posttoday

ภาวะคลั่งใกล้จบ? นักวิเคราะห์ชี้ฟองสบู่คริปโตเริ่มแฟบแล้ว

24 มกราคม 2565

มันอาจไม่ใช่การระเบิดตูมของฟองสบู่คริปโต แต่มีปัจจัยที่ทำให้เชื่อได้ว่าฟองสบู่นี้เริ่มผ่อนลมออกแล้ว

1. พอล แจ็คสัน (Paul Jackson) หัวหน้าฝ่ายจัดสรรสินทรัพย์ระดับโลกของ Invesco บริษัทจัดการการลงทุนอิสระของสหรัฐซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย และมีสำนักงานสาขาใน 20 ประเทศ กล่าวไว้ก่อนที่ตลาดคริปโตจะเจอเข้ากับสถานการณ์ปั่นป่วนปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า Bitcoin อาจมีมูลค่าลดลงมากกว่า 50% ในปีนี้ จากระดับสูงสุดที่ประมาณ 68,000 ดอลลาร์ในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว เนื่องจากฟองสบู่ Bitcoin เริ่มที่จะใกล้จุดเปลี่ยนสำคัญ

2. ผู้เชี่ยวชาญจาก Invesco รายนี้คาดการณ์ได้ค่อนข้างแม่นยำ เพราะยังไม่ถึงสิ้นสุดสัปดาห์ Bitcoin ก็ราคาตกลงถึง 50% จากราคาพีคเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วไปเรียบร้อยแล้ว แต่หลายคนคงยังไม่คิดว่ามันคือจุดเริ่มต้นของภาวะฟองสบู่ใกล้แตก เพราะ Bitcoin และคริปโตอื่นๆ เคยผ่านสถานการณ์คล้ายๆ กันมาแล้ว

3. อย่างไรก็ตาม Bitcoin และตลาดคริปโตก็เคยเผ่านาภาวะฟองสบู่แตกมาแล้วเช่นกันในปี 2018 และคราวนี้ก็จะคลาดสายตาไม่ได้ พอล แจ็คสันชี้ว่า “เรารู้ว่ามันจบลงอย่างไรและ Bitcoin ได้ลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 42,000 ดอลลาร์ (ณ วันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2565) ตามแนวทางขาลงไปสู่รูปแบบภาวะคลั่ง (mania) รูปแบบดังกล่าวบ่งชี้ว่าการสูญเสีย 45% เกิดขึ้นในช่วง 12 เดือนหลังจากภาวะคลั่งทางการเงินทั่วๆ ไป”

4. ภาวะคลั่งทางการเงิน หรือ Financial mania ก็คืออีกชื่อหนึ่งของภาวะเศรษฐกิจฟองสบู่ (Economic bubble) คุณลักษณะหนึ่งของมันคือ ความคลั่งอันเกิดจากการเก็งกำไร (Speculative mania) ภาวะคลั่งหรือภาวะตื่น (เช่น ตื่นทิวลิปในศตวรรษที่ 17 ในเนเธอร์แลนด์) ด้วยการ "ปั่น" ราคาของสิ่งนั้นให้สูงขึ้นจนรู้สึกว่ามันสมเหตุสมผลที่จะลงทุนเพราะน่าจะได้ผลตอบแทนที่สูง ทำให้ผู้คนคลั่งไคล้ที่จะลงทุนกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง จนลืมไปกว่าพวกเขากำลังถูกลากเข้าสู่กับดัก

5. พอล แจ็คสันช่วง 12 เดือนก่อนและหลังจุดสูงสุดของราคาเรียกว่า 'ระยะคลั่ง' (Maniac phase) และบอกว่ารูปแบบการวิเคราะห์แนวโน้มของภาวะ mania บ่งชี้ว่าโดยทั่วไปแล้ว ฟองสบู่จะปล่อยลมออกไปอีกสองปี ดังนั้นจึงมีโอกาสที่ Bitcoin ร่วงต่ำกว่า 30,000 ดอลลาร์ในปีนี้ แต่เขาก็ยอมรับว่าคำเตือนเรื่องฟองสบู่ในตลาดคริปโตเคยผิดพลาดมาแล้ว และมีโอกาสที่มันจะเป็นภาวะฟองสบู่ติดต่อกันหลายๆ ครั้ง

6. ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์มองว่าการดิ่งลงคล้ายกับการล่มสลายของคริปโตในปี 2018 เมื่อเหรียญส่วนใหญ่ราคาตกลงไปประมาณ 90% หรือเป็น "ภาวะฟองสบู่แตก" ครั้งแรกของวงการคริปโต แต่ในช่วงที่มันดิ่งหนักๆ ในช่วงไม่ถึงเดือนมานี้ นักวิเคราะห์บางคนยังชี้ว่ามันคล้ายกับการเทขายครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ตลาดหุ้นสหรัฐเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 1929 หรือ "Black Thursday"

7. หากไม่ถึงระดับนั้น รายงานจาก Markets Insider กล่าวอ้างนักวิเคราะห์ของ UBS เตือนว่าคริปโตเขาสู่ "ฤดูหนาว" ที่คริปโตอาจราคาตกและซบเซาลากยาวนานกว่า 1 ปี

8. แต่ก็มีที่เห็นตรงกันข้ามแบสุดขั้วเหมือนกัน คือ Goldman Sachs คาดการณ์ไว้เมื่อต้นเดือนนี้ว่าราคาของ Bitcoin จะเพิ่มขึ้นจนสามารถทะลุ 100,000 ดอลลาร์ภายใน 5 ปีข้างหน้าโดยรับส่วนแบ่งตลาดจากทองคำอันเป็นผลพลอยได้จากการนำสินทรัพย์ดิจิทัลไปใช้ในวงกว้าง

Photo - REUTERS/Dado Ruvic/Illustration/File Photo