posttoday

แม่ชีที่ยอมแลกชีวิตเพื่อปกป้องประชาธิปไตย

09 มีนาคม 2564

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ 'ซิสเตอร์แอนน์' ยอมแลกชีวิตตัวเองกับประชาธิปไตย

ภาพของแม่ชีที่คุกเข่าขอร้องเจ้าหน้าตำรวจเมียนมาไม่ให้ใช้ความรุนแรงต่อกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงกำลังถูกเผยแพร่ไปอย่างกว้างขวางบนโลกออนไลน์

แม่ชีคาทอลิกท่านนี้คือซิสเตอร์แอนน์ โรส นู ตอง (Sister Ann Rose Nu Tawng) วัย 45 ปี อาศัยอยู่ในเมืองมยิจีนา เมืองหลวงของรัฐคะฉิ่น ประเทศเมียนมา ท่านกล่าวว่า "แม้ว่าฉันจะเป็นแม่ชีคาทอลิก แต่ฉันก็เป็นพลเมืองของเมียนมา ดังนั้นฉันจึงมีความรู้สึกเช่นเดียวกับชาวเมียนมาทั่วประเทศ ฉันคิดเสมอว่าจะช่วยชาวเมียนมาได้อย่างไร ผู้คนจากทุกสาขาอาชีพ ศาสนา และชาติพันธุ์จำเป็นต้องร่วมมือกันเพื่อบรรลุเป้าหมายประชาธิปไตย"

จากเหตุการครั้งล่าสุดนี้ซิสเตอร์แอนน์เปิดเผยต่อเอเอฟพีว่า "ฉันคุกเข่าลง ขอร้องให้พวกเขาหยุดยิงและไม่ใช้ความรุนแรงต่อเด็กๆ แต่ให้ยิงฉันแทน ฉันไม่ต้องการเห็นปัญหาใดๆ เกิดขึ้นที่นี่"

ในขณะที่การประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยกำลังดำเนินต่อไปท่ามกลางการปราบปรามของเจ้าหน้าที่ที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยมีการใช้แก๊สน้ำตา และกระสุนปืน

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเริ่มปราบปรามกลุ่มผู้ชุมนุมในเมืองมยิจีนา ซิสเตอร์แอนน์และแม่ชีอีก 2 ท่านจึงต้องออกมาขอร้องให้ตำรวจถอยออกไป

ตำรวจหยุดนิ่งไปได้ไม่นานก่อนที่จะเริ่มกราดยิงใส่กลุ่มผู้ชุมนุมอีกครั้งแม่ชีเล่าว่า "เด็กๆ ตื่นตระหนกและรีบวิ่งหนี ฉันทำอะไรไม่ได้นอกจากอธิษฐานขอให้พระเจ้าช่วยชีวิตพวกเขา"

"ชายคนหนึ่งถูกยิงที่ศีรษะต่อหน้าต่อหน้าหลังจากนั้นฉันก็รู้สึกได้ถึงแก๊สน้ำตา ฉันรู้สึกเหมือนโลกกำลังพัง"

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ซิสเตอร์แอนน์ยอมสละชีวิตของตนเพื่อแลกกับประชาธิปไตย โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 28 ก.พ. ที่ผ่านมาเว็บไซต์คาทอลิกนิวส์รายงานว่าซิสเตอร์แอนน์คุกเข่าต่อหน้าเจ้าหน้าที่เมียนมาเพื่อขอร้องไม่ให้พวกเขายิงประชาชนมือเปล่า

โดยกล่าวในแบบเดียวกันว่า "ยิงฉันได้ถ้าพวกคุณต้องการ ฉันเตรียมใจไว้แล้วว่าจะสละชีวิตเพื่อศาสนจักร เพื่อประชาชน และเพื่อประเทศ"

"ฉันรู้สึกเหมือนอยู่ในสงคราม และเศร้ามากเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ปราบปรามผู้ประท้วงที่มาด้วยมือเปล่าและแสดงออกอย่างสันติ"

นอกจากนี้ซิสเตอร์แอนน์ยังได้เคยร่วมเดินขบวนประท้วงร่วมกับนักบวชและแม่ชีคนอื่นๆ ในเมืองมยิจีนาด้วย

Photo by Handout / Myitkyina News Journal / AFP