posttoday

ตอบกันชัดๆ ทำไมจู่ๆ น้ำมันพุ่งสูงสุดรอบ 7 ปี

19 มกราคม 2565

ราคาน้ำมันโลกพุ่งสูงสุดในรอบ 7 ปี โกลแมนแซคส์คาดปีหน้าทะลุ 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันดิบในตลาดหลัก 2 ตลาดของโลกพุ่งสูงสุดในรอบ 7 ปี โดยราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสที่ซื้อขายในตลาดเอเชียในวันที่ 18 ม.ค. พุ่งขึ้นไปอยู่ที่ 86.58 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2014

ขณะที่ราคาน้ำมันเบรนท์ทะเลเหนือทำสถิติสูงที่สุดเช่นกัน โดยขยับขึ้นมาอยู่ที่ 88.55 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.2% หลังจากขยับขึ้นไปแตะราคาสูงสุดที่ $89.05 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เมื่อวันที่ 13 ต.ค. 2014

ส่วน Goldman Sachs วาณิชธนกิจรายใหญ่ของสหรัฐคาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะแตะ 90 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลในไตรมาสแรกของปีนี้ และ 95 เหรียญสหรัฐในไตรมาสที่ 2 และทะยานไปถึง 100 เหรียญสหรัฐในไตรมาสที่ 3 และ 105 เหรียญสหรัฐในปีหน้า

ปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันโลกพุ่งสูงขึ้นคือ การที่กลุ่มกบฏฮูษีของเยเมนส่งโดรนไปโจมตีในกรุงอาบูดาบีของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ส่งผลให้รถบรรทุกน้ำมัน 3 คันระเบิดใกล้กับคลังเก็บน้ำมันของบริษัท ADNO ซึ่งก่อให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการจัดหาน้ำมันจากภูมิภาคที่เป็นแหล่งน้ำมันดิบ

นอกจากนี้ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาท่อส่งน้ำมันสำคัญจากอิรักไปยังท่าเรือตุรกีเพื่อส่งต่อไปยังยุโรปในทะเลเมดิเตอร์เรเนียระเบิดโดยยังไม่ทราบสาเหตุ เหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบต่อการขนส่งน้ำมันแน่นอนเพราะทางบริษัทจะตัดลดการส่งน้ำมันชั่วคราว โดยเมื่อปีที่แล้วท่อส่งน้ำมันนี้ขนส่งน้ำมันมากกว่าวันละ 450,000 บาร์เรลต่อวัน

สาเหตุอีกประการคือ น้ำมันดิบในสต็อกของโลกร่อยหรอลงเกือยจะเท่ากับตะดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ต.ค. 2019 เนื่องจากการแพร่ระบาดของ Covid-19 สายพันธุ์โอมิครอน (Omicron) ไม่ได้กระทบกับความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงมากนัก โดยความต้องการใช้น้ำมันจะเพิ่มขึ้น 3.5 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีนี้เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และในไตรมาส 4 จะเพิ่มถึง 101.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน

อีกทั้งปริมาณน้ำมันสำรองของกลุ่มประเทศ OPEC+ จะลดลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากประเทศหลักใน OPEC ผลิตน้ำมันน้อยลง ส่วนรัสเซียไม่สามารถเพิ่มกำลังการผลิต

ความตึงเครียดทางการเมืองทั้งในรัสเซียซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับ 3 ของกลุ่ม OPEC ยังเพิ่มความกังวลเกี่ยวกับปริมาณน้ำมัน

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเปิดประชุมเพื่อประณามการโจมตีกรุงอาบูดาบีโดยกลุ่มกบฏฮูษีในเยเมน ซึ่งอาจจะมีการโจมตีเพื่อล้างแค้นเอาคืนกันอีก ขณะที่ฝั่งรัสเซียส่งทหารไปประชิดพรมแดนยูเครนทำให้สหรัฐมองว่ารัสเซียอาจบุกยูเครนได้ทุกเมื่อ

ความตึงเครียดนี้อาจทำให้ปริมาณการผลิตน้ำมันสะดุด เนื่องจากขณะนี้กลุ่ม OPEC รัสเซีย และพันธมิตร ซึ่งเรียกในชื่อใหม่ว่า OPEC+ ไม่สามารถผลิตน้ำมันได้ตามเป้า 400,000 บาร์เรลต่อวันในแต่ละเดือนอยู่แล้ว

“OPEC+ ไม่สามารถผลิตได้ตามโควตา และหากความตึงเครียดทางการเมืองยังดำเนินต่อไป น้ำมันดิบเบรนท์อาจจะไม่ต้องการแรงผลักมากก็พุ่งไปแตะ 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลได้ง่ายๆ” เอ็ดเวิร์ด โมยา นักวิเคราะห์จาก OANDA เผย

ขณะที่เจ้าหน้าที่ของ OPEC เผยกับ Reuters ว่า ราคาน้ำมันขึ้นอาจยืดเยื้อไปอีก 2-3 เดือนข้างหน้า เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันฟื้นตัว บวกกับ OPEC+ ผลิตน้ำมันไม่ได้ตามเป้า และราคาอาจทะลุ 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

Photo by Pascal GUYOT / AFP