posttoday

อาร์เจนตินากำลังจะเป็นแหล่งขุด Crypto และ Bitcoin รายใหญ่

02 มิถุนายน 2564

แม้หลายประเทศกำลังมีปัญหาในการขุดคริปโต แต่นักขุดอาร์เจนตินาสามารถกอบโกยรายได้สูงมาก

บลูมเบิร์กรายงานว่าในขณะที่หลายประเทศกำลังประสบปัญหากับการขุดคริปโตในปีนี้แต่นักขุดในอาร์เจนตินากำลังเฟื่องฟูด้วยต้นทุนพลังงานที่ต่ำจากเงินอุดหนุนด้านพลังงานจากรัฐบาล การควบคุมค่าเงิน และอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น

นิโคลัส เบอร์เบิน (Nicolas Bourbon) ผู้เชี่ยวชาญด้านการขุดสกุลเงินดิจิทัลจากบัวโนสไอเรสเมืองหลวงของอาร์เจนตินากล่าวว่าแม้จะมีการปรับฐานราคาของ Bitcoin แต่ค่าไฟของบรรดานักขุดก็เป็นเพียงเศษเสี้ยวของรายได้ทั้งหมดเนื่องจากต้นทุนพลังงานที่ต่ำ

คริปโตได้รับความสนใจในอาร์เจนตินามานานแล้วเพื่อเป็นแนวทางสำหรับประชาชนในการป้องกันวิกฤตเศรษฐกิจที่เป็นวัฏจักรรวมถึงการลดค่าเงินซ้ำ การผิดสัญญา ภาวะเงินเฟ้อรุนแรง และตอนนี้ ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมายิ่งเลวร้ายลงจากโรคระบาด

นอกจากต้นทุนพลังงานที่ราคาถูกแล้ว การกลับมาของการควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมายังทำให้ชาวอาร์เจนตินาถูกสั่งห้ามไม่ให้ซื้อดอลลาร์ นั่นเป็นการสร้างแรงจูงใจในให้พวกเขาหันมาขุดเหรียญดิจิทัล

แม้ว่าอาร์เจนตินาเป็นประเทศที่ต้องนำเข้าก๊าซ แต่ค่าไฟของผู้บริโภคคิดเป็นเพียง 2% ถึง 3% ของรายได้เฉลี่ยต่อเดือนเท่านั้น ซึ่งน้อยกว่าเป็นสองเท่าเมื่อเปรียบเทียบกับตลาดอื่นๆ ในลาตินอเมริกาอย่างบราซิล โคลอมเบีย หรือชิลี ตามการประมาณการของเอซเซควิล เฟอร์นานเดซ (Ezequiel Fernandez) นักวิเคราะห์จาก Balanza Capital Valores ในอาร์เจนตินา

นอกจากนี้ ด้วยอัตราเงินเฟ้อที่ประมาณ 50% ต่อปี และการจำกัดสกุลเงิน ทำให้ชาวอาร์เจนตินาสามารถแลกเปลี่ยนเงินได้เพียง 200 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือนอย่างถูกกฎหมาย ขณะที่เงินเปโซดิ่งลงในตลาดคู่ขนาน ซึ่งตอนนี้อ่อนค่าลงกว่าอัตราอย่างเป็นทางการประมาณ 70%

นิโคลัส เบอร์เบิน ระบุว่าโดยทั่วไปแล้วนักขุดจะขายคริปโตในอัตราแลกเปลี่ยนแบบคู่ขนานแต่จ่ายค่าไฟในอัตราที่ได้รับเงินอุดหนุน ซึ่งตอนนี้นับว่ามีรายได้สูงมาก หากราคาของคริปโตไม่ผันผวนนัก บรรดานักขุดจะยังคงทำกำไรได้ต่อไปตราบใดที่ยังมีเงินอุดหนุนค่าไฟจากรัฐบาลแม้จะเป็นนโยบายที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อหวังผลทางการเมือง

ขณะที่ Bitfarms Ltd. บริษัทเหมืองแร่ระหว่างประเทศจากแคนาดาเล็งเห็นโอกาสเมื่อเดือนที่แล้วโดยกล่าวว่าได้บรรลุข้อตกลงในการขุดโรงไฟฟ้าในท้องถิ่นโดยตรงเพื่อดึงพลังงานไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติได้มากถึง 210 เมกะวัตต์ เพื่อที่จะดำเนินการโรงงานเหมือง Bitcoin ที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาใต้

Photo by JACK GUEZ / AFP