posttoday

หลังพิงฝา! แบงก์ชาติเมียนมา สั่งบริษัท-ผู้กู้รายย่อยงดจ่ายหนี้ตปท.

19 กรกฎาคม 2565

แบงก์ชาติเมียนมาสั่งธุรกิจ-ผู้กู้รายย่อยหยุดชำระหนี้ที่กู้จากต่างประเทศ ทุกรูปแบบ หลังค่าเงินอ่อนลงถึง 1 ใน 3 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

นายวิน ทอ (Win Thaw) รักษาการผู้ว่าการธนาคารกลางเมียนมา ส่งระบุในจดหมายที่ธนาคารกลางส่งถึงธนาคารที่ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการซื้อขายเงินตราต่างประเทศ โดยมีคำสั่งให้ผู้กู้ยืม ระงับการชำระดอกเบี้ยและเงินต้นที่กู้จากต่างประเทศ ไม่ว่าจะในรูปของเงินสดหรือรูปแบบอื่นใดก็ตาม โดยคำสั่งดังกล่าวกำหนดให้ธนาคารต้องแจ้งลูกค้าธุรกิจที่มีหนี้ต้างประเทศต้องปรับแผนการชำระเงินที่กู้ยืมมาจากต่างประเทศ

สำนักข่าวข่าว Bloomberg เปิดเผยสถานการณ์ปัจจุบันว่า บริษัทในเมียนมามีหนี้เป็นสกุลเงินดอลลาร์ราว 1.2 พันล้านดอลลาร์ โดยเป็นหนี้ของธุรกิจหลากหลายอุตสาหกรรม ตั้งแต่ Ooredoo Myanmar ซึ่งดำเนินธุรกิจด้านโทรคมนาคม, City Square Commercial ธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์, Apollo Towers Myanmar และ Irrawaddy Green Towers ซึ่งทำกิจการด้านโครงข่ายเสาโทรคมนาคม

อย่างไรก็ตาม หลังจากรัฐบาลทหารเมียนมาทำการยึดอำนาจ ก็ถูกนานาประเทศประเทศมหาอำนาจพยายามออกมาตรการคว่ำบาตร โดยหนึ่งในนั้นเป็นเรื่องของเงินตราต่างประเทศที่เป็นทุนสำรองของเมียนมาที่เก็บไว้ที่สหรัฐ ได้ถูกระงับการเบิกถอน รวมทั้งถูกระงับความช่วยเหลือจากต่างประเทศ ส่งผลให้ค่าเงินจ๊าตอ่อนค่าลงไปถึง 1 ใน 3 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ทำให้รัฐบาลทหารเมียนมาออกกฏคุมเข้มกฎระเบียบในการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ 

จากความกดดันจากนานาประเทศที่เข้ามา ทำให้รัฐบาลเมียนมามีคำสั่งให้ผู้มีรายได้เป็นเงินต่างประเทศแปลงสกุลเงินของตนเป็นเงินจ๊าตที่อัตราอ้างอิงของธนาคารกลางที่ 1,850 จ๊าต/ดอลลาร์สหรัฐ ตั้งแต่เดือนเม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นมาตรการหนึ่งของรัฐบาล เพื่อป้องกันความผันผวนของสกุลเงินท้องถิ่น รวมทั้งห้ามนำเข้ารถยนต์ สินค้าฟุ่มเฟือย ทั้งยังจำกัดการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงและน้ำมันปรุงอาหาร เพื่อรักษาปริมาณเงินสำรองระหว่างประเทศ แม้จะยังอนุญาตให้ใช้เงินหยวนและเงินบาทเพื่อการค้าชายแดนกับจีนและไทยอยู่ก็ตาม