posttoday

ทหารเมียนมาแปรพักตร์เผยกองทัพถูกฝ่ายต่อต้านโจมตีหนัก

12 กุมภาพันธ์ 2565

ทหารเมียนมาที่หนีจากกองทัพไปอินเดียเปิดใจเล่าว่ากองทัพเมียนมาถูกฝ่ายต่อต้านโจมตีอย่างหนัก

สำนักข่าว Reuters รายงานว่า ก่องตูวิน ทหารเมียนมาที่หนีออกจากกองทัพเมื่อเดือน ธ.ค.ปีที่แล้ว เปิดใจเผยรายละเอียดการสูญเสียของกองทัพเมียนมาในรัฐชิน หลังปะทะกับกองกำลังฝ่ายตรงข้ามอย่างหนักหน่วงที่สุด

ก่องตูวินเผยกับ Reuters ว่า เมื่อปีที่แล้วทหารเมียนมาถูกโจมตีอย่างหนักจากอาวุธประดิษฐ์เองของกองกำลังฝ่ายต่อต้านจนเสียชีวิตไปอย่างน้อย 50 นาย บาดเจ็บสาหัสอีก 200 นาย

ก่องตูวินเล่าว่าเขาตัดสินใจเปลี่ยนข้างหลังจากทราบจากเพื่อนทหารด้วยกันว่ากองทัพทำร้ายประชาชนระหว่างปะทะกันเมื่อปีที่แล้ว

อดีตทหารวัย 32 ปีรายนี้แสดงบัตรประจำตัวประชาชน บัตรข้าราชการทหาร และเอกสารทางการที่เป็นรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการปะทะระหว่างเดือน พ.ค.-ธ.ค. ทั้งหมด 12 ครั้ง รวมทั้งเอกสารลับของกองทัพอีก 30 ชิ้น

อดีตทหารที่แปรพักตร์อีก 4 นายที่เห็นเอกสารดังกล่าวยืนยันว่าสอดคล้องกับเอกสารอื่นที่พวกเขาเคยเห็น

เอกสารฉบับหนึ่งที่ก่องตูวินนำมาเปิดเผยระบุว่า กองกำลังฝ่ายตรวข้ามนับร้อยคนโจมตีรถทหารที่เมืองมิ่นดะของรัฐชินในช่วงเช้ามืดของวันที่ 14 พ.ค. โดยยิงใส่กองทหารจากที่ซ่อนบนไหล่เขา ส่งผลให้ทหารเสียชีวิต 5 นาย สูญหาย 37 นาย

“เราถูกฝ่ายต่อต้านราว 1,000 คนโจมตี” รายงานการสู้รบของกองทัพระบุ “รถทหารถูกเผา 6 คัน อาวุธสูญหายจำนวนมาก” แต่ก่องตูวินเผยกับ Reuters ว่า มีทหารเสียชีวิตอย่างน้อย 20 นายในวันนั้น

Reuters รายงานว่า แถลงการณ์เมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมาของกลุ่มกบฏกองกำลังป้องกันดินแดนชิน (CDF) ในเมืองกะเลย์ระบุว่า ก่องตูวินนำอาวุธปืนและเครื่องกระสุนมามอบให้ และทางกลุ่มได้พาตัวก่องตูวินและภรรยาไปยังที่ปลอดภัย รวมทั้งจ่ายเงินตอบแทนค่าอาวุธไปราว 6 ล้านจั๊ต ราว 107,956 บาท

ก่องตูวินเผยว่า กองทัพเมียนมาสูญเสียกำลังทหารไปจำนวนมากตลอดปี 2021 หลังจากฝ่ายต่อต้านแข็งแกร่งขึ้น โดยมีทหารหนีออกจากกองทัพมาอยู่ข้างประชาชนกว่า 1,000 นายแล้ว ผิดกับที่รัฐบาลทหารอ้างว่าสามารถรักษาความมั่นคงในพื้นที่ส่วนใหญ่ได้แล้วตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปีที่แล้ว

ก่องตูวินเผยว่า ทหารที่ยังไม่เจอร่างจะถูกระบุว่าสูญหาย ทำให้ตัวเลขทหารที่เสียชีวิตจากการถูกซุ่มโจมตีที่มิ่นดะไม่ตรงกันคือ รายงานของทางการบอกว่าเสียชีวิต 5 นาย แต่ก่องตูวินคาดว่า 20 นาย

REUTERS/Devjyot Ghoshal