โลกต้องแบกรับวิกฤตก๊าซแพง หากรัสเซียแผลงฤทธิ์ลดส่งออก
จะเป็นอย่างไรหากรัสเซียไม่ส่งออกก๊าซให้ยุโรป เพราะไม่จ่ายเป็นรูเบิล
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียเคยกำหนดว่าวันนี้ (31 มี.ค.) จะเป็นเส้นตายของประเทศที่ "ไม่เป็นมิตร" หรือบรรดาประเทศที่ร่วมวงคว่ำบาตรรัสเซีย จะต้องชำระค่าก๊าซธรรมชาติของรัสเซียเป็นสกุลเงินรูเบิล ซึ่งจะส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศในสหภาพยุโรปที่ต้องพึ่งพาพลังงานจากรัสเซียจำนวนมาก
แม้ว่าจนถึงตอนนี้สหภาพยุโรปและกลุ่มประเทศ G7 ยังคงยืนกรานปฏิเสธข้อเรียกร้องของรัสเซีย แต่ก่อนหน้านี้รัสเซียกล่าวว่าพร้อมที่จะปิดก๊อกท่อส่งก๊าซไปยังยุโรปหากประเทศเหล่านั้นไม่จ่ายเงินเป็นรูเบิล ขณะที่ประเทศส่วนใหญ่ชำระค่าก๊าซของรัสเซียเป็นยูโรหรือดอลลาร์สหรัฐ
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ดมิทรี เพสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซียกล่าวว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นในวันนี้ยังไม่ใช่การบังคับให้ต้องชำระค่าก๊าซด้วยรูเบิลในทันที เนื่องจากการกำหนดแนวทางปฏิบัติในการส่งก๊าซและชำระเงินเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา
แต่ด้านยาเชสลาฟ โวโลดิน สมาชิกรัฐสภารัสเซียยืนยันว่ายุโรปต้องจ่ายค่าก๊าซเป็นรูเบิล และอาจรวมไปถึงสินค้าอื่นๆ ด้วยในอนาคต
จะเกิดอะไรขึ้นหากรัสเซียปิดก๊อก?
เว็บไซต์ RT ของรัสเซียระบุว่ามีความเสี่ยงที่จะเกิดวิกฤตพลังงานโลกหากปิดกั้นพลังงานจากรัสเซียไปยังยุโรป เนื่องจากรัสเซียเป็นผู้ส่งออกก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดของโลก และเป็นผู้ส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากซาอุดิอาระเบีย
หากยุโรปซื้อก๊าซจากสหรัฐหรือกาตาร์พวกเขาจะต้องจ่ายในราคาที่สูงขึ้น นอกจากนี้จะทำให้เกิดการขาดแคลนก๊าซ ซึ่งจะนำไปสู่ราคาก๊าซที่พุ่งขึ้นทั่วโลก
นอกจากนี้ RT ระบุว่าหากยุโรปไม่นำเข้าก๊าซจากรัสเซียจะทำให้รัสเซียสูญเสียรายได้ระหว่าง 200-300 ล้านยูโรต่อวัน อย่างไรก็ตาม รัสเซียสามารถเปลี่ยนเส้นทางก๊าซบางส่วนไปยังเอเชียได้ แต่ยุโรปมีแนวโน้มที่จะเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 เนื่องจากราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้นจะส่งผลให้เศรษฐกิจในภูมิภาคเข้าสู่ภาวะถดถอย
ประเทศหนึ่งที่จะได้รับผลกระทบอย่างมากคือเยอรมนี ซึ่งนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียมากที่สุดในสหภาพยุโรป แต่เยอรมนีตั้งเป้าที่จะเลิกพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลของรัสเซียอย่างรวดเร็ว โดยมีเป้าหมายที่จะยุติการซื้อน้ำมันและถ่านหินจากรัสเซียในวงกว้างในปีนี้ และยุติการนำเข้าก๊าซรัสเซียเกือบทั้งหมดภายในกลางปี 2024 ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่ยากลำบากในตอนนี้
กระทบราคาน้ำมัน?
นักวิเคราะห์เตือนว่าหากยุโรปยังคงตัดสินใจที่จะเลิกพึ่งพาน้ำมันจากรัสเซีย ราคาน้ำมันดิบอาจพุ่งขึ้นถึง 200 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลหรือสูงกว่านั้น โดยทุกวันนี้รัสเซียส่งออกน้ำมันให้แก่สหภาพยุโรปประมาณ 4 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ทั้งนี้ ยุโรปพึ่งพาพลังงานจากรัสเซียเป็นปริมาณมาก โดยนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียกว่าร้อยละ 40 นำเข้าน้ำมันร้อยละ 27 และนำเข้าถ่านหินเกือบครึ่งหนึ่งของการนำเข้าทั้งหมด
Photo by REUTERS//File Photo