posttoday

องค์การยายุโรปยัน AstraZeneca มีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยง

15 มิถุนายน 2564

แม้หลายประเทศจะไม่ให้คนหนุ่มสาวรับวัคซีน AstraZeneca แต่องค์การยาแห่งสหภาพยุโรปยืนยันใช้ได้ตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป

องค์การยาแห่งสหภาพยุโรป (EMA) เผยวัคซีนต้านโควิด-19 ของ AstraZeneca ยังคงมีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยงในผู้ที่ได้รับวัคซีนทุกกลุ่มอายุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปี ตลอดจนมีความปลอดภัยและสามารถใช้ได้ตั้งแต่อายุ 18 ขึ้นไป

แม้ว่าก่อนหน้านี้หนังสือพิมพ์ La Stampa ของอิตาลีจะอ้างคำพูดของมาร์โค กาวาเลรี หัวหน้าคณะทำงานแห่งองค์กรยาแห่งสภาพยุโรป (EMA) ระบุว่าประเทศต่างๆ ควรหลีกเลี่ยงการให้วัคซีนดังกล่าวแก่ผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปีนอกเหนือจากการชะลอแจกจ่ายให้แก่กลุ่มคนหนุ่มสาวด้วย เนื่องจากความกังวลถึงผลข้างเคียงโดยเฉพาะการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตัน

แต่ภายหลังกาวาเลรีชี้แจงต่อสำนักข่าวรอยเตอร์สว่าหนังสือพิมพ์ดังกล่าวตีพิมพ์คำพูดของเขาผิดเพี้ยนไป พร้อมยืนยันว่าวัคซีนของ AstraZeneca มีประโยชน์ในทุกช่วงอายุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้สูงอายุที่อายุมากกว่า 60 ปี

อย่างไรก็ตามประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปหลายประเทศได้จำกัดอายุในการให้วัคซีนดังกล่าว โดยส่วนใหญ่จะให้เฉพาะผู้สูงอายุตั้งแต่ 50 ถึง 65 ปีขึ้นไปเนื่องจากพบกรณีการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันน้อยกว่าคนหนุ่มสาว

รวมถึงรัฐบาลอิตาลีซึ่งประกาศว่าจะจำกัดการใช้วัคซีน AstraZeneca กับผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปเท่านั้นหลังจากที่พบกรณีหญิงสาววัย 18 ปีรายหนึ่งเสียชีวิตจากการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันหลังได้รับวัคซีนดังกล่าวเมื่อวันที่ 25 พ.ค. ที่ผ่านมา

แม้จะเป็นกรณีที่พบได้ยากแต่โรแบร์โต สเปแรนซา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขอิตาลียืนยันว่าจะยังคงจำกัดการใช้วัคซีน AstraZeneca กับผู้ที่อายุ 60 ปีขึ้นไปต่อไป

เช่นเดียวกับหลายประเทศในยุโรปที่ระงับการฉีดวัคซีน AstraZeneca ชั่วคราวในช่วงเดือนมีนาคมเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการเกิดอาการข้างเคียง และกลับมาอนุมัติใช้อีกครั้งในเดือนถัดมาแต่ยังคงจำจัดช่วงอายุผู้ที่เข้ารับการฉีดวัคซีน หลังจากที่ EMA ยืนยันว่าวัคซีนดังกล่าวยังคงมีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยง

นอกจากนี้ EMA ยังเตือนถึงผลข้างเคียงที่พบใหม่จากการใช้วัคซีน AstraZeneca คืออาการเส้นเลือดฝอยรั่ว (CLS) โดยให้บริษัทผู้ผลิตระบุคำเตือนถึงอาการดังกล่าวลงในฉลากผลิตภัณฑ์ด้วย อย่างไรก็ตามอาการดังกล่าวพบไม่ถึง 1 ใน 10 ล้านคนที่ได้รับวัคซีน AstraZeneca

Photo by MOHAMMED ABED / AFP