posttoday

'รัสปูติน' นักบุญลึกลับผู้สาปแช่งให้เกิดจุดจบของราชวงศ์รัสเซีย

23 มีนาคม 2565

กริกอรี รัสปูติน หมอเทวดาหยั่งรู้ฟ้าดิน ผู้มีอิทธิพลอย่างมากต่อราชวงศ์โรมานอฟ

กริกอรี รัสปูติน นักบุญพเนจรที่เข้าไปมีอิทธิพลอย่างมากต่อราชวงศ์รัสเซีย ถูกมองว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความวุ่นวายในราชวงศ์โรมานอฟอันเกรียงไกร แม้กระทั่งเหตุการณ์สังหารหมู่ในราชวงศ์โรมานอฟอันนำมาซึ่งการล่มสลายของสถาบันกษัตริย์รัสเซียยังถูกโยงไปถึงคำสาปแช่งของเขา

รัสปูตินกลายเป็นศัตรูตัวฉกาจของราชสำนัก ทำให้เขาต้องจบชีวิตลงด้วยน้ำมือของชนชั้นสูงในราชวงศ์ แต่สาเหตุการตายของเขาเป็นตำนานที่ถูกเล่าขานกันไปต่างๆ นานา

ไม่มีใครทราบที่มาแน่ชัดของบุรุษลึกลับคนนี้ รู้แต่เพียงว่ามาจากครอบครัวชาวนาในเมืองโตโบลสค์ ในไซบีเรีย ก่อนที่จะก้าวเข้าสู่เส้นทางศาสนา โดยเข้าร่วมนิกายคริสติ (Khlysty) ว่ากันว่าอิทธิฤทธิ์ของรัสปูตินนั้นไม่ธรรมดา จนถูกขนานนามไปต่างๆ นานา ไม่ว่าจะเป็นหมอเทวดา ผู้หยั่งรู้ฟ้าดิน หมอผีปีศาจ หรือพ่อมดซาตาน

ย้อนกลับไปในสมัยพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 จักรพรรดิพระองค์สุดท้ายแห่งรัสเซีย สถานการณ์บ้านเมืองรัสเซียในขณะนั้นย่ำแย่หนัก พระองค์ต้องรับมือกับสงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่น, เหตุการณ์วันอาทิตย์ทมิฬ, เหตุจลาจลมากมาย ตลอดจนการปฏิวัตอรัสเซียที่เกิดขึ้นในเวลาต่อมา อีกทั้งการประชวรของด้วยโรค "ฮีโมฟีเลีย" หรือโรคเลือดไหลไม่หยุดของพระราชโอรส "เจ้าชายอเล็กไซ นิโคลาวิช โรมานอฟ" รัชทายาทชายเพียงพระองค์เดียว ผู้เป็นความหวังของการสืบราชบัลลังก์

'รัสปูติน' นักบุญลึกลับผู้สาปแช่งให้เกิดจุดจบของราชวงศ์รัสเซีย

รัสปูตินได้รับการแนะนำให้รู้จักกับราชวงศ์รัสเซียและเหล่าขุนนางซึ่งมีความนิยมชมชอบเรื่องไสยศาสตร์เป็นอย่างมาก ในปี 1908 ชื่อเสียงของรัสปูตินได้รับการยอมรับขึ้นไปอีก เมื่อถวายการรักษาเจ้าชายอเล็กไซจนทรงหายจากพระอาการประชวรอย่างน่าอัศจรรย์ พระจักรพรรดิยังทรงเชื่อว่าการเก็บรัสปูตินไว้ใกล้ตัวจะช่วยให้ราชวงศ์รุ่งเรืองและมีอำนาจมากขึ้น ทำให้รัสปูตินกลายเป็นคนสนิทขององค์จักรพรรดิและจักรพรรดินี

รัสปูตินเป็นที่ไว้วางพระทัยของทั้งสองพระองค์ คำพูดของเขามีน้ำหนักมาก ทำให้รัสปูตินมีอิทธิพลอย่างยิ่งต่อราชสำนักรัสเซีย

ถึงกระนั้น ดูเหมือนว่าบรรดาชนชั้นสูงในราชสำนักจะไม่ค่อยชอบขี้หน้ารัสปูตินสักเท่าไร รัสปูตินถูกร้องเรียนพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมอยู่บ่อยครั้งไม่ว่าจะเป็นสำมะเลเทเมา มักมากในกาม สมสู่กับผู้หญิงไม่เลือกหน้า อย่างไรก็ตามบางตำราก็ว่านิกายคริสติมีความเชื่อว่าการร่วมเพศ จะทำให้ก้าวข้ามกิเลสตัณหาซึ่งจะช่วยให้เขาได้เข้าใกล้พระเจ้า แม้จะถูกแฉหลายต่อหลายครั้งแต่พระจักรพรรดิทรงเลือกที่จะปล่อยผ่านไป

ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 พระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 ทรงเข้าร่วมเป็นแนวหน้าของกองทัพรัสเซีย จึงทรงแต่งตั้งให้จักรพรรดินีอเล็กซานดราเป็นผู้สำเร็จราชการแทน ด้วยความที่พระองค์ทรงไว้วางพระทัยรัสปูตินอย่างมาก ทำให้การกำหนดนโยบายของรัฐแทบจะขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของรัสปูติน นอกจากนี้ยังว่าในช่วงเวลานั้นมีเหล่าขุนนางถูกไล่ออกไม่น้อยเพราะคำสั่งของรัสปูติน

รัสปูตินเริ่มเหิมเกริมจนคนในราชสำนักทนไม่ไหว หนึ่งในนั้นรวมถึงเจ้าชายเฟลิกซ์ ยูซูปอฟ พระสวามีของพระราชนัดดาในพระเจ้าซาร์ ซึ่งไม่พอใจรัสปูตินจนเป็นผู้นำในการวางแผนลอบสังหาร ในปี 1916 โดยทรงหลอกให้รัสปูตินกินเค้กและไวน์ที่ผสมยาพิษ ถึงกระนั้นก็ไม่สามารถทำอะไรรัสปูตินได้

'รัสปูติน' นักบุญลึกลับผู้สาปแช่งให้เกิดจุดจบของราชวงศ์รัสเซีย

อย่างไรก็ตาม บางแหล่งบอกว่าจริงๆ แล้วไม่มีการใส่ยาพิษตั้งแต่แรก เนื่องจากแพทย์ที่ได้รับมอบหมายให้วางยาไม่กล้าทำเพราะกลัวผิดคำสาบานของแพทย์ ทำให้รัสปูตินไม่เป็นอะไรแม้จะกินเค้กและไวน์เข้าไปก็ตาม บ้างก็บอกอีกว่ารัสปูตินไม่ได้กินเค้กและไวน์เข้าไปเลย

เมื่อเห็นว่ารัสปูตินรอดพ้นจากยาพิษ เจ้าชายเฟลิกซ์จึงทรงคว้าปืนยิงรัสปูติน แต่ไม่ตาย รัสปูตินวิ่งหนีไปรอบตำหนักก่อนที่จะถูกขุนนางกระหน่ำยิ่งซ้ำ และมีนัดหนึ่งเข้าที่ศีรษะพอดี

สาเหตุการตายที่แท้จริงของรัสปูตินถูกเล่าขานกันไปต่างๆ นานา บ้างก็ว่ารัสปูตินถูกยิงจนเสียชีวิตจากการเสียเลือดมาก โดยมีกระสุนถูกเข้าที่ศีรษะและท้องก่อนที่ร่างของเขาจะถูกห่อและทิ้งลงน้ำเนวาที่เย็นยะเยือกจนเป็นน้ำแข็ง บ้างก็ว่ารัสปูตินยังมีชีวิตอยู่ขณะที่ถูกทิ้งลงแม่น้ำแต่เสียชีวิตจากการจมน้ำ อย่างไรก็ตามผลชันสูตรศพระบุว่าไม่พบหลักฐานของการจมน้ำตาย

รัสปูตินถูกมองว่าเป็นผู้มีวาจาศักดิ์สิทธิ์ สามารถทำนายอนาคตได้ โดยก่อนที่จะเสียชีวิตเขาเคยกล่าวว่ารู้ตัวว่าจะต้องตายในไม่ช้า และหากเป็นฝีมือของคนในราชวงศ์ ราชวงศ์รัสเซียต้องพบกับความพินาศ

2 ปีหลังการจากไปของรัสปูติน คำสาปแช่งของเขาก็สำแดงฤทธิ์เมื่อถึงวันสังหารราชวงศ์โรมานอฟ อันนำมาซึ่งจุดจบของราชวงศ์รัสเซีย

รายงานโดย ทีมข่าวต่างประเทศโพสต์ทูเดย์