posttoday

'แอมเวย์' ปรับรับนักธุรกิจยังเจนฯ

19 พฤษภาคม 2560

การเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคและ นักธุรกิจเครือข่ายรุ่นใหม่นับได้ว่าเป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับการส่งต่อธุรกิจ ที่ปรับตัวไปพร้อมกับสภาวะที่เปลี่ยน แปลงไปของโลกยุคปัจจุบัน

โดย...พลพัต สาเลยยกานนท์

การเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคและ นักธุรกิจเครือข่ายรุ่นใหม่นับได้ว่าเป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับการส่งต่อธุรกิจ ที่ปรับตัวไปพร้อมกับสภาวะที่เปลี่ยน แปลงไปของโลกยุคปัจจุบัน

กิจธวัช ฤทธีราวี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) ฉายภาพให้เห็นชัดเจนยิ่งขึ้นสำหรับกลยุทธ์ ดังกล่าวที่บริษัทให้ความสำคัญอย่าง แอมเวย์เน็กซ์ (AmwayNEXT) และแผนการทำธุรกิจแบบรอบด้าน (Inte grated Business Plan) ที่เน้น สร้างประสบการณ์ตรงกับแบรนด์ ผ่านผลิตภัณฑ์คุณภาพที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์และตอบโจทย์ผู้บริโภคเฉพาะด้านอย่างแท้จริง

สำหรับการสนับสนุนโอกาสทางธุรกิจ บริษัทมุ่งเน้นความรวดเร็วในการดำเนินงานทุกด้าน และให้ความสำคัญกับแผนธุรกิจเพื่อให้นักธุรกิจแอมเวย์ประสบความสำเร็จได้เร็วขึ้น จนทำให้ปัจจุบันบริษัทมีจำนวนนักธุรกิจแอมเวย์ระดับแพลตินัมซึ่งเป็นผู้นำองค์กร นักธุรกิจสูงขึ้นถึง 6% และตั้งเป้าเพิ่มจำนวนนักธุรกิจแอมเวย์ระดับแพลตินัมให้โตขึ้นอีก 2 เท่าตัวในอีก 8 ปีข้างหน้า สะท้อนถึงความสำเร็จและความเชื่อมั่นการสร้างรากฐานที่มั่นคงยืนยาวส่งต่อเป็นมรดกตกทอดได้

อย่างไรก็ตาม แผนระยะยาว 5 ปีของบริษัทจะถูกแบ่งออกเป็น 3 ช่วงได้แก่ 1.การปรับภาพลักษณ์ 2.การพัฒนาสินค้า และ 3.การพัฒนาผู้นำ นักธุรกิจเครือข่าย ซึ่งได้ถูกกำหนดจากบริษัทแม่ที่มุ่งหวังจะพัฒนานักธุรกิจแอมเวย์ระดับแพลตินัมทั่วโลกให้เพิ่ม ขึ้นจากปัจจุบันอยู่ที่ 3,400 รหัส

นอกจากนั้น ในปีนี้ยังได้มีการ พัฒนาโครงการ "ยัง แอนด์ แอ็กทีฟ" ซึ่งเป็นรูปแบบใหม่ในการทำธุรกิจ ขายตรงสำหรับนักธุรกิจที่มีอายุต่ำกว่า35 ปี โดยโครงการดังกล่าวเป็นแผนระยะที่หนึ่งของแผนระยะยาว 5 ปี โดยมองว่านักธุรกิจยุคใหม่นั้นต้องการ ความเป็นไลฟ์สไตล์และความสามารถในการบริหารจัดการเวลาได้อย่างอิสระของตัวเองมากกว่าการทำงานประจำ

อีกทั้งตัวสินค้าและผลิตภัณฑ์ต้องตอบโจทย์ตรงใจทั้งตัวนักธุรกิจและกลุ่มผู้บริโภคเอง ขณะที่ผลตอบแทนทางธุรกิจที่เคยเป็นจุดขายในการกล่าวถึงอัตราผลตอบแทนนั้น ต่อไปจะไม่ใช่สิ่งที่ถูกสื่อสารออกไปเพื่อดึงดูดการเข้าร่วมธุรกิจเหมือนในอดีต

ปัจจุบันสัดส่วนของนักธุรกิจรุ่นใหม่ (ยัง เจเนอเรชั่น) ในประเทศไทยอยู่ที่ 1 ใน 3 ขององค์กร และคาดหวังว่ากลุ่มดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นเป็น 40-50% ในอนาคตอันใกล้

กิจธวัช มองว่า ถ้าบริษัทไม่เริ่มปรับภาพลักษณ์องค์กรตั้งแต่วันนี้จะไม่สอดคล้องกับคนรุ่นใหม่ที่จะก้าวเข้ามาในธุรกิจขายตรงเลย บริษัทจึงได้จัดทำแคมเปญสำหรับประเทศไทยในการยกระดับภาพลักษณ์ธุรกิจขายตรงให้เป็นธุรกิจของคนรุ่นใหม่ สอดรับกับพฤติกรรมการทำงานที่เปลี่ยนไปในปัจจุบัน

นอกจากนั้น เทรนด์ด้านเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทในการทำธุรกิจมาก ขึ้นในปัจจุบันคือ ออนไลน์มาร์เก็ตติ้ง ซึ่งแอมเวย์นั้นไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไป ต้องมีการฉวยโอกาสในการใช้เทคโนโลยีมาพัฒนาธุรกิจเพื่อปรับตัว อย่างรุนแรงให้เข้ากับสถานการณ์ยุคปัจจุบัน

"การเข้ามาและเดินหน้ารับกับ การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีของ บริษัทนั้นยอมรับว่า ไม่ได้เพิ่มยอดขาย แต่ถ้าไม่ทำแล้วนั้นจะเชยและตกยุคได้"

ส่วนการแข่งระหว่างขายตรงกับออนไลน์ที่ใครหลายคนมองว่าจะเป็น คู่แข่งทางการค้า ในมุมมองของ แอมเวย์ มองว่า โดยหลักการแล้วความเชื่อมั่นของผู้บริโภคยังคงต้องการด้านการ รับประกันสินค้าและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพที่ได้รับการยอมรับและ มีมาตรฐานรองรับอย่างเป็นทางการ มากกว่าออนไลน์ ซึ่งถึงแม้ออนไลน์จะสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ในยุคปัจจุบันแต่ในอีกแง่มุมหนึ่งที่จะต้องคำนึงถึงอย่างความเชื่อมั่นนั้นก็ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคให้การตอบรับอยู่

ดังนั้น จึงเชื่อว่าการปรับรูปแบบธุรกิจของบริษัทในครั้งนี้ จะสอดคล้องกับสถานการณ์และการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย เพื่อบรรลุเป้าหมายและสอดรับกับนักธุรกิจเครือข่ายรุ่นใหม่ที่จะเข้ามาในอนาคต