posttoday

รับได้ไหม? ทำร้ายคนอื่นเพื่อปกป้องคนรักจากการทำร้ายด้วยวาจา

28 มีนาคม 2565

มุกตลกที่คนฟังไม่ขำด้วยไม่ถือว่าเป็นมุกตลก แล้วการทำร้ายคนอื่นเพื่อคนที่เรารัก เรียกว่าความรักได้หรือเปล่า?

"ผมมีหน้าที่รักผู้คน ปกป้องผู้คน และเป็นสายน้ำให้กับคนของผม...ผมดูเหมือนพ่อที่บ้าคลั่ง แต่ความรักจะทำให้คุณทำเรื่องบ้าๆ " วิล สมิธ กล่าวขอโทษทั้งน้ำตาขณะรับรางวัลออสการ์ โดยเปรียบตัวเขากับริชาร์ด วิลเลียมส์ พ่ออารมณ์ร้อนในภาพยนตร์เรื่อง King Richard

"ผมอยากจะขอโทษอะคาเดมี ขอโทษเพื่อนๆ นักแสดงที่มาร่วมงานในวันนี้ ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าการที่ยืนอยู่ในจุดนี้คุณต้องรับคำดูถูกเหยียดหยามให้ได้ คุณต้องยอมให้คนอื่นพูดเรื่องบ้าๆ เกี่ยวกับคุณ ยอมให้คนอื่นดูหมิ่นคุณ คุณต้องยิ้มและแสร้งทำเป็นว่าไม่เป็นอะไร"

หลังจากที่สมิธเกิดฟิวส์ขาดเดินปรี่ขึ้นไปตบหน้า คริส ร็อก ดาวตลกชื่อดังที่กำลังทำหน้าที่เป็นพิธีกรในงานประกาศรางวัลออสการ์ เมื่อร็อคแซว เจดา พินเก็ตต์ สมิธ ภรรยาสุดที่รักของเขาที่ป่วยเป็นโรคผมร่วงเป็นหย่อม (Alopecia) จนต้องโกนผม ว่าเหมาะเล่นหนังเรื่อง G.I. Jane ที่ตัวเอกหญิงในเรื่องต้องโกนหัวเพราะเป็นทหาร

เหตุการณ์นี้กลายเป็นเรื่องโด่งดังไปทั่วโลก ท่ามกลางคอมเมนต์ต่างๆ นานาจากคนในวงการบันเทิงและบรรดาชาวเน็ต

"มันไม่สำคัญว่าเรื่องตลกของคริส ร็อก จะไร้รสนิยมหรือน่ารังเกียจขนาดไหน แต่ไม่มีใครมีสิทธิทำร้ายร่างกายคนอื่นทั้งนั้น" แอนดี โอสทรอย (Andy Ostroy) นักแสดงและโปรดิวเซอร์ชาวอเมริกันกล่าว

โจนาธาน ที. กิลเลียม (Jonathan T. Gilliam) พิธีกรรายการพอดแคสต์ The Experts และนักเขียนเจ้าของผลงานหนังสือมากมาย กล่าวผ่านทวิตเตอร์ว่า "ถ้าอยากพิสูจน์กลไกของกฎหมายสำหรับดาราและกลุ่มอีลีทว่ามันต่างจากคนทั่วไปขนาดไหน ดูที่วิล สมิธ ตบคริส ร็อกกลางรายการสดสิ ตำรวจและผู้จัดงานไม่เห็นทำอะไรเลย จริงๆ แล้วสมิธยังได้ขึ้นรับรางวัลหลังจากนั้นด้วยซ้ำ"

"วิล สมิธพูดออกมาได้ว่าอยากเป็นเรือแห่งความรัก ความรักไม่ใช่ความรุนแรงค่ะ ความรักไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นบนเวทีโลกในค่ำคืนนี้ เราไม่ควรจะต้องมาเห็นภาพดาราตบตีใครออกทีวีทั่วโลก แล้วหลังจากนั้นยังได้รับเสียงปรบมือรัวๆ เมื่อพูดถึงความรักอีก" มาเรีย ชริเวอร์ (Maria Shriver) นักข่าวและนักเขียนชาวอเมริกันกล่าว

ด้านนักแสดงและผู้กำกับ ร็อบ ไรเนอร์ (Rob Reiner) กล่าวว่า "วิล สมิธติดค้างคำขอโทษกับคริส ร็อก อย่างใหญ่หลวง ไม่มีข้อแก้ตัวสำหรับสิ่งที่เขาทำ โชคดีแค่ไหนที่คริสไม่แจ้งความทำร้ายร่างกาย ข้อแก้ตัวที่เขาพล่ามในคืนนี้เป็นเพียงเรื่องไร้สาระ"

ทริชา เททัม (Trisha Tatum) ผู้ใช้ทวิตเตอร์รายนี้มองว่าพริวิเลจทำให้สามารถทำร้ายร่างกายคนอื่นออกทีวี กลับไปนั่งที่เดิมหน้าตาเฉย และรับรางวัลออสการ์เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน

รับได้ไหม? ทำร้ายคนอื่นเพื่อปกป้องคนรักจากการทำร้ายด้วยวาจา

หนำซ้ำชาวเน็ตหลายคนยังสังเกตว่าตอนที่ร็อกแซวเจดา สมิธยังหัวเราะอยู่เลย แต่พอหันไปเห็นว่าภรรยามีสีหน้าไปพอใจ ก็ปรี่เข้าไปตบหน้าร็อกเสียอย่างนั้น

ผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อ ฟอเรสต์ พอลล็อค (Forrest Pollock) กล่าวว่า "สมิธเปลี่ยนจากการหัวเราะ เป็นการตบ ตะโกนด่า แล้วก็ร้องไห้ บอกว่าอยากเป็นเรือแห่งความรัก ผมว่าเขาเสียสติไปแล้ว"

"ถ้าวิล สมิธ กล้าทำขนาดนี้ต่อหน้ากล้อง ลองคิดดูสิว่าถ้าไม่มีกล้องเขาจะทำอะไรบ้าง" คูย่า (kuya) คอมเมนต์บนยูทูบของ Guardian News

เรียกว่าโดนทัวร์ลงชุดใหญ่ทีเดียวสำหรับ วิล สมิธ แต่ทางด้านของ คริส ร็อก ก็โดนจวกยับไม่แพ้กัน เพราะหลายคนอาจเคยได้ยินคำว่า "มุกตลกที่ทำให้คนฟังรู้สึกไม่ดี ไม่ถือว่าเป็นมุกตลก"

ดาเนียลลา ซิลวา (Daniella Silva) ผู้ใช้ทวิตเตอร์รายนี้กล่าวถึงสมิธว่า "ต้องเคารพคำขอโทษนี้นะ แม้ฉันจะไม่เคยคิดว่าความรุนแรงคือคำตอบ แต่บางทีความรักก็ทำให้เราทำเรื่องบ้าๆ ได้ ทั้งถูกและผิด แล้วแก้ไขมัน นี่แหละชีวิต"

"ขอโทษทุกคนยกเว้นคนที่ไปตบเขาเนี่ยนะ ไม่น่าเคารพอะ" ชาวเน็ตรายหนึ่งแย้ง

"ก็จริง แต่เจดาต้องโกนผมเพราะป่วย มันเป็นมุกตลกต่ำๆ ฉันชื่นชมคริสนะ แต่เรื่องตลกก็ต้องมีขอบเขต" ซิลวาตอบกลับ

รับได้ไหม? ทำร้ายคนอื่นเพื่อปกป้องคนรักจากการทำร้ายด้วยวาจา

"คิดว่าเจ๋งหรอที่คริส ร็อก คิดว่ามันตลกที่จะล้อเล่นกับอาการป่วยของภรรยาของวิล สมิธ" เวนกัต ประภู (Venkat Prabhu) นักแสดงและผู้กำกับชาวอินเดียร่วมแสดงความเห็นในประเด็นนี้ด้วย

อีกส่วนหนึ่งของความคิดเห็นจากชาวเน็ตที่ไม่ตลกกับมุกของร็อก maiaheridani กล่าวว่า "ชายผิวดำที่ทำสารคดีตอกย้ำความสำคัญของผมของผู้หญิงแอฟริกัน-อเมริกัน กลับมาล้อเลียนหญิงผิวดำที่มีปัญหาผมร่วงเนี่ยนะ ไม่สมเหตุสมผลเลย" ซึ่งหมายถึงภาพยนตร์สารคดีเรื่อง Good Hair ที่ร็อกร่วมแสดงและเขียนบทด้วย

"วิล สมิธ ทำร้ายร่างกายคริส ร็อก นี่คืออาชญากรรม จบ" Mary Fabulous กล่าว ขณะที่ผู้ใช้ชื่อว่า EnglishSpringerSpaniel21 แย้งว่าคริส ร็อก ดูถูกเจดาที่ผมร่วงเพราะอาการป่วย เห็นได้ชัดว่าเธอไม่สบายใจกับคำพูดของร็อก วิลไม่ต้องการให้ใครก็ตามดูหมิ่นภรรยาของเขา เขาแค่ลุกขึ้นเพื่อปกป้องเกียรติของเธอ

โซเฟีย บุช (Sophia Bush) นักแสดง ผู้กำกับ และโปรดิวเซอร์ชาวอเมริกันกล่าวว่า "ความรุนแรงมันไม่โอเคเลย การทำร้ายร่างกายก็ไม่ใช่คำตอบ แต่นี่เป็นครั้งที่ 2 แล้วที่คริสล้อเจดาบนเวทีออสการ์ การกดคนอื่นเป็นสิ่งที่ผิด การทำเช่นนั้นโดยเจตนาถือว่าโหดร้าย ไปพักทั้งคู่นั่นแหละ"