posttoday

รัฐยันไม่มีนโยบายให้ต่างชาติเป็นมัคคุเทศก์ เร่งถกศธ.สร้างคนเพิ่มแก้ขาดแคลน

12 กรกฎาคม 2560

รมว.ท่องเที่ยวฯยืนยันรัฐบาลไม่มีนโยบายให้คนต่างชาติมาเป็นมัคคุเทศก์ เดินหน้าหารือศธ.พัฒนาเข้าสู่ตลาดแก้ขาดแคลน

รมว.ท่องเที่ยวฯยืนยันรัฐบาลไม่มีนโยบายให้คนต่างชาติมาเป็นมัคคุเทศก์ เดินหน้าหารือศธ.พัฒนาเข้าสู่ตลาดแก้ขาดแคลน

นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เชิญผู้แทนของภาคธุรกิจนำเที่ยว และผู้แทนของกลุ่มมัคคุเทศก์ พร้อมด้วยกรมการท่องเที่ยว และกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยวมาหารือร่วมกัน เพื่อรับฟังปัญหาและหาแนวทางการแก้ไข โดยผู้แทนฯ ได้ขอให้ภาครัฐดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังในการตรวจจับมัคคุเทศก์เถื่อน และบริษัทนำเที่ยวที่พานักท่องเที่ยวไปซื้อสินค้าในร้านค้าเครือข่ายของตน ซึ่งส่งผลต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในภาพรวม เพื่อสร้างการท่องเที่ยวคุณภาพ

อย่างไรก็ดี รัฐบาลยังยืนยันว่าไม่มีนโยบายในการให้คนต่างชาติมาเป็นมัคคุเทศก์อย่างแน่นอน ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ กรมการท่องเที่ยวหารือกับกระทรวงศึกษาธิการในการจัดทำแผนผลิตมัคคุเทศก์ภาษาต่างๆ เข้าสู่ตลาดให้มากขึ้น ตลอดจนพัฒนามัคคุเทศก์ที่มีอยู่ให้สามารถใช้ภาษาที่สามทั้งแบบเรียนในห้องเรียน และแบบเรียนออนไลน์ เพื่อให้สามารถบริการนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นด้วย

นางสาววรรณสิริ โมรากุล อธิบดีกรมการท่องเที่ยว ยอมรับว่า ปัญหามัคคุเทศก์ไม่เพียงพอ เป็นปัญหาที่เรื้อรังมานาน เนื่องจากผู้ประกอบการให้ข้อมูลว่ามัคคุเทศก์ไม่เพียงพอ ในขณะที่มัคคุเทศก์แจ้งว่า ผู้ประกอบการไม่จ้างงาน ปัจจุบัน จำนวนมัคคุเทศก์ที่ขึ้นทะเบียนกับกรมการท่องเที่ยว ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2560 มีจำนวนทั้งสิ้น 70,655 คน เป็นมัคคุเทศก์ทั่วไป (ต่างประเทศ) 46,880 คน มัคคุเทศก์เฉพาะพื้นที่ (ต่างประเทศ) 19,154 คน โดย 3 อันดับแรก ได้แก่ ภาษาอังกฤษจำนวน 54,680 คน ภาษาจีน 17,124 คน ภาษาญี่ปุ่น 3,181 คน

ทั้งนี้ มัคคุเทศก์ 1 คน อาจพูดได้มากกว่า 1 ภาษา ซึ่งในวันศุกร์ที่ 14 กรกฎาคมนี้ กรมการท่องเที่ยวนัดหารือกับสถาบันการศึกษาที่มีการเรียนการสอนด้านท่องเที่ยว 150 แห่งในการปรับปรุงหลักสูตรเพื่อให้นักศึกษากำลังจะจบการศึกษามีความพร้อมเข้าสู่ตลาดการท่องเที่ยวได้รวดเร็วขึ้น

สำหรับประเด็น การกวดขันจับกุม บริษัทนำเที่ยวนำชาวต่างชาติมาเป็นมัคคุเทศก์ นั้น กรมการท่องเที่ยวร่วมกับกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยวดำเนินการออกตรวจและดำเนินคดีกับผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ทั่วประเทศ พบการกระทำผิดจะดำเนินคดีตามกฎหมายทุกราย มาตรการในการตรวจสอบคือ มัคคุเทศก์จะต้องแต่งกายสุภาพ ติดใบอนุญาตมัคคุเทศก์ตลอดระยะเวลาและมีใบสั่งงาน (Job order) ติดตัวไปด้วย และหากนักท่องเที่ยวไม่ได้รับความเป็นธรรมหรือถูกบังคับซื้อสินค้าและบริการ สามารถแจ้งตำรวจท่องเที่ยวที่ 1155 หรือ สายด่วนกรมการท่องเที่ยว ‪02-401-1111‬ โดยมีเจ้าหน้าที่ที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ ยังได้ดำเนินการเข้าตรวจสอบการอบรมในลักษณะการขายสิ่งของและให้ข้อมูลที่อาจส่งผลเสียต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวในภาพรวมร่วมกับ สคบ. อย. และหน่วยงานอื่น ๆ

นอกจากนี้ ได้ดำเนินการลงนามข้อตกลงร่วมมือกับองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งชาติจีน (CNTA) ในการปราบปรามทัวร์ผิดกฎหมายตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ทั้งนี้ มีการแลกเปลี่ยนรายชื่อและข้อมูลบริษัทที่ถูกเพิกถอนเนื่องจากการกระทำผิดกฎหมาย (Black list) และบริษัทที่จดทะเบียนถูกต้องเพื่อเป็นคู่ค้าระหว่างกันอีกด้วย

สำหรับการตรวจสอบนอมินีก่อนจะอนุญาตให้จดทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวนั้น กรมได้ตั้งคณะทำงานกลั่นกรองและตรวจสอบคุณสมบัติร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชนก่อนจะอนุญาตให้จดทะเบียนธุรกิจนำเที่ยว ซึ่งคณะทำงานประกอบด้วย กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว สภาหอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ อธิบดีกรมการท่องเที่ยวกล่าว