posttoday

สายพันธุ์เดลต้าพ่นพิษ หลายประเทศกลับมาติดเชื้อกระฉุด  

19 มิถุนายน 2564

ยอดติดเชื้อในอังกฤษ รัสเซีย สหรัฐ กลับมาพุ่งกระฉุดอีกครั้งหลังสายพันธุ์เดลต้าระบาด

ขณะนี้หลายประเทศกำลังเจอศึกหนักจาก Covid-19 สายพันธุ์กลายพันธุ์เดลต้าที่พบครั้งแรกในอินเดียซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่แพร่ระบาดได้รวดเร็วและยังลดประสิทธิภาพของวัคซีนบางยี่ห้อ

ในอังกฤษซึ่งจากเดิมที่ตั้งเป้าว่าจะคลายล็อกดาวน์ขั้นสุดท้ายวันที่ 21 มิ.ย.นี้เพราะตัวเลขผู้ติดเชื้อเริ่มลดลงหลังระดมฉีดวัควีนได้ระดับหนึ่ง แต่กลับต้องเลื่อนออกไปอีกอย่างน้อย 1 เดือน เพราะเจอพิษสงของสายพันธุ์เดลต้า

รายงานล่าสุดของราชวิทยาลัยลอนดอนเมื่อวันพุธ (16 มิ.ย.) ระบุว่า เชื้อสายพันธุ์เดลต้าดันให้ตัวเลขผู้ติด Covid-19 ในอังกฤษเพิ่มขึ้น 50% ตั้งแต่เดือน พ.ค.ที่ผ่านมา

จากการประเมินของนักวิจัย นับตั้งแต่ช่วงต้นเดือน พ.ค. 60% ของผู้ที่ตรวจพบว่าติด Covid-19 ด้วยวิธี swap test ติดเชื้อสายพันธุ์เดลต้า ทว่าจนถึงวันที่ 7 มิ.ย.ตัวเลขกังกล่าวเพิ่มเป็น 90%

ขณะที่สหรัฐ ประธานาธิบดี โจ ไบเดน เตือนให้ชาวอเมริกันที่ยังไม่ได้รับวัคซีนรีบไปฉีด เนื่องจากเชื้อสายพันธุ์ที่แพร่กระจายได้เร็วอาจทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น

ด้าน โรเชลล์ วาเลนสกี ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ (CDC) คาดว่าเชื้อสายพันธุ์เดลต้าอาจกลายเป็นสายพันธุ์หลักในสหรัฐ เนื่องจากขณะนี้กราฟการพบเชื้อสายพันธุ์นี้ในสหรัฐอยู่ในช่วงขาขั้น สวนทางกับสายพันธุ์อื่นที่อยู่ในช่วงขาลง

เช่นเดียวกับสถานการณ์ Covid-19 ในรัสเซียที่กลับมารุนแรงอีกครั้ง หลังพบการระบาดอย่างรวดเร็วของเชื้อกลายพันธุ์ต่างๆ โดยเฉพาะสายพันธุ์เดลต้า ทำยอดป่วยรายวันพุ่ง 30% และพบว่ายังดื้อวัคซีน Sputnik V ถึง 58%

กระทรวงสาธารณสุขรัสเซีย รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันในกรุงมอสโกเพิ่มขึ้น 9,056 ราย เพิ่มขึ้นถึง 30% เทียบกับวันก่อนหน้า เป็นตัวเลขสูงสุดนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาด และในจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่จะเป็นสายพันธุ์เดลต้าถึง 89.3%

ทำให้ทางการกรุงมอสโกต้องประกาศเคอร์ฟิว ให้ผับบาร์และร้านอาหารเปิดไม่เกิน 23.00 น. ขณะที่บางร้านให้บริการเฉพาะลูกค้าที่ฉีดวัคซีนแล้วเท่านั้น

ที่น่ากังวลคือ ชาวรัสเซียเพียง 9.9% ของประชากรทั้งหมดเท่านั้นที่ได้รับวัคซีนครบโดส

นอกจากนี้ วานนี้ (18 มิ.ย.) โสมยา สวามินาธาน หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ขององค์การอนามัยโลก (WHO) แถลงว่าสายพันธุ์เดลต้ากำลังกลายเป็นสายพันธุ์หลักที่จะระบาดไปทั่วโลก เนื่องจากมีอัตราการแพร่เชื้อในระดับสูงมากขึ้น

Photo by Niklas HALLE'N / AFP