posttoday

Stephane Bancel ซีอีโอ Moderna ผู้กลายเป็นมหาเศรษฐีพันล้านเพราะโควิด

09 มิถุนายน 2564

นักธุรกิจหลายคนได้ประโยชน์จากโควิด-19 รวมถึงชายคนนี้ซึ่งกลายเป็นมหาเศรษฐีพันล้านเป็นครั้งแรก

การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้สร้างมหาเศรษฐีใหม่อย่างน้อย 9 รายหลังจากที่หุ้นของบริษัทผลิตวัคซีนพุ่งกระฉูด จากการวิเคราะห์โดย People's Vaccine Alliance กลุ่มรณรงค์ที่ได้รับความร่วมมือจากองค์กร Oxfam, UNAIDS, Global Justice Now และ Amnesty International

มหาเศรษฐีเหล่านั้นได้แก่ Ugur Sahin ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท BioNTech ซึ่งผลิตวัคซีนร่วมกับ Pfizer, บรรดาผู้บริหารระดับสูงจากบริษัท CanSino Biologics 3 คน และบรรดานักลงทุนในบริษัท Moderna อีก 4 คน แต่ที่ดูเหมือนว่าจะมีมูลค่าทรัพย์สินพุ่งสูงที่สุดคือ Stéphane Bancel ซีอีโอของบริษัท Moderna

รู้จักซีอีโอ Moderna

Stéphane Bancel (สเตฟาน บ็องเซล) วัย 48 ปี เป็นนักธุรกิจมหาเศรษฐีชาวฝรั่งเศสและเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท Moderna บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพสัญชาติอเมริกัน ซึ่งมีสัดส่วนถือหุ้น 9% ของบริษัทดังกล่าว

Bancel จบการศึกษาระดับปริญญาโทด้านวิศวกรรมจากมหาวิทยาลัย Paris-Saclay ประเทศฝรั่งเศสและมหาวิทยาลัยมินนิโซตา นอกจากนี้เขายังได้รับปริญญาบริหารธุรกิจมหาบัณฑิตจาก Harvard Business School

Bancel ทำงานเกี่ยวกับเทคโนโลยีสุขภาพมาโดยตลอด เขาได้ดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการฝ่ายขายที่ Eli Lilly and Company บริษัทยาสัญชาติอเมริกันและเป็นหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการในเบลเยียมในที่สุด ต่อมาปี 2007 เขาก้าวขึ้นมาเป็นซีอีโอของบริษัท BioMérieux บริษัทวินิจฉัยโรคในฝรั่งเศส

จนกระทั่งปี 2011 เขาจึงมาดำรงตำแหน่งซีอีโอให้กับบริษัท Moderna

ร่ำรวยเพราะโรคระบาด

เกือบ 10 ปีแล้วที่เขาดำรงตำแหน่งซีอีโอ Moderna แม้ว่าการเกิดขึ้นของโรคระบาดโควิด-19 ครั้งใหญ่นี้จะทำให้พวกเขาต้องทำงานหนักจน Bancel เคยเอ่ยปากว่าเขาแทบไม่ได้พักเลยตลอด 1 ปีที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตามนอกจากจะเป็นการช่วยโลกยับยั้งการแพร่ระบาดแล้ว มันยังสร้างผลกำไรมหาศาลให้แก่บริษัทและตัวเขาอย่างมาก

ราคาหุ้นของ Moderna ทะยานขึ้นมากกว่า 700% ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2020 ส่งผลให้เขาซึ่งมีสัดส่วนถือหุ้นประมาณ 9% ติดอันดับมหาเศรษฐีพันล้านของนิตยสาร Forbes เป็นครั้งแรกในเดือนเมษายน 2020

ปัจจุบัน Bancel มูลค่าทรัพย์สินสุทธิอยู่ที่ 7,100 ล้านเหรียญสหรัฐหรือกว่า 2 แสนล้านบาทตามข้อมูลจาก Forbes ขณะที่ข้อมูลเมื่อเดือนธันวาคม 2020 ระบุว่ามูลค่าทรัพย์สินสุทธิของเขาอยู่ที่ 4,500 ล้านเหรียญสหรัฐ

กว่าจะมาถึงจุดนี้

เดิมที Moderna เป็นเพียงสตาร์ทอัพและยังไม่เคยมีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับอนุมัติจากรัฐบาลให้วางจำหน่าย จนเมื่อปี 2011 Bancel เข้ามาดำรงตำแหน่งซีอีโอ และได้เสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไป (IPO) ในปี 2018 แต่ราคาหุ้นก็แทบไม่ขยับ อีก 1 ปีต่อมาบริษัทมีมูลค่าราว 6,500 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ใครจะไปคาดคิดว่าในวันนี้มูลค่าของบริษัทจะสูงถึง 85,530 ล้านเหรียญสหรัฐ

หุ้นของ Moderna พุ่งกว่า 100% นับตั้งแต่ที่ WHO ประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคระบาดระดับโลก ด้วยความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยี mRNA ทำให้บริษัทสามารถนำไปพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 ได้อย่างรวดเร็วจนเป็นบริษัทรายแรกที่เริ่มทดสอบวัคซีนดังกล่าวในมนุษย์

ราคาหุ้นยิ่งพุ่งทะยานขึ้นอีกเมื่อบริษัทประกาศแผนการทดลองวัคซีนในระยะที่ 2 ในเดือนเมษายน 2020 และนั่นส่งผลให้ซีอีโออย่าง Bancel ติดโผเป็นมหาเศรษฐีระดับพันล้านเป็นครั้งแรก

เมื่อการทดลองเสร็จสิ้นวัคซีนผลลัพธ์ที่น่าประทับใจด้วยอัตราประสิทธิภาพสูงถึง 94.5% ส่งผลให้ผลประกอบการประจำปี 2020 ของ Moderna สร้างรายได้จากวัคซีนไปกว่า 2,800 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีการสั่งจองล่วงหน้าอีก 18,400 ล้านเหรียญสหรัฐ

สำหรับปี 2021 บริษัทคาดว่าจะทำยอดขายวัคซีนได้ถึง 19,200 ล้านเหรียญสหรัฐ

ทั้งนี้ Bancel ระบุว่าบริษัทจะมุ่งใช้เทคโนโลยี mRNA เพื่อพัฒนาวัคซีนอื่นๆ ต่อไปในอนาคต และเชื่อมั่นว่าเทคโนโลยี mRNA จะเข้ามามีส่วนสำคัญในอุตสาหกรรมยา และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นไปในอนาคตอย่างแน่นอน

ข้อขัดแย้ง

แม้ว่านี่จะเป็นโอกาสที่ดีของบรรดาผู้ผลิตยาและวัคซีนและเป็นการช่วยเหลือโลก แต่องค์กร Oxfam ชี้ว่ามหาเศรษฐีเหล่านี้กำลังกอบโกยผลประโยชน์และผลกำไรมหาศาลจากการผูกขาดวัคซีน และการจดสิทธิบัตรยาในการผลิตวัคซีนเป็นเครื่องมือในการสร้างผลกำไร เทคโนโลยีเหล่านี้จึงไม่ควรเป็นทรัพย์สินของบริษัทยา วัคซีนซึ่งได้รับการสนับสนุนจากเงินของประชาชนควรคำนึงถึงประโยชน์ของสาธารณชนไม่ใช้การสร้างผลประโยชน์ส่วนตัว

ทั้งนี้ มูลค่าความมั่งคั่งของมหาเศรษฐีทั้ง 9 รายข้างต้นมีมูลค่ารวมกันถึง 19,300 ล้านเหรียญสหรัฐหรือกว่า 6 แสนล้านบาทซึ่งเพียงพอต่อการแจกจ่ายวัคซีนให้แก่ประเทศยากจนทั่วโลก