posttoday

รู้จัก Aphasia โรคร้ายที่ทำให้ Bruce Willis ต้องลาวงการ

31 มีนาคม 2565

Bruce Willis ประกาศยุติบทบาทนักแสดง หลังป่วยโรค Aphasia

ช็อกวงการฮอลลีวูดหลังจากที่บรูซ วิลลิส (Bruce Willis) พระเอกรุ่นใหญ่วัย 67 ปี ประกาศยุติบทบาทนักแสดงหลังป่วยด้วยโรคอะเฟเซีย (Aphasia) ภาวะบกพร่องทางการสื่อความ ที่ทำให้ผู้ป่วยมีทักษะการสื่อสารผิดปกติ ไม่สามารถโต้ตอบหรือทำความเข้าใจได้

รู้จัก Aphasia

Aphasia หรือ ภาวะบกพร่องทางการสื่อความ เกิดจากความผิดปกติของระบบประสาท เมื่อสมองส่วนที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการทำงานของภาษาได้รับความเสียหาย อาจเกิดจากภาวะเส้นเลือดในสมองแตก ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ หรือการผ่าตัดสมอง

The New York Times อ้างข้อมูลจากนายแพทย์ชาแซม ฮุสเซน (Shazam Hussain) ผู้อำนวยการศูนย์หลอดเลือดสมองที่คลินิกคลีฟแลนด์ ในโอไฮโอ ระบุว่าโรคหลอดเลือดสมองเป็นสาเหตุอันดับหนึ่งที่ทำให้เกิดภาวะบกพร่องทางการสื่อความ นอกจากนี้อาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ อย่างเช่น ภาวะสมองเสื่อม โรคอัลไซเมอร์ การได้รับบาดเจ็บที่สมองหรือศีรษะอย่างรุนแรง เนื้องอกในสมอง และการติดเชื้อในสมอง เป็นต้น

โดยผู้ป่วยจะแสดงอาการแตกต่างกันออกไป บางรายอาจมีปัญหาในการพูด การเรียบเรียงประโยค การจดจำคำศัพท์ ไม่สามารถสนทนาโต้ตอบได้อย่างปกติ บางรายอาจมีปัญหาด้านการอ่านและเขียนร่วมด้วย

สัญญาณบ่งบอกโรค?

ส่วนใหญ่แล้วความพิการทางสมองมักเกิดขึ้นในผู้ป่วยที่มีอายุเกิน 65 ปี แต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัยอย่างกะทันหัน โดยเฉพาะเมื่อเกิดโรคหลอดเลือดสมอง แต่บางคนจะค่อยๆ แสดงอาการที่บ่งชี้ถึงความผิดปกติของสมองทีละน้อย

นายแพทย์ฮุสเซนกล่าวว่า ประโยคของพวกเขาจะค่อยๆ สั้นลงๆ จนถึงจุดที่มีปัญหาในการสื่อสารในที่สุด นอกจากนี้ผู้ป่วยอาจพบว่าความสามารถในการอ่านและเขียนลดลงเมื่อเวลาผ่านไป

พร้อมเสริมว่าทุกคนอาจมีช่วงเวลาที่หลงลืมนึกคำศัพท์ไม่ออก แต่เมื่อใดก็ตามที่รู้สึกว่าทักษะการสื่อสารแย่ลงจนกระทบการใช้ชีวิตประจำวัน และรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ หรือคนรอบตัวชี้ให้เห็นว่าการสื่อสารของเราผิดปกติควรปรึกษาแพทย์ เนื่องจากผู้ที่มีความผิดปกติทางสมองจะสูญเสียความเข้าใจในการพูดคุย การมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น

"ถ้ามันกระทบการสื่อสารของคุณจริงๆ ควรกังวลนะ แต่ถ้ามีช่วงเวลาที่นึกคำไม่ออกบ้างนิดๆ หน่อยๆ ไม่เป็นไร" นายแพทย์ฮุสเซนกล่าว

วิธีการป้องกัน?

นายแพทย์ฮุสเซนชี้ว่าไม่มีวิธีใดที่จะรับประกันได้อย่าง 100% ว่าเราจะไม่เกิดความผิดปกติทางสมอง แต่มีวิธีง่ายๆ ที่จะดูแลสุขภาพของสมองเพื่อลดความเสี่ยง นั่นก็คือ การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็นครบทุกชนิด ออกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และระวังปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมอง ความดันโลหิตสูง คอเลสเตอรอลสูง และเบาหวาน นอกจากนี้การสูบบุหรี่เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองและความพิการทางสมองด้วย

การรักษา?

แม้ว่าจะไม่มีวิธีการรักษาให้หายขาด แต่มีวิธีการบำบัดเพื่อฟื้นฟูความสามารถในการพูดและการใช้ภาษาได้ โดยผู้ป่วยจะได้รับการประเมินทักษะด้านการสื่อสาร และมีวิธีการบำบัดที่แตกต่างกันออกไป อย่างเช่น เสริมทักษะด้านการอ่าน พูด และเขียน ผ่านแบบฝึกหัดเติมคำในช่องว่าง ฝึกให้ผู้ป่วยจดจำคำพ้องความหมายและคำตรงข้าม เสริมสร้างทักษะด้านการรับรู้และการสนทนาที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวัน หรืออาจมีการสวมบทบาทสมมติจำลองสถานการณ์ต่างๆ

อาการของผู้ป่วยจะค่อยๆ ดีขึ้นเมื่อได้รับการบำบัดอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ป่วยแต่ละรายจะใช้เวลาในการบำบัดมากน้อยแตกต่างกันไป ซึ่งเว็บไซต์ pobpad ระบุว่าการบำบัดจะได้ผลดีที่สุดเมื่อเริ่มบำบัดทันทีหลังจากที่ร่างกายและสมองฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บจนอยู่ในอาการที่ปลอดภัย

Photo by Tolga AKMEN / AFP