สภาอุตฯขอฝนหลวงเติมน้ำเขื่อนพื้นที่ตะวันออก

สัญญาณแล้งตะวันออกมาแล้ว! สภาอุตฯขอฝนหลวงเติมน้ำในอ่างหวั่นเกิดการแย่งน้ำระหว่างภาคเกษตร-อุตสาหกรรม

นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวง และการบินเกษตร เปิดเผยว่า สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้มีหนังสือมายังกรมฝนหลวงฯเมื่อวันที่ 21 มี.ค. 2560  เพื่อขอให้กรมทำฝนหลวงในพื้นที่ภาคตะวันออกเพื่อช่วยเหลืออุตสาหกรรมในพื้นที่ดังกล่าว  เพราะในพื้นที่มีการนิคมจำนวนมาก  ประกอบกับปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำและอ่างพวง ในพื้นที่ภาคตะวันออกมีปริมาณน้อยต้องรองรับการอุปโภค บริโภค ภาคเกษตรและภาคอุตสาหกรรม  และมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง โดยขณะนี้ได้ให้หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีขึ้นปฏิบัติการเมื่อวันที่ 22 มี.ค.

ทั้งนี้สภาอุตฯได้ขอให้ทำฝนหลวงในระหว่างวันที่  21-31  มี.ค. 2560  แต่ฝนหลวงจะขึ้นปฏิบัติการจนกว่าสภาพอากาศจะไม่อำนวย

"นายสมชาย หวังวัฒนาพาณิชย์ ประธานคณะกรรมการบริหารสถาบันน้ำเพื่อความยั่งยืน สภาอุตฯ  ระบุในหนังสือว่า  เนื่องจากปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำคลองใหญ่  อ่างเก็บน้ำดอกกราย อ่างเก็บน้ำประสร์ อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล ที่ส่งน้ำในพื้นที่จังหวัดระยองและชลบุรีมีแนวดน้มลดลงต่อเนื่อง  ประกอบกับโครงการบริหารจัดการน้ำ ในพื้นที่ยังไม่สามารถผันน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพในฤดูแล้ง  การเติมในอ่างเก็บน้ำเพิ่มปริมาณจะลดความขัดแย้งในการใช้น้ำของทุกภาคส่วนในพื้นที่ภาคตะวันออกด้วย"นายสุรสีห์กล่าว

นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่ารมว.เกษตรฯได้สั่งให้กรมฝนหลวงฯเร่งปฎิบัติการทำฝนในช่วงนี้เพื่อช่วยบรรเทาสภาพอากาศที่ร้อนมาก และ สร้างความชุ่มชื้นพื้นที่เกษตร โดยมีสภาพเอื้อให้ทำได้เพราะมีอิทธิพลจากความกดอากาศมาช่วยให้ฝนหลวงทำได้ผล ซึ่งได้เน้นปฎิบัติการในภาคเหนือ เติมน้ำเขื่อน และลดปัญหาหมอกควันไฟป่า ที่เกิดไฟไหม้บนภูเขาดับยากต้องทำฝนหลวงดับไฟไม่ให้ลุกลาม พร้อมกับประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรทำแนวกันไฟรอบพื้นที่เกษตรด้วย สำหรับสถานการณ์ภัยแล้งนี้ กระทรวงเกษตรฯได้ ประสานกับ กระทรวงมหาดไทย ทุกระดับตำบล อำเภอ ให้ขอความร่วมมือเกษตรกร ปลูกพืชใช้น้ำน้อย งดทำนารอบสามหรือทำนาปรังต่อเนื่อง เพราะจะเสี่ยงเสียหายได้ เนื่องจากต้องประหยัดน้ำต้นทุนในเขื่อนหลักไว้ใช้ฤดูถัดไปหากเกิดฝนทิ้งช่วง และไม่ให้เกิดกระทบประชาชนจำนวนมากที่อยู่ท้ายน้ำ ที่ใช้น้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค และผลักดันน้ำทะเล