posttoday

จีนออกคำเตือนถึงคนที่ตั้งคำถาม 'นโยบายปลอดโควิด'

06 พฤษภาคม 2565

จีนยึดมั่น Zero-Covid เตือนจะไม่นิ่งเฉยต่อคำพูดหรือการกระทำที่บิดเบือน ตั้งคำถาม หรือต่อต้านนโยบายของประเทศ

เมื่อวันที่ 6 พ.ค. CNN รายงานว่าประชุมคณะกรรมการกรมการเมืองของพรรคคอมมิวนิสต์จีน (โปลิตบูโร) ซึ่งนำโดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ระบุว่าจีนยังคงยึดมั่นในนโยบายปลอดโควิด (Zero-Covid) อย่างแน่วแน่ และออกคำเตือนหนักแน่นต่อทุกคนที่ตั้งคำถามเกี่ยวกับนโยบายดังกล่าว

คณะกรรมการ 7 คนของโปลิตบูโรให้คำมั่นว่า "จะยึดมั่นในนโยบายปลอดโควิดอย่างแน่วแน่ และดำเนินการอย่างเด็ดขาดต่อคำพูดหรือการกระทำใดๆ ที่บิดเบือน ตั้งคำถาม หรือต่อต้านนโยบายควบคุมการแพร่ระบาดในประเทศของเรา"

รายงานระบุว่านี่ถือเป็นครั้งแรกที่ผู้นำจีนได้แสดงความเห็นต่อสาธารณะเกี่ยวกับการจัดการกับโควิด-19 นับตั้งแต่ที่ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากประชาชนหลังบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดในเซี่ยงไฮ้

หลังจากที่ประชาชนจำนวนหนึ่งไม่พอใจนโยบายดังกล่าวเนื่องจากการล็อกดาวน์ที่เข้มงวด และบ่อยครั้ง ตลอดจนส่งผลกระทบในทางลบต่อเศรษฐกิจของจีน ในขณะที่หลายประเทศเริ่มกลับมาใช้ชีวิตปกติกันแล้ว

โดยที่ประชุมระบุว่ากลยุทธ์การป้องกันและควบคุมโรคเป็นไปตามหลักวิทยาศาสตร์และมีประสิทธิภาพ ซึ่งจีนเคยเอาชนะการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในอู่ฮั่นมาได้แล้ว และจะสามารถเอาชนะการแพร่ระบาดในเซี่ยงไฮ้ได้อย่างแน่นอน

ทั้งนี้ จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นทำให้จีนต้องล็อกดาวน์เมืองต่างๆ กว่าสิบแห่งทั่วประเทศ รวมถึงเซี่ยงไฮ้ เมืองที่ใหญ่และมั่งคั่งที่สุดของประเทศ และเป็นหนึ่งในมหานครที่ใหญ่ที่สุดในโลก กลายเป็นเมืองใหญ่เมืองแรกของจีนที่ถูกล็อกดาวน์ทั้งเมือง ส่งผลให้ประชาชนราว 25 ล้านคนต้องกักตัวอยู่ที่บ้าน สร้างความกังวลต่อการหยุดชะงักของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในวงกว้าง

โดยในช่วง 5 สัปดาห์ที่ผ่านมาชาวเซี่ยงไฮ้จำนวนมากระบายความไม่พอใจกับการจัดการกับโควิด-19 ของรัฐบาลผ่านโซเชียลมีเดีย โดยระบุว่านโยบายของรัฐทำให้บางพื้นที่ขาดแคลนอาหารและการรักษาพยาบาล ประชาชนหลายพื้นที่ไม่สามารถออกจากบ้านได้แม้ออกมาเพื่อซื้อของใช้จำเป็น

แม้รัฐบาลจะยืนยันว่ามีการแจกจ่ายอาหารและเวชภัณฑ์ให้กับประชาชน แต่ชาวจีนส่วนหนึ่งโพสต์ผ่านโซเชียลมีเดียว่าพวกเขาได้รับอาหารไม่เพียงพอ ซึ่งรัฐบาลจีนเตือนให้ใช้วิจารณญาณในการแยกแยะข่าวลือและข้อเท็จจริง และมีการลบวิดีโอและโพสต์ของผู้ที่แสดงความไม่พอใจต่อการล็อกดาวน์บนโลกออนไลน์

รายงานระบุว่าประชาชนจำนวนหนึ่งส่งเสียงประท้วงจากทางหน้าต่าง มีการทุบหม้อและกระทะ ตะโกนโห่ร้องด้วยความไม่พอใจ ขณะที่บางคนปะทะกับตำรวจและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขตามท้องถนน

นอกจากนี้ บรรดานักเศรษฐศาสตร์และผู้ประกอบการเกิดความกังวลต่อผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากมาตรการล็อกดาวน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเซี่ยงไฮ้ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางการเงินของประเทศ และศูนย์กลางการผลิตและการขนส่งที่สำคัญ

The Times of India ระบุว่าความคิดเห็นของคณะกรรมการมีขึ้นหลังจากที่แอนโธนี เฟาซี ที่ปรึกษาทางการแพทย์ของรัฐบาลสหรัฐให้ความเห็นว่าการล็อกดาวน์ของจีนไม่น่าจะประสบความสำเร็จในระยะยาว เช่นเดียวกับชาวจีนจำนวนหนึ่งที่ตั้งคำถามถึงความจำเป็นและความสมเหตุสมผลของมาตรการดังกล่าว ซึ่งกระทบต่อเศรษฐกิจและห่วงโซ่อุปทาน หลังจากที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจของประเทศหดตัวลงอย่างรวดเร็วในเดือนเม.ย. ที่ผ่านมา

Photo by REUTERS/Florence Lo