ทั้งล็อกดาวน์ทั้งปรับ! ยุโรปเร่งจัดการคนไม่ฉีดวัคซีน
สถานการณ์การแพร่ระบาดในยุโรปยังไม่ทุเลาหลายประเทศเริ่มมีมาตรการจำกัดการใช้ชีวิตของคนที่ไม่ฉีดวัคซีน
ก่อนการอุบัติขึ้นของสายพันธุ์โอไมครอน (Omicron) สถานการณ์ Covid-19 ในยุโรปก็ย่ำแย่อยู่แล้ว โดยมีตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทุบสถิติรายวัน ตัวเลขผู้เสียชีวิตและเข้ารักษาในโรงพยาบาลอยู่ในช่วงขาขึ้น
ล่าสุดโอไมครอนเข้ามาเพิ่มความไม่แน่นอนเข้าไปอีก หลายประเทศจึงต้องงัดมาตรการต่างๆ มาใช้โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่ยังไม่ฉีดวัคซีน ซึ่งสำนักข่าว Bloomberg รวบรวมไว้ดังนี้
เยอรมนี
เยอรมนีเป็นประเทศยุโรปล่าสุดที่จำกัดการใช้ชีวิตของคนที่ยังไม่ฉีดวัคซีน โดยประกาศว่าเฉพาะคนที่ฉีดวัคซีนแล้วหรือคนที่หายป่วยจาก Covid-19 เท่านั้นที่เข้าใช้บริการของร้านอาหาร โรงภาพยนตร์ และร้านค้าต่างๆ ที่จำหน่ายสินค้าไม่จำเป็นได้ และอาจบังคับฉีดวัคซีนทุกคนในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
กรีซ
รัฐบาลกรีซบังคับให้ประชาชนที่อายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปฉีดวัคซีนทุกคน และนับตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไปคนที่ยังไม่ฉีดวัคซีนจะถูกปรับเดือนละ 100 ยูโร หรือ 3,831 บาทจนกว่าจะฉีดวัคซีน โดยเงินค่าปรับจะนำไปให้โรงพยาบาล
สวิตเซอร์แลนด์
วานนี้ (3 ธ.ค.) รัฐบาลสวิสขอความร่วมมือประชาชนทำงานจากที่บ้าน โดยรัฐบาลยืนยันยังไม่ใช้มาตรการเข้มงวดอย่างการบังคับทำงานจากที่บ้านโดยเฉพาะกับกลุ่มคนที่ยังไม่ฉีดวัคซีน แต่เปิดโอกาสให้ภาคธุรกิจ เช่น บาร์ ไนต์คลับ จำกัดการให้บริการเฉพาะคนที่ฉีดวัคซีนแล้วหรือหายป่วยจาก Covid-19 ได้ นอกจากนี้ยังจำกัดไม่ให้คนที่ยังไม่ฉีดวัคซีนที่เดินทางมาจากหลายประเทศเข้าประเทศ
เบลเยียม
แม้เบลเยียมจะประกาศมาตรการใหม่วานนี้แต่ยังไม่มีมาตรการเฉพาะสำหรับคนที่ยังไม่ฉีดวัคซีน โดยโรงเรียนประถมจะปิดเร็วขึ้นสำหรับช่วงวันหยุดเทศกาลคริสต์มาส ส่วนโรงเรียนมัธยมต้องจำกัดการเรียนการสอนในห้องเรียน รวมทั้งห้ามจัดอีเว้นต์ในร่มที่มีผู้เข้าร่วมเกิน 200 คน การบังคับสวมหน้ากากอนามัยขยายไปถึงทุกคนที่อายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป
ออสเตรีย
ออสเตรียซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่ฉีดวัคซีนได้น้อยที่สุดในยุโรปตะวันตกจะล็อกดาวน์ไปจนถึงกลางเดือนนี้ และหลังจากนั้นรัฐบาลมีแผนจะยกเลิกล็อกดาวน์สำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้วหรือผู้ที่เพิ่งหายป่วยจาก Covid-19 โดยจะล็อกดาวน์เฉพาะคนที่ยังไม่ฉีดวัคซีนต่อ แต่ยังเดินทางไปทำงานได้หากมีผลตรวจหาเชื้อเป็นลบ นอกจากนี้ทางการยังมีแผนจะบังคับฉีดวัคซีนตั้งแต่เดือน ก.พ.เป็นต้นไป โดยมีค่าปรับสูงถึง 7,200 ยูโร หรือ 275,862 บาท
Bloomberg ระบุว่า มาตรการใหม่สำหรับคนที่ยังไม่ฉีดวัคซีนของยุโรปสะท้อนมุมมองว่าแม้จะมีหลายปัจจัยที่อยู่เบื้องหลังการระบาดรอบล่าสุด ไม่ว่าจะเป็นอากาศเย็นไปจนถึงการที่ประชาชนการ์ดตก แต่หนึ่งปัจจัยสำคัญคือวัคซีน
แม้ว่ายุโรปจะฉีดวัคซีนไปแล้วราว 640 ล้านโดส กระนั้นก็ยังมีประชากรอีกราว 150 ล้านคนที่ยังไม่ได้รับวัคซีนครบโดส
Bloomberg ระบุอีกว่า การลงโทษคนที่ยังไม่ฉีดวัคซีนไม่จำกัดอยู่เฉพาะในยุโรปเท่านั้น และอาจขยายวงกว้างออกไปอีก เนื่องจากรัฐบาลหลายประเทศต้องรับมือกับโอไมครอน อาทิ
สหรัฐ
รัฐบาลประธานาธิบดี โจ ไบเดน ออกมาตรการฉุกเฉินบังคับให้นายจ้างภาคเอกชนที่มีพนักงานตั้งแต่ 100 คนขึ้นไปบังคับให้พนักงานฉีดวัคซีนทุกคนภายในวันที่ 4 ม.ค. หรือต้องตรวจหาเชื้อเป็นประจำ หากฝ่าฝืนมีโทษปรับสูงสุดถึง 136,000 เหรียญสหรัฐ หรือ 4,605,368 บาท
ผลสำรวจเมื่อเดือน ต.ค.ที่ผ่านมาจาก Kaiser Family Foundation พบว่า พนักงานที่ยังไม่ฉีดวัคซีน 5% ลาออกจากงานหลังนายจ้างบังคับฉีดวัคซีน
สิงคโปร์
คนที่ยังไม่ฉีดวัคซีนต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลเองหากติด Covid-19 และจากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ ค่ารักษาพยาบาลเฉลี่ยสำหรับผู้ป่วยที่ต้องรักษาในห้องไอซียูเฉลี่ยอยู่ที่ 25,000 เหรียญสิงคโปร์ หรือ 617,183 บาท
Photo by THOMAS KIENZLE / AFP