"บิ๊กตู่" เซ็นคำสังเด้ง "ผอ.ขสมก."

"พล.อ.ประยุทธ์" ลงนามคำสั่งย้ายผู้อำนวยการขสมก.ไปปฏิบัติหน้าที่สำนักนายกฯ รมว.คมนาคมรับเหตุส่วนหนึ่งมาจากปัญหาจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 22 มี.ค. ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามคำสั่งให้นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ไปปฎิบัติหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

ทั้งนี้ คำสั่งดังกล่าว เป็นการใช้อำนาจของนายกฯในการบริหารจัดการอัตรากำลัง กรณีมีอัตราว่างสามารถจัดกำลังไปลงในอัตรานั้นได้  โดยอ้างตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 68/2559 เรื่องมาตรการแก้ไขปัญหาเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานอื่นของรัฐและการกำหนดกรอบอัตรากำลังชั่วคราว ลงวันที่ 16 พ.ย. 2559

นายอาคมกล่าวว่า ตำแหน่ง ผอ.ขสมก.ที่ว่างลงนั้น เป็นอำนาจของคณะกรรมการบริหารกิจการ (บอร์ด) ขสมก.ที่มี พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ เป็นประธานจะพิจารณาแต่งตั้งรักษาการผอ.ขสมก. โดยคาดว่าบอร์ดขสมก. จะเรียกประชุมกันในวันที่ 27 มี.ค.นี้

สำหรับสาเหตุการโยกย้าย นายสุระชัยพ้นจากตำแหน่งผอ.ขสมก.นั้นมาจากปัญหาการจัดซื้อ รถโดยสารที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง (NGV) จำนวน 489 คัน หรือไม่นั้น นายอาคมกล่าวว่า เป็นส่วนหนึ่ง เนื่องจากการจะรับรถหรือไม่นั้นเป็นอำนาจของผู้ซื้อที่จะพิจารณา ซึ่งนอกจากผอ.ขสมก.จะเป็นผู้ลงนามแล้ว ยังมีบอร์ด ขสมก.ที่จะช่วยพิจารณาด้วยกรณีมีข้อผิดพลาดไปจากที่สั่งซื้อ ผอ. ขสมก. จะต้องพิจารณาเรื่องแหล่งกำเนิดรถ แหล่งประกอบรถ ว่าเป็นไปตามเงื่อนไขในสัญญาและ TOR หรือไม่ หากไม่ถูกต้องครบถ้วน คงไม่มีใครกล้ารับรถ

"หลังจากนี้ ขสมก.จะต้องเร่งพิสูจน์เพื่อแก้ปัญหานี้ แต่คงไม่สามารถระบุได้ว่าปัญหาเรื่องการซื้อรถเมล์NGV จะได้ข้อยุติได้เลยภายในอาทิตย์นี้ อาทิตย์หน้า คงต้องให้เวลาในการพิจารณาอย่างรอบคอบและเป็นไปตามข้อกฎหมาย ซึ่งรักษาการผอ.ขสมก.ที่ตั้งขึ้นจะมีอำนาจเต็มที่ในการบริหาร องค์กร เช่นเดียวกับ รักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และรักษาการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) แม้ไม่ได้เป็นตัวจริง แต่สามารถใช้อำนาจบริหารองค์กรได้เต็มที่เพื่อขับเคลื่อนองค์กร"นายอาคมกล่าว

นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี ปลัดกระทรวงคมนาคมเปิดเผยว่าคำสั่งให้ ผู้อำนวยการ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ไปปฎิบัติหน้าที่ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีไม่ใช่เป็นการใช้อำนาจ ม.44 ของหัวหน้าคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ คสช. แต่เป็นการใช้อำนาจในการบริหารราชการแผ่นดินของ นายกรัฐมนตรีให้เจ้าหน้าที่ของรัฐไปปฎิบัติหน้าที่อื่นในอัตราที่มีการเพิ่มขึ้นเฉพาะ เพื่อประโยชน์ในการบริหารราชการแผ่นดิน