posttoday

โรคตับอักเสบปริศนามาถึงเอเชีย พบเด็กญี่ปุ่นป่วยเคสแรก

27 เมษายน 2565

เด็กกว่าร้อยรายทั่วโลกป่วยตับอักเสบเฉียบพลันปริศนา เร่งหาสาเหตุ เชื่อมโยงกับโควิด-19 หรือไม่

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่ากระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นเผยพบเด็กเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลด้วยโรคตับอักเสบเฉียบพลันปริศนา คาดว่าเป็นเคสแรกของเอเชีย หลังจากที่องค์การอนามัยโลก (WHO) แถลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าพบเด็กป่วยด้วยโรคดังกล่าวอย่างน้อย 169 รายจาก 12 ประเทศทั่วโลก ได้แก่ สหรัฐ สเปน อิสราเอล เดนมาร์ก ไอร์แลนด์ เนเธอแลนด์ อิตาลี นอร์เวย์ ฝรั่งเศส โรมาเนีย เบลเยียม และผู้ป่วยส่วนใหญ่จำนวน 114 รายมาจากอังกฤษ

โดยองค์การอนามัยโลกเปิดเผยว่าได้รับรายงานผู้ป่วยโรคดังกล่าวเป็นเด็กอายุระหว่าง 1 เดือนไปจนถึง 16 ปี โดยมีรายงานครั้งแรกจากประเทศอังกฤษเมื่อเดือนม.ค. ที่ผ่านมา ขณะนี้ผู้ป่วย 17 รายจากทั้งหมด 169 รายต้องได้รับการปลูกถ่ายตับ และมีรายงานผู้เสียชีวิตจากโรคดังกล่าวแล้ว 1 ราย ขณะที่การตรวจสอบเชื้อในผู้ป่วยเหล่านี้ไม่พบไวรัสตับอักเสบชนิด A ถึง E จึงยังไม่สามารถระบุได้ว่าโรคตับอักเสบเฉียบพลันนี้มีสาเหตุมาจากอะไร

ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญกำลังเร่งหาสาเหตุของโรคตับอักเสบปริศนา ตลอดจนความเป็นไปได้ที่โรคดังกล่าวอาจเชื่อมโยงกับโควิด-19 หรือเชื้ออะดีโนไวรัสอื่นๆ หรือการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมของโรคตับอักเสบ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขของอังกฤษยืนยันว่าโรคดังกล่าวไม่มีความเชื่อมโยงกับวัคซีนโควิด-19

ด้านกระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นระบุว่าผู้ป่วยเคสแรกของเอเชียรายนี้มีผลตรวจโควิด-19 เป็นลบ และไม่เคยได้รับการปลูกถ่ายตับมาก่อน ตลอดจนมีผลตรวจหาเชื้ออะดีโนไวรัสเป็นลบ ขณะที่เกือบครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยโรคตับอักเสบปริศนาจากทั่วโลกตรวจพบเชื้อไวรัสดังกล่าว

โดยกระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดของผู้ป่วยรายนี้ทั้งชื่อ เพศ ที่อยู่อาศัย และอายุ แต่บอกเพียงว่ามีอายุต่ำกว่า 16 ปี และกำลังเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล โดยขณะนี้ยังไม่สามารถระบุสาเหตุของโรคดังกล่าวได้ แต่จะประสานงานกับประเทศอื่นๆ อย่างใกล้ชิดเพื่อหาคำตอบต่อไป

ทั้งนี้ อาการทั่วไปที่พบในผู้ป่วยโรคตับอักเสบปริศนา ได้แก่ กระเพาะและลำไส้อักเสบ, ท้องเสีย, คลื่นไส้, มีอาการตัวเหลือง และตาเหลือง

ภาพ: การผ่าตัดปลูกถ่ายตับในโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 21 ต.ค. 2019 (National Center for Child Health and Development / AFP)