posttoday

"พระสุเมรุพิโรธ" เมื่อภูเขาไฟแห่งทวยเทพปะทุขึ้น

05 ธันวาคม 2564

ภาพความหายนะและรายงานสถานการณ์จากพื้นที่ประสบภัยภูเขาไฟเซอเมรู (Semeru) ภูเขาไฟใหญ่ของอิโดนีเซียที่จุ่ๆ เกิดปะทุขึ้น

ภูเขาไฟเซอเมรูเป็นหนึ่งในภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นที่สุดลูกหนึ่งในอินโดนีเซีย ที่ระดับความสูง 3,676 เมตร ถือเป็นภูเขาไฟที่สูงที่สุดบนเกาะ เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม การปะทุเริ่มต้นเมื่อเวลา 14:50 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยปล่อยกลุ่มเถ้าภูเขาไฟสูง 12,000 เมต ขึ้นไปในอากาศ คาดว่าการปะทุเริ่มขึ้นเมื่อโดมลาวาที่ปากปล่องภูเขาไฟถล่มเนื่องจากฝนตกหนัก โดมที่พังทลายทำให้เกิดกระแสธารเถ้าถ่านร้อนจัด หรือ pyroclasitc ไหลลงมาตามทางลาดของภูเขาไฟ

"พระสุเมรุพิโรธ" เมื่อภูเขาไฟแห่งทวยเทพปะทุขึ้น

ในเขตปกครองมาลัง หกตำบลย่อยได้รับผลกระทบจากเถ้าถ่าน แปดหมู่บ้านและสองตำบลในเขตปกครองลูมาจังก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน สะพานกลาดักเปรักที่พังลงจากภัยพิบัติครั้งนี้ได้ปิดถนนรถเข้าถึงหมู่บ้านในพื้นที่ และยังเกิดไฟฟ้าขัดข้องและไฟฟ้าดับ ส่งผลกระทบต่อผู้คนอย่างน้อย 30,253 คนในเขตโปรโนจีโวของชวาตะวันออก บ้านเรือนอย่างน้อย 30 หลังถูกทำลายโดยกระแสลาวา และต้องอพยพประมาณ 300 ครอบครัว

"พระสุเมรุพิโรธ" เมื่อภูเขาไฟแห่งทวยเทพปะทุขึ้น

ณ ช่วงเช้าวันที่ 5 ธันวาคม โฆษกหน่วยงานบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติบอกกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากการปะทุของภูเขาไฟเซอเมรูของอินโดนีเซียเพิ่มขึ้นเป็น 13 รายในวันอาทิตย์

"พระสุเมรุพิโรธ" เมื่อภูเขาไฟแห่งทวยเทพปะทุขึ้น

ภูเขาไฟเซอเมรู รู้จักกันในชื่อ "มหาเมรุ" ซึ่งแปลว่า "ภูเขาอันยิ่งใหญ่" ในภาษาสันสกฤตที่ได้มาจากชื่อภูเขาพระเมรุหรือพระสุเมรุ อันเป็นศูนย์กลางจักรวาลวิทยาในศาสนาฮินดูซึ่งเป็นที่พำนักของเหล่าทวยเทพ คตินี้ยังคงมีอยู่ในเกาะชวาของประเทศอินโดนีเซียที่ซึ่งยังมีความเชื่อแบบฮินดูและพุทธผสมผสานกับศาสนาอิสลาม 

"พระสุเมรุพิโรธ" เมื่อภูเขาไฟแห่งทวยเทพปะทุขึ้น

ชาวฮินดูชาวอินโดนีเซียยังเชื่อว่าภูเขาเป็นที่พำนักของพระอิศวรในเกาะชวาด้วย ซึ่งเป็นความเชื่อแบบท้องถิ่นที่ตีความให้เข้ากับคติฮินดู และในวรรณคดีชวาเล่าไว้ว่า แต่เดิมภูเขาไฟสุเมรุนี้อยู่ทางตะวันตกของเกาะ แต่เพราะมีน้ำหนักมหาศาลจึงผลักแผ่นดินกลับไปอีกข้าง สุเมรุจึงไปอยุ่ทางทิศตะวันตกในปัจจุบัน 

"มหาเมรุ" เป็นหนึ่งในสถานที่เดินป่าที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในอินโดนีเซีย 

Photo by AMAN ROCHMAN / AFP