posttoday

เปิดความลับคุณทวด 119 ปีอายุยืนสุดในโลก ทำไมคนญี่ปุ่นอยู่กันได้ถึงร้อยปี?

26 เมษายน 2565

ทวดชาวญี่ปุ่นที่อายุมากสุดในโลก เสียชีวิตแล้ว แต่ท่านไม่ใช่คนญี่ปุ่นคนแรกที่ติดอันดับ "อายุยืนที่สุดในโลก" อะไรเคล็ดลับอายุยืนของชาวญี่ปุ่น กินอยู่อย่างไรให้ถึง 100 ปี

เมื่อวันที่ 25 เม.ย. สำนักข่าวเกียวโดของญี่ปุ่นรายงานว่า คาเนะ ทานากะ คุณยายทวดชาวญี่ปุ่น บุคคลที่มีอายุมากที่สุดในโลก จากเมืองฟุกุโอกะ เสียชีวิตแล้วเมื่อวันที่ 19 เม.ย. ด้วยวัย 119 ปี

คุณยายทวดทานากะ เกิดเมื่อวันที่ 2 ม.ค. 1903 ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่สองพี่น้องตระกูลไรต์ประสบความสำเร็จในการนำเครื่องบินลำแรกของโลกขึ้นบินได้สำเร็จ และหนึ่งปีก่อนที่จะเกิดสงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่น ชีวิตของคุณยายทวดได้อยู่ในหลายยุคสมัยของจักรวรรดิญี่ปุ่น ทั้งเมจิ, ไทโช, โชวะ, เฮเซ และเรวะ

เธอได้รับการยอมรับจาก Guinness World Records ว่าเป็นบุคคลที่มีอายุมากที่สุดในโลกในเดือนมี.ค. 2019 ด้วยอายุ 116 ปีในขณะนั้น นอกจากนี้เธอยังเป็นผู้ที่มีอายุมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นด้วยวัย 117 ปี 261 วัน เมื่อเดือนก.ย. 2020

คุณยายทวดให้สาเหตุของการมีอายุยืนยาวของเธอว่า "กินของอร่อยและเรียนรู้" ของโปรดของเธอคือโซดาและช็อกโกแลต เธอใช้เวลาหลายปีในบ้านพักคนชราในฟุกุโอกะ ซึ่งเธอสนุกกับการเล่นเกมกระดานรวมถึงกิจกรรมอื่นๆ

ภายหลังการจากไปของคุณยายทวดทานากะ ทำให้ในตอนนี้บุคคลที่มีอายุมากที่สุดในโลกคือลูซิลา ร็องดอน แม่ชีชาวฝรั่งเศสวัย 118 ปี 73 วัน ตามรายงานของ Gerontology Research Group และผู้ที่มีอายุมากที่สุดในญี่ปุ่นคือฟุสะ ทัตสึมิ วัย 115 ปี

ทำไมคนญี่ปุ่นอายุยืน?

อ้างอิงจากบทความของดร.มาร์ติน จูโน ชาวฝรั่งเศส บนเว็บไซต์ Observatoire de la prévention ของสถาบันโรคหัวใจแห่งมอนทรีออล อธิบายถึงสาเหตุว่าทำไมชาวญี่ปุ่นจึงมีอายุขัยสูงที่สุดในโลก

โดยชี้ให้เห็นถึงอัตราการเกิดโรคอ้วนที่ต่ำ และอาหารการกินของชาวญี่ปุ่นที่เอื้อต่อการมีสุขภาพที่ดี อย่างการทานปลาและพืช ในทางกลับกันมีการบริโภคเนื้อแดงน้อย ซึ่งเป็นที่ยอมรับในทางวิทยาศาสตร์ว่ามีประโยชน์อย่างยิ่งต่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด

ก่อนหน้านี้ในช่วงต้นทศวรรษที่ 1960 อายุขัยเฉลี่ยของชาวญี่ปุ่นต่ำสุดในบรรดากลุ่มประเทศ G7 เนื่องจากอัตราการเสียชีวิตด้วยโรคหลอดเลือดสมองและมะเร็งสูง แต่ตอนนี้กลายเป็นสูงที่สุดในบรรดา G7 เนื่องจากการบริโภคเกลือและอาหารที่มีรสเค็มน้อยลง มีส่วนทำให้การเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดสมองและมะเร็งกระเพาะอาหารลดลงด้วย

ดร.มาร์ตินยังชี้ว่าอายุขัยเฉลี่ยที่สูงขึ้นของชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่เกิดจากอัตราการเสียชีวิตจากโรคหัวใจขาดเลือด กล้ามเนื้อหัวใจตาย และโรคมะเร็งของชาวญี่ปุ่นน้อยลง

เมื่อเปรียบเทียบกับชาวแคนาดา ฝรั่งเศส อิตาลี และอเมริกัน คนญี่ปุ่นบริโภคเนื้อแดงน้อยกว่ามาก (โดยเฉพาะเนื้อวัว) ตลอดจนผลิตภัณฑ์จากนม ไขมัน น้ำตาลและสารให้ความหวาน แต่ทานปลา อาหารทะเล ข้าว ถั่วเหลือง และชามากกว่า

โดยเฉพาะอย่างยิ่งถั่วเหลืองเป็นแหล่งสำคัญของไอโซฟลาโวน โมเลกุลที่มีคุณสมบัติต้านมะเร็งและมีประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งบทความชี้ว่าการบริโภคไอโซฟลาโวนของชาวเอเชียเชื่อมโยงกับความเสี่ยงที่ลดลงของมะเร็งเต้านมและต่อมลูกหมาก นอกจากนี้ชาวญี่ปุ่นมักดื่มชาเขียว ไม่ใส่น้ำตาล ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกาย

นอกจากอาหารการกินแล้ว ไลฟ์สไตล์อื่นๆ ก็มีผลเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย การสูบบุหรี่ หรือกิจกรรมอื่นๆ ทั้งนี้จะสังเกตได้ว่าผู้สูงอายุชาวญี่ปุ่นมักมีการรวมกลุ่มกิจกรรมต่างๆ รวมถึงการออกกำลังกาย และผู้สูงอายุชาวญี่ปุ่นจำนวนมากยังคงทำงาน ซึ่งการได้เคลื่อนไหวร่างกายก็ทำให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้อีกสิ่งสำคัญคือคุณภาพอากาศ สุขอนามัย และญี่ปุ่นยังออกกฎให้ประชาชนได้ตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกๆ ปีด้วย

Photo by Reuters/JAPAN-OLDEST WOMAN/File Photo

ข่าวล่าสุด

"พลังงาน" สั่งเข้ม! ตรวจสอบปริมาณส่งออกน้ำมัน ทางบก-เรือ พร้อมร่วมมือกองทัพสกัดลักลอบส่งน้ำมันเข้ากัมพูชา