางไปท่องเที่ยวแล้ว ทุกคนจะต้องถ่ายภาพคู่กับสินค้าเพื่อใช้ในการโปรโมทบริษัทต่อไป โดยไม่มีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมแต่อย่างใด

"ขอยืนยันว่าซินแสโชกุน ไม่ได้บังคับให้ต้องหาสมาชิกหรือเครือข่ายต่ออีก และไม่ได้มีการจัดอบรมโฆษณาถึงเรื่องสรรพคุณของสินค้าบริษัท มีเพียงการชักชวนกันแบบปากต่อปาก ซึ่งหากมีสมาชิกเพิ่มเข้ามา ก็จะได้รับค่าคอมมิชชั่น เช่นเดียวกับบริษัทอื่นๆ และตนเองก็ถือว่าเป็นผู้เสียหายด้วยเช่นกัน เพราะถูกลอยแพที่สนามบินสุวรรณภูมิ"หนึ่งในกรรมการบริษัท เวลล์ เอฟเวอร์กล่าว

ด้าน พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาใดๆ กับกรรมการบริษัทดังกล่าวทั้ง 6 ราย เป็นเพียงการสอบปากคำในฐานะพยาน เนื่องจากขณะนี้ยังต้องมีการสอบสวนเพื่อแสวงหาข้อมูลและข้อเท็จจริงในประเด็นต่างๆ เพื่อใช้ประกอบสำนวนคดี และเป็นหลักฐานในการดำเนินคดีกับซินแสโชกุน

จากสอบสวนเบื้องต้นพบว่าทั้งหมดมีการสมัครสมาชิกกับบริษัทเพื่อซื้อสินค้าอาหารเสริม แต่มีเพียง 1 คน ที่ได้รับสินค้าครบจำนวน ดังนั้นจึงเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกงอยู่แล้ว ส่วนการพิจารณาดำเนินคดีกับซินแสโชกุน ในข้อหาหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 รวมทั้งข้อหาอื่นๆ นั้น ยังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ซึ่งรวมถึงการขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีนี้เพิ่มเติมด้วย

รอง ผบ.ตร.กล่าวอีกว่า สำหรับผู้เสียหายในคดีนี้ มีการเข้าแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่กองปราบฯรวมแล้วกว่า 300 คน รวมมูลค่าเสียหายกว่า 2 ล้านบาท โดยเชื่อว่าทั่วประเทศน่าจะมีผู้เสียหายรวมกว่า 1,000  คน ซึ่งอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล อย่างไรก็ตามผู้เสียหายสามารถเข้าแจ้งความได้ที่สถานีตำรวจทั่วประเทศ เพราะสำนวนจะนำมารวมกันอีกครั้งที่กองปราบ และหากสถานีตำรวจใดไม่รับแจ้งความจะถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ให้แจ้งมาที่ตนได้ทันที

พล.ต.ต.สุทิน กล่าวว่า จากพฤติการณ์เบื้องต้นของซินแสโชกุน นั้น ยังไม่เข้าข่ายความผิดฐานหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ส่วนการดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกงประชาชน ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ให้แน่นหนา และยังคงมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อเนื่อง

พ.อ.บุรินทร์ กล่าวว่า วันที่ 17 เม.ย.นี้ พนักงานสอบสวนจะไปขออำนาจศาลเพื่อออกหมายจับบุคคล อีก 8 คน ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ที่มณฑลทหารบก ที่ 11 ( มทบ.11) ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ซึ่งวันที่ 18 เม.ย. ทหารจะนำตัวทั้ง 8 คน ส่งมอบให้พนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งข้อหา ก่อนนำฝากขังศาลอาญาต่อไป จากการประเมินความเสียหายเบื้องต้นพบว่ามีประมาณ 50 ล้านบาท

ทั้งนี้เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เฮเลน - ชุติมณฑ์ ศรีเทพ ที่ถูกนำภาพไปปรากฏบนใบโฆษณาทริปไปเที่ยวโอซากา ประเทศญี่ปุ่น ของบริษัทเวลล์ เอฟเวอร์ จำกัด นั้น ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบปราบ เพื่อให้ข้อมูลและยืนยันความบริสุทธิ์ว่าไม่ได้ร่วมฉ้อโกง หรือมีส่วนรู้เห็นกับการกระทำความผิดกับซินแสโชกุนแต่อย่างใด ทั้งนี้ยังให้ข้อมูลว่าเมื่อครั้งเดินทางไปเที่ยวทริปฮ่องกงกับซินแสโชกุนนั้น มีโอกาสได้พบกับหญิงสาวชาวฮ่องกง รายหนึ่งที่เป็นหัวหน้าซินแสโชกุน ซึ่งสอดคล้องกับก่อนหน้านี้ที่ซินแสโชกุนเคยให้ข้อมูลกับตำรวจและสื่อมวลชนว่ามีนายทุนเป็นชาวฮ่องกง ที่จะคอยจัดการเรื่องจองตั๋วเครื่องบิน และจัดที่พักให้ในทุกๆทริปที่ต้องเดินทางไป