posttoday

เผยกองทัพทหารเมียนมาอยากจับมือสหรัฐ-ไม่อยากเป็นหุ่นเชิดจีน

07 มีนาคม 2564

ท่าทีที่เหนือความคาดหมายของกองทัพเมียนมาต่างจากการคาดการณ์เดิมที่เชื่อว่าจีนอยู่เบื้องหลังการทำรัฐประหาร

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่านักล็อบบี้ยิสต์ชาวอิสราเอล-แคนาดาที่ได้รับการว่าจ้างจากรัฐบาลทหารของเมียนมากล่าวเมื่อวันเสาร์ว่าผู้ยนำทหารของเมียนมามีความกระตือรือร้นที่จะรามือจากการเมืองหลังการรัฐประหารและพยายามปรับปรุงความสัมพันธ์กับสหรัฐ และแยกตัวจากจีน

ในการให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ อารี เบน-เบน-เมนาเช (Ari Ben-Menashe) อดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองทางทหารของอิสราเอลกล่าวว่าตัวเขาและ บริษัท Dickens & Madson Canada ของเขาได้รับการว่าจ้างจากนายพลของเมียนมาให้ช่วยสื่อสารกับสหรัฐและประเทศอื่นๆ โดยให้เขาบอกกับประเทศเหล่านี้ว่าพวกเขา "เข้าใจผิด" เกี่ยวกับสถานการณ์ในเมียนมา

เขากล่าวว่าอองซานซูจีซึ่งเป็นผู้นำโดยพฤตินัยของเมียนมาตั้งแต่ปี 2016 มีความใกล้ชิดกับจีนมากเกินไปจนเกินกว่าที่พวกนายพลในกองทัพจะยอมรับได้

เบน-เมนาเช บอกว่าว่าพวกผู้นำในกองทัพในเมียนมา "พวกเขาไม่ต้องการเป็นหุ่นเชิดของจีน"

เบน-เมนาเช เผยว่าเขากำลังอยู่ที่เกาหลีใต้หลังจากเยือนกรุงเนปยีดอเมืองหลวงของเมียนมาซึ่งเขาได้ลงนามในข้อตกลงกับนายพล เมียะ ตุน อู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของรัฐบาลทหาร เขากล่าวว่าเขาจะได้รับค่าตอบแทนที่ไม่เปิดเผยจำนวนหากสามารถทำให้ชาติตะวันตกยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่อกองทัพเมียนมา

เบน-เมนาเช กล่าวว่ารัฐบาลทหารสามารถพิสูจน์ได้ว่าการเลือกตั้งมีการฉ้อโกงกันและชนกลุ่มน้อยถูกปิดกั้นไม่ให้ลงคะแนนเสียง แต่ไม่มีหลักฐานใดๆ ยืนยันเรื่องนี้ ผู้สังเกตการณ์การเลือกตั้งกล่าวว่าไม่มีความผิดปกติอย่างมีนัยสำคัญ

เบน-เมนาเช กล่าวว่าในการเยือนประเทศเมียนมาสองครั้งนับตั้งแต่รัฐประหาร เขาพบว่า "ความวุ่นวายไม่ได้เกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง" และการเคลื่อนไหวประท้วงไม่ได้รับการสนับสนุนจากคนเมียนมาส่วนใหญ่

เบน-เมนาเช กล่าวว่าตำรวจกำลังจัดการการประท้วงโดยไม่มีทหารเข้าไปเกี่ยวข้อง แม้จะมีภาพถ่ายและวิดีโอปรากฎภาพทหารติดอาวุธก็ตาม เขาแย้งว่ากองทัพอยู่ในฐานะที่เหมาะสมที่สุดในการฟื้นฟูประชาธิปไตยหลังการรัฐประหาร

เบน-เมนาเช ซึ่งเคยเป็นตัวแทนของโรเบิร์ม มูกาเบอดีตประธานาธิบดีของซิมบับเวและผู้ปกครองทางทหารของซูดานยังกล่าวว่าบรรดานายพลของเมียนมาต้องการนำมุสลิมชาวโรฮิงญาที่หลบหนีไปยังบังกลาเทศกลับมายังเมียนมาด้วย

Photo by STR / AFP