posttoday

แบนเข้าสหรัฐรอบใหม่ นิยาม "ครอบครัว" ทำแตกแยก

02 กรกฎาคม 2560

ศาลสูงสุดสหรัฐมีคำสั่งให้บังคับใช้คำสั่งห้ามผู้อพยพจากประเทศมุสลิมและผู้ลี้ภัยเข้าประเทศตามคำสั่งพิเศษของทรัมป์

โดย...ชญานิศ ส่งเสริมสวัสดิ์

ศาลสูงสุดสหรัฐมีคำสั่งให้บังคับใช้คำสั่งห้ามผู้อพยพจากประเทศมุสลิมและผู้ลี้ภัยเข้าประเทศตามคำสั่งพิเศษของประธานาธิบดีโดนัลด์​ ทรัมป์ ที่ให้ไว้ตั้งแต่รับตำแหน่งได้ไม่นานในปลายเดือน ม.ค.ที่ผ่านมาโดย คำสั่งใหม่นี้ได้ลดขอบเขตลงจากความตั้งใจดั้งเดิมของทรัมป์ในทีแรก และมีผลไปแล้วตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม แม้ความวุ่นวายในสนามบินจะลดน้อยลง เนื่องจากกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิได้ให้นิยามชัดเจนในส่วนรายละเอียดผู้ที่ไม่ให้เข้าประเทศ ต่างกับครั้งก่อนที่เกิดความวุ่นวายเพราะไม่มีความชัดเจน แต่ “การกำหนดขอบเขต” ดังกล่าว กลับกลายเป็นปัญหาใหม่ขึ้นมา

ในคำสั่งใหม่จากศาลสูงดังกล่าวจะห้ามให้วีซ่ากับผู้อพยพจาก 6 ประเทศ ได้แก่ ซีเรีย อิหร่าน เยเมน โซมาเลีย ซูดาน และลิเบีย ซึ่งไม่ได้เป็นผู้มีความใกล้ชิดกับพลเมืองสหรัฐเข้าประเทศ และยกเว้นให้กับนักเรียนที่เตรียมเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยของสหรัฐ รวมถึงอาจารย์พิเศษที่ได้รับเชิญจากทางมหาวิทยาลัย โดยในหมวดที่กลายเป็นปัญหาคือ หมวดเครือญาติใกล้ชิดดังกล่าว

หมวดดังกล่าวกำหนดให้เฉพาะพ่อ แม่ ลูก พี่น้อง คู่หมั้น คู่ครอง สะใภ้ และลูกเขย จากประเทศเหล่านั้นที่เกี่ยวดองกับพลเมืองสหรัฐเท่านั้น ไม่รวมไปถึงปู่ ย่า ตา ยาย และหลาน รวมไปถึงลูกพี่ลูกน้อง ลุง ป้า น้า อา และสมาชิกครอบครัวขยายอื่นๆ กลายเป็นปัญหาว่าคำสั่งของศาลสูงกำลังให้นิยามความเป็นครอบครัวแก่ชาวอเมริกัน

“รัฐบาลสหรัฐกำลังให้นิยามใหม่ว่าครอบครัวคืออะไร” รามา อิสซา พลเมืองสหรัฐเชื้อสายซีเรียวัย 29 ปี ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวควอร์ทซ์ และระบุว่า ยากที่จะยอมรับได้ต่อการกำหนดนิยามคำว่าครอบครัวของรัฐบาล

อิสซาเป็นหนึ่งในผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว เนื่องจากความสนิทกับญาติมิตร ทั้งลูกพี่ลูกน้อง รวมถึงลุง ป้า น้า และอา ทำให้อิสซาต้องการเชิญญาติสนิทมาเข้าร่วมงานแต่งงานที่กำลังจะถึงในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า แต่ญาติสนิทกลับเป็นผู้มีสัญชาติซีเรียที่เข้าข่ายไม่ได้รับการยกเว้นจากคำสั่งพิเศษของทรัมป์ที่ได้รับอนุมัติจากศาลสูง ส่งผลให้อิสซาเลื่อนงานแต่งงานออกไป

แบนเข้าสหรัฐรอบใหม่ นิยาม "ครอบครัว" ทำแตกแยก

กลับสู่กระบวนการกฎหมาย

หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ รายงานว่า บรรดาผู้เชี่ยวชาญและนักกฎหมายต่างออกมาวิพากษ์วิจารณ์คำสั่งใหม่ดังกล่าว

“ประธานาธิบดีควรที่จะปกป้องครอบครัวชาวอเมริกัน ไม่ใช่แบ่งแยกพวกเขา” ชายัน โมดาร์เรส นักกฎหมายของสภาชาวอเมริกัน-อิหร่านแห่งชาติ เปิดเผยกับวอชิงตันโพสต์

ขณะเดียวกัน มลรัฐฮาวายยื่นเรื่องต่อศาลเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลยุติการบังคับใช้คำสั่งห้ามผู้อพยพจากประเทศเหล่านั้น เพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้าที่คำสั่งจะมีผล โดยระบุว่าการห้ามปู่ ย่า ตา ยาย หลาน พี่เขย น้องเขย พี่สะใภ้ น้องสะใภ้ ลุง ป้า น้า อา และลูกพี่ลูกน้อง ควรได้รับการเข้ามายังสหรัฐด้วย

นอกจากนี้ ในคำสั่งใหม่ดังกล่าวยังห้ามผู้ลี้ภัยซึ่งได้รับเอกสารยืนยันจากบุคคลที่พร้อมให้ความช่วยเหลือท้องถิ่นและที่อยู่ที่จะลี้ภัยเข้ามาแล้วอีกด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น

คำสั่งใหม่ดังกล่าวของทรัมป์จึงเผชิญหน้ากับกระบวนการทางกฎหมายอีกครั้ง หลังคำสั่งแรกต่อสู้กันมายาวนานกว่า 5 เดือน โดยคาดว่าการฟ้องร้องให้ระงับคำสั่งห้ามดังกล่าวจะตามมาอีกภายหลัง

“ผมคาดการณ์ว่าจะต้องมีการฟ้องร้องเพิ่มขึ้นอีก เพราะผู้คนจะเผชิญกับการถูกปฏิเสธวีซ่าจากการกำหนดนิยามอันใหม่เหล่านี้ ทำไมน้องสาวบุญธรรมถึงสามารถเข้ามายังสหรัฐได้ แต่กลับไม่ให้คุณย่าเข้ามากัน” สตีเฟน เยล-ลอเออร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายจากมหาวิทยาลัยคอร์เนล กล่าว

ภาพ...เอเอฟพี