เมื่อ NFT เจอปัญหาการปลอม-ลอกผลงานจนต้องปิดการซื้อขาย
ตลาดซื้อขาย NFT เจอปัญหาการปลอมหรือลอกผลงานจนต้องสั่งปิดการซื้อขาย
สำนักข่าว Reuters รายงานว่า Cent แพลตฟอร์มที่ขายทวีตแรกของ แจ็ก ดอร์ซีย์ ผู้ก่อตั้งทวิตเตอร์ ในรูปแบบ NFT ในราคา 2.9 ล้านเหรียญสหรัฐ ต้องยุติการทำธุรกรรม เนื่องจากผู้ขายขาย NFT ที่ตัวเองไม่ได้เป็นเจ้าของ
มูลค่าการซื้อขาย NFT พุ่งขึ้นไปอยู่ที่ราว 25,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2021 ทำให้หลายคนเกดคำถามว่าเหตุใดเงินจำนวนมหาศาลจึงถูกใช้ไปกับสิ่งที่ไม่สามารถจับต้องได้ และใครๆ ก็ดูได้ผ่านช่องทางออนไลน์แบบไม่เสียเงิน
ด้วยความที่ใครๆ ก็สามารถสร้าง NFT ได้ และความเป็นเจ้าของเหรียญไม่ได้หมายความว่าคนคนนั้นเป็นเจ้าของสิ่งของที่นำมาแปลงเป็น NFT ดังนั้นจึงพบการปลอมแปลง การหลอกลวง และการปั่นราคาบ่อยครั้ง
Cent ให้บริการซื้อขาย NFT ครั้งแรกเมื่อเดือน มี.ค.ปีที่แล้วโดยเริ่มจากการแปลงทวีตแรกของผู้ก่อตั้งทวิตเตอร์เป็น NFT แต่ แคเมอรอน เฮจาซี ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งเผยกับ Reuters ว่า เมื่อวันที่ 6 ก.พ. Cent ได้หยุดการให้บริการซื้อขายแล้ว
“มีกิจกรรมหลายอย่างที่กำลังเกิดขึ้น ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วไม่ควรเกิดขึ้น” เฮจาซีเผย และยังเน้นถึงปัญหาหลัก 3 ปัญหาคือ การขาย NFT โดยไม่ได้รับอนุญาต การผลิต NFT จากสิ่งของที่ไม่ใช่ของตัวเอง และการขายชุด NFT ที่คล้ายกับพันธบัตร
เฮจาซีเผยว่า ปัญหาเหล่านี้รุนแรงมากเพราะผู้ใช้กำลังผลิตสินทรัพย์ดิจิทัลปลอมอย่างต่อเนื่อง “มันเกิดขึ้นเรื่อยๆ เราแบนบัญชีที่ทำผิด แต่มันก็เหมือนเรากำลังเล่นเกมตีตัวตุ่น ทุกครั้งที่เราแบนก็จะมีบัญชีอื่นผุดขึ้นมาอีก”
ปัญหาเช่นนี้อาจได้รับความสนใจมากขึ้น เนื่องจากแบรนด์ใหญ่ๆ พากันเข้าร่วมกระแส metaverse หรือ Web3 โดยโคคา-โคลาและแบรนด์หรูอย่าง Gucci เป็นหนึ่งในหลายๆ บริษัทที่ขาย NFT ในขณะที่ YouTube มีแผนจะเข้าสู่วงการ NFT ในอนาคต
สำหรับ Cent ซึ่งมีผู้ใช้งาน 150,000 คน และรายได้ในหลักล้านเหรียญสหรัฐ เป็นแพลตฟอร์มที่ค่อนข้างเล็ก เฮจาซีกล่าวว่า ปัญหาของเนื้อหาปลอมและผิดกฎหมายมีอยู่ทั่วทั้งอุตสาหกรรม “ผมว่ามันเป็นปัญหาพื้นฐานสำหรับ Web3”
ด้านแพลตฟอร์มซื้อขาย NFT ที่ใหญ่ที่สุดอย่าง OpenSea เผยเมื่อเดือนที่แล้วว่า กว่า 80% ของ NFT ที่ผลิตขึ้นมาแบบไม่เสียเงินบนแพลตฟอร์มของตัวเองเป็นงานลอกเลียนแบบ หรือปลอม หรือเป็นสแปม
OpenSea แก้ปัญหาด้วยการจำกัดจำนวน NFT ที่ผู้ใช้สามารถสร้างแบบไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่ต้องเปลี่ยนใจหลังจากเจอกระแสตีกลับจากผู้ใช้ โดยขณะนี้บริษัทกำลังหาหนทางแก้เพื่อกำจัดคนที่สร้างปัญหา
สำหรับเฮจาซี เขาอาจต้องใช้การควบคุมการทำธุรกรรมต่างๆ ในระยะสั้นเพื่อให้กลับมาเปิดการซื้อขายบนแพลตฟอร์ม ก่อนจะหาวิธีที่ไม่ต้องมีคนกลางเข้ามาควบคุมต่อไป
Photo by Justin TALLIS / AFP