posttoday

เชื่อหรือไม่? ครั้งหนึ่งล็อบสเตอร์เคยเป็นอาหารคนจน

24 ธันวาคม 2564

นอกจากจะเป็นอาหารของคนจนและนักโทษแล้ว กุ้งล็อบสเตอร์อาหารแสนโอชะราคาแพงในทุกวันนี้ ครั้งหนึ่งเคยถูกใช้เป็นปุ๋ยและอาหารสัตว์ด้วยซ้ำ

แม้ว่าในปัจจุบันถือว่าเป็นอาหารรสเลิศ แต่ในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 ล็อบสเตอร์เคยเป็นอาหารของคนจนที่พวกเขากินกันจนเบื่อ การกินล็อบสเตอร์ 3 มื้อต่อวันนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกเลย

ในช่วงศตวรรษที่ 17 ถึง 18 ช่วงแรกของการตั้งถิ่นฐานในยุคอาณานิคม ตามแนวชายฝั่งแมสซาชูเซตส์เต็มไปด้วยกุ้งล็อบสเตอร์ กุ้งตัวยาวประมาณ 2 ฟุตคือสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไปตามแนวชายฝั่ง มันมีอยู่มากมายและราคาถูก ถึงถูกใช้เป็นอาหารของคนจน ทาส หรือนักโทษในคุก

ยิ่งไปกว่านั้น แทนที่คนจะกินมันกับเนย ล็อบสเตอร์ถูกใช้เป็นอาหารสัตว์อย่างหมู วัว หรือแมว ในขณะที่ชาวอเมริกันพื้นเมืองใช้ล็อบสเตอร์เป็นเหยื่อตกปลาหรือปุ๋ยเสียด้วยซ้ำ

เคยมีเคสที่ทาสในแมสซาชูเซตส์รู้สึกเบื่อหน่ายกับการกินกุ้งล็อบสเตอร์ที่เจ้านายให้จนถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาล และผู้พิพากษาพิจารณาว่าไม่ให้เจ้านายให้ทาสกินกุ้งล็อบสเตอร์มากกว่า 3 มื้อต่อสัปดาห์ ขณะที่นักโทษในเรือนจำต้องกินกุ้งล็อบสเตอร์บ่อยมากจนกฎหมายประกาศว่าเป็นเรื่องทารุณ

ทำไมกลายเป็นของแพง?

ข้ามไปในช่วงปี 1880 อาหารกระป๋องและการเดินทางโดยรถไฟได้รับความนิยม ผู้คนในอเมริกากลางเจอช่องทางการค้าใหม่ คือการทำล็อบสเตอร์กระป๋องและจัดส่ง ขณะที่ผู้จัดการรถไฟพบว่าถ้าพวกเขาเรียกมันว่าเป็นอาหารอันโอชะ ผู้โดยสารที่ไม่รู้จักชื่อเสียงที่น่าขยะแขยงของล็อบสเตอร์จะคิดว่ามันอร่อย

ในช่วงเวลานี้ทำให้อุปสงค์ของล็อบสเตอร์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หลายคนเดินทางไปยังนิวอิงแลนด์เพื่อซื้อล็อบสเตอร์สด ขณะที่อุปทานลดลง ส่งผลให้ราคาล็อบสเตอร์พุ่งสูงขึ้น

หลายปีผ่านไป กุ้งล็อบสเตอร์เริ่มไปโผล่อยู่ในสลัดบาร์ และในช่วงปี 1920 มันก็กลายเป็นอาหารทางเลือกสำหรับชนชั้นสูง จนกระทั่งสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ล็อบสเตอร์ก็ยังคงเป็นอาหารหรู

ทว่า ความนิยมของกุ้งล็อบสเตอร์ลดลงในช่วงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ และกลายเป็นอาหารสำหรับคนยากจนอีกครั้ง แต่เมื่อถึงปี 1950 มันก็กลับมาเป็นที่นิยม และกลายเป็นอาหารหรูมาจนถึงปัจจุบัน

อุปสงค์ล็อบสเตอร์ทั่วโลกกำลังเติบโต

นอกจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นแล้วยังมีอีกหลายปัจจัยที่ทำให้ล็อบเตอร์สราคาพุ่งกระฉูด รวมถึงการที่ต้องขนส่งล็อบสเตอร์ไปยังพื้นที่ห่างไกล ขณะที่ร้านอาหารส่วนใหญ่ให้บริการล็อบสเตอร์ที่สดใหม่ และกระบวนการเก็บรักษาที่จะทำให้ล็อบสเตอร์คงความสดใหม่ไปจนถึงขั้นตอนการปรุงนั้นทำให้มันมีต้นทุนมากขึ้นไปอีก

นอกจากนี้การทำฟาร์มล็อบสเตอร์ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะล็อบสเตอร์ไวต่อโรค ขณะที่ล็อบสเตอร์ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 7 ปีกว่ามันจะโตถึงเกณฑ์ที่กฎหมายอนุญาตให้จับได้ ซึ่งหากจับได้ล็อบสเตอร์ที่เด็กเกินไปหรือล็อบสเตอร์ตัวเมียที่มีไข่จะต้องปล่อยมันไป

ที่มา: Medium, Knowledge Nuts

ภาพ: Lobster served at the Fisherman's Wharf in Boston/The Pancake of Heaven/Wikipedia