posttoday

จีนสั่งห้ามนร.ฉีกหนังสือ-โวยวายหลังเครียดสอบเข้ามหาวิทยาลัย

30 พฤษภาคม 2559

ทางการจีนออกคำสั่งห้ามนักเรียนฉีกหนังสือส่งเสียงโวยวายในพื้นที่สาธารณะของโรงเรียน หวังควบคุมพฤติกรรมหลังเด็กเครียดหนักก่อนสอบเข้ามหาวิทยาลัย

ทางการจีนออกคำสั่งห้ามนักเรียนฉีกหนังสือส่งเสียงโวยวายในพื้นที่สาธารณะของโรงเรียน หวังควบคุมพฤติกรรมหลังเด็กเครียดหนักก่อนสอบเข้ามหาวิทยาลัย

สำนักงานด้านการศึกษาของเมืองเซียเหมิน ในจีนออกคำสั่งห้ามนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายไม่ให้ฉีกหนังสือหรือส่งเสียงโวยวายในพื้นที่สาธารณะของโรงเรียน หลังนักเรียนจีนอยู่ในภาวะเครียดจัดในช่วงก่อนการสอบเข้ามหาวิทยาลัยครั้งใหญ่ประจำปี 10 วันหลังจากนี้ 

ทั้งนี้ ในแต่ละปี นักเรียนมัธยมในจีนเกือบ 10 ล้านคนทั่วประเทศจะต้อง เข้าร่วมการสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่่ร่ำลือกันว่ายากมาก เป็นเวลา 2 วัน ด้าน สเตเฟน แมคโดเนล ผู้สื่อข่าวของบีบีซีในจีน ระบุว่า วัยรุ่นชาวจีนมองว่าการสอบเข้ามหาวิทยาลัยครั้งใหญ่นี้ถือเป็นวินาทีที่จะชี้ชะตาชีวิตของนักเรียนในอนาคต ขณะที่การสอบเข้ามหาวิทยาลัยดังกล่าวก็ถูกวิจารณ์แพร่หลายว่าก่อให้เกิดวัฒนธรรมการเรียนแบบท่องจำและการกวดวิชาของนักเรียน เนื่องจากต้องแข่งขันกับนักเรียนหลายล้านคนเพื่อเข้ารับการเรียนต่อที่มีอยู่อย่างจำกัด อีกทั้งยังมีแนวโน้มสูงว่านักเรียนอาจจะโกงการสอบ

ด้านหนังสือพิมพ์ไชน่า ยูท เดลี่ ของสภาเยาวชนคอมมิวนิสต์จีน ระบุว่า โรงเรียนมัธยมควรจะให้คำแนะนำด้านจิตวิทยากับเด็กนักเรียนเมื่อต้องเผชิญความกดดันสูงมากกว่าการออกกฎห้ามในลักษณะนี้ 

ขณะที่โทรทัศน์ช่องซีซีทีวีของจีนเปิดเผยว่า ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ มีพฤติกรรมระบายความเครียดแบบแปลกๆ เกิดขึ้นแพร่หลายในช่วงก่อนการสอบครั้งใหญ่ เช่น มีเด็กนักเรียนฉีกหนักสือเรียนเป็นชิ้นๆ และโยนเศษใส่อาคารของโรงเรียน หรือตะโกนโวยวานเพื่อในพื้นที่สาธารณะเพื่อให้กำลังใจตัวเอง โดยทางการเซียเหมินก็ระบุว่า ได้สนับสนุนให้โรงเรียนช่วยหาทางให้นัดเรียนผ่อนคลายแรงกดดันในแนวทางที่ดีต่อสุขภาพจิตมากกว่านี้ ขณะที่หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าความเครียดที่เกิดขึ้นจากการสอบนี้สามารถนำไปสู่ความหดหู่ทางจิตที่จำเป็นต้องรับการรักษา หรือแม้แต่การฆ่าตัวตายได้

ทั้งนี้ แม้แต่ แจ็คหม่า ผู้ก่อตั้งแพลตฟอร์มร้านค้าออนไลน์ยักษ์ใหญ่อย่างอาลีบาบา ก็เคยผ่านการสอบดังกล่าวนี้ถึง 3 ครั้งกว่าจะเข้าเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยได้ ขณะที่ ลีเค่อเฉียง ผู้นำสูงสุดอันดับ 2 ของจีนก็มีชีวิตที่เปลี่ยนไปจากชีวิตยากจนในชนบทไปสู่การเป็นผู้นำจากการสอบเข้ามหาวิทบาลัยชั้นนำของประเทศได้