posttoday

ประชาชนเมียนมาจับอาวุธรบแบบกองโจรในเมือง

14 มิถุนายน 2564

เมื่อการต่อสู้แบบสันติไม่ได้ผลอีกต่อไป ประชาชนเมียนมาตัดสินใจจับอาวุธสู้ทหารแบบกองโจร

คนกลุ่มหนึ่งในเมียนมากำลังทำสงครามกองโจรเพื่อพยายามโค่นล้มการปกครองของทหาร แต่ความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นทำให้ประชาชนโดยเฉพาะชาวย่างกุ้งบางคนกังวลเรื่องความปลอดภัย

โดยในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาขบวนการต่อต้านรัฐประหารในหลายพื้นที่ของเมียนมาได้เปลี่ยนจากการประท้วงอย่างสันติเป็นการต่อสู้ด้วยอาวุธ

การเดินขบวนประท้วงบนท้องถนนที่เห็นพบเห็นในช่วง 2 เดือนแรกหลังการรัฐประหารเริ่มลดน้อยลงเมื่อกองกำลังรักษาความมั่นคงใช้ความรุนแรงเพื่อปราบปรามและสังหารกลุ่มผู้ชุมนุมที่ประท้วงโดยสันติ

สมาคมช่วยเหลือนักโทษทางการเมืองเผยตัวเลขผู้เสียชีวิตจากการปราบปรามการประท้วงต่อต้านรัฐประหารจนถึงต้นเดือนที่ผ่านมาอยู่ที่อย่างน้อย 845 คน และมีผู้ถูกจับกุมอีกอย่างน้อย 5,652 คน

ขณะที่คนหนุ่มสาวจำนวนมากไม่พอใจกับการใช้ความรุนแรงของเจ้าหน้าที่ต่อกลุ่มผู้ชุมนุมที่ประท้วงโดยสันติ และเริ่มที่จะปฏิเสธการประท้วงโดยสันติและยกระดับความรุนแรงมากขึ้น เมื่อทหารใช้อาวุธปราบปรามการประท้วงอย่างสันติ พวกเขาจึงตัดสินใจที่จะตอบโต้กลับ

กองทัพกดดันให้พวกเขาต้องจับอาวุธ

คนหนุ่มสาวหลายร้อยคนหรืออาจจะถึงหลายพันคนตามรายงานของ Frontier Myanmar หลบหนีไปยังพื้นที่ชายแดนที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์เพื่อรับการฝึกวิชาทหารและการสู้รบ

นับตั้งแต่เดือนพ.ค. ที่ผ่านมาการสู้รบและการวางระเบิดได้กลายเป็นเรื่องธรรมดาทั่วประเทศเมียนมา

หนึ่งในนั้นคือ Ko Min Wai บัณทิตวิศวกรรมวัย 26 ปีเป็นผู้สนับสนุนการประท้วงอย่างสันติมาโดยตลอดนับตั้งแต่เกิดการรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 ก.พ. แต่เมื่อกองกำลังเมียนมาเริ่มปราบปรามการประท้วงอย่างไร้ความปราณี เขาและเพื่อนตัดสินใจจับอาวุธสู้รบกับกองทัพเมียนมา

"เราประท้วงอย่างสันติไม่ได้อีกต่อไปเมื่อทหารยิงพวกเราด้วยกระสุนจริง เราต้องลุกขึ้นมาจับอาวุธเพื่อต่อต้านรัฐบาลทหาร" เขากล่าวกับ Frontier Myanmar เมื่อเดือนพ.ค. และในเดือนนั้นเขาและเพื่อนจึงเดินทางจากย่างกุ้งไปยังพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์

พวกเขาเข้ารับการฝึกเป็นเวลา 1 เดือน โดยมีเยาวชนเข้าร่วมด้วยราว 50 คน เพื่อเรียนรู้วิธีการต่อสู้โดยใช้ระเบิดและปืน ก่อนที่จะกลับไปยังย่างกุ้งเพื่อสู้กับกองทัพเมียนมา

เมื่อกลับมายังย่างกุ้งเขาและสมาชิกคนอื่นๆ กำลังทำในสิ่งที่เรียกว่า "สงครามกองโจร" พวกเขาวางระเบิดค่ายทหาร ตำรวจ ตลอดจนหน่วยงานราชการ โดยมีชุดกองโจรอย่างน้อย 10 ชุดที่ปฏิบัติการอยู่ในย่างกุ้ง

จนถึงขณะนี้หลายเมืองในย่างกุ้งถูกโจมตีด้วยระเบิด และหลายครั้งเกิดขึ้นในเวลากลางคืนและถูกกำหนดเป้าหมายไปที่หน่วยงานราชการ สถานีตำรวจ โรงเรียน มหาวิทยาลัย และปั๊มน้ำมัน

โดย Radio Free Asia รายงานว่ามีการวางระเบิดมากกว่า 300 ครั้งในเมียนมานับตั้งแต่รัฐประหาร โดยการโจมตีเหล่านี้มุ่งเป้าไปที่โรงเรียนของรัฐ

จับมือทำสงคราม

ในขณะเดียวกันคณะรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติเมียนมา (National Unity Government : NUG) ได้พยายามที่จะจัดตั้งกองทัพสหพันธรัฐ โดยเริ่มจัดตั้งกองกำลังเอกภาพ (UDF) และพัฒนามาเป็น กองกำลังป้องกันประชาชน (PDF) ในที่สุด โดยมีการประกาศจัดตั้งเมื่อวันที่ 5 พ.ค. ที่ผ่านมาโดยได้ร่วมมือกับกองกำลังติดอาวุธอื่นๆ ในเมียนมา

ในการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม Daw Khin Ma Myo กล่าวว่า PDF ในท้องถิ่นจำนวนมากกำลัง "เตรียมพร้อมสำหรับการทำสงคราม" และรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติเมียนมาจะเริ่มการต่อสู้ในอนาคตเมื่อถึงเวลา

สมาชิก PDF ชาวย่างกุ้งคนหนึ่งเผยว่ารัฐบาลเอกภาพแห่งชาติกำลังทำงานเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์กับกลุ่มติดอาวุธมากขึ้น รวมถึงกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ (EAO)

ประชาชนหวั่นถูกลูกหลง

อย่างไรก็ตามจำนวนผู้เสียชีวิตจากการโจมตีแบบกองโจรค่อยๆ เพิ่มขึ้น รวมถึงเหตุระเบิดที่เกิดชึ้นบ่อยครั้งสร้างความวิกตกกังวลให้ชาวบ้านในพื้นที่

เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ที่ผ่านมา Myanmar Now รายงานว่าสมาชิก PDF ลงมือสังหารตำรวจในเมืองมัณฑะเลย์ 2 นายที่ถูกส่งไปประจำการอยู่ที่วิทยาลัยแห่งหนึ่ง ผู้ก่อเหตุยังได้ยึดอาวุธปืนพร้อมระบุว่าจะทำลายฝ่ายตรงข้ามทั้งหมดรวมถึงใครก็ตามที่ให้การช่วยเหลือฝ่ายนั้น

นอกจากนี้เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. มีทหารถูกยิงเสียชีวิต 1 นายและได้รับบาดเจ็บ 1 นายที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง โดยโฆษกกลุ่ม PDF และหัวหน้าสาขาเมืองมัณฑะเลย์ระบุว่าเมื่อเร็วๆ นี้ สมาชิกได้วางระเบิดใน 5 เขต และอาจนำมาซึ่งสงครามในอีกไม่ช้า พร้อมเตือนให้ประชาชนหลีกเลี่ยงสถานที่แออัดหรือสถานที่ที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารประจำการ เพราะไม่ต้องการให้ผู้บริสุทธิ์ถูกลูกหลงไปด้วย

"ฉันไม่กังวลหากมีการโจมตีด้วยระเบิดระเบิดในพื้นที่ของกำลังรักษาความปลอดภัยและพวกทหารตาย แต่ฉันกังวลว่าประชาชนที่ไม่รู้เห็นเหตุการณ์จะได้รับอันตรายจากการทิ้งระเบิดในที่สาธารณะ" ชาวบ้านคนหนึ่งในย่างกุ้งกล่าว

พร้อมเสริมว่า "เราไม่ต้องการระเบิด แต่เราก็ไม่สามารถอยู่ภายใต้การปกครองแบบเผด็จการทหารได้...ขอให้ชาวบ้านไม่ได้รับอันตราย"

หลายฝ่ายยังเรียกร้องให้กองโจรเลี่ยงการโจมตีสถานที่อย่างโรงเรียน โรงพยาบาล ศาสนสถาน หรือที่สาธารณะอื่นๆ เนื่องจากกังวลถึงความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่

อย่างไรก็ตามบางส่วนมองว่าการปฏิบัติตามข้อเรียกร้องนั้นเป็นเรื่องยาก เนื่องจากมีกองกำลังหลายกลุ่มมากเกินไป และพวกเขาปฏิบัติการเป็นอิสระจึงยากต่อการควบคุม

ขณะที่กองทัพเมียนมาเองก็เพิกเฉยต่อข้อเรียกร้องดังกล่าวโดยมีการส่งกำลังทหารไปประจำการบริเวณโรงเรียนและมหาวิทยาลัย และหลายครั้งมีการเปิดฉากยิงจากสถานที่เหล่านั้น

อย่างไรก็ตามกองโจรยืนยันว่าพวกเขาจะเดินตามกลยุทธ์ของตัวเองและกำหนดแนวทางปฏิบัติด้วยตัวเอง พร้อมยืนยันว่าการโจมตีแบบกองโจรจะเพิ่มขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ขอให้ประชาชนระวังตัว

Photo by Handout / various sources / AFP