posttoday

ไบเดนลุยล้างบางคำสั่งทรัมป์ทันทีหลังครองตำแหน่งผู้นำคนใหม่

21 มกราคม 2564

เผยแผนการทำงานของไบเดนและฝ่ายบริหารชุดใหม่ ลุยทำงานอย่างรวดเร็วแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน

หลังจากเข้าพิธีสาบานตนดำรงตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไบเดนก็ได้เริ่มทำงานหลังจากนั้นไม่นาน โดยลงนามในคำสั่งพิเศษถึง 15 ฉบับรวมถึงมาตรการรับมือกับโควิด-19 และสภาพภูมิอากาศ โดยไบเดนกล่าวว่าวิกฤตโควิด-19 วิกฤตเศรษฐกิจ และวิกฤตสภาพภูมิอากาศเรื่องที่สำคัญที่สุดสำหรับฝ่ายบริหารของเขา

โดยคำสั่งฉบับแรกของไบเดนเรียกร้องให้ชาวอเมริกันทุกคนสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 และอีกหนึ่งฉบับที่สำคัญคือให้สหรัฐกลับเข้าร่วมข้อตกลงสภาพภูมิอากาศของปารีสอีกครั้ง

ทั้งนี้ สำนักข่าวต่างประเทศเผยว่าคำสั่งที่ไบเดนได้ลงนามไปทั้งหมดนั้น ดำเนินการไปด้วยความเร็วชนิดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนจากประธานาธิบดีคนอื่นๆ ขณะที่อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามในคำสั่ง 8 ฉบับหลังเข้ารับตำแหน่งได้ 2 สัปดาห์ และบารัค โอบามา ลงนามได้ 9 ฉบับ

นอกจากนี้ไบเดนยังได้เผยถึงจดหมายที่ทรัมป์ทิ้งไว้ให้ในฐานะอดีตประธานาธิบดีคนก่อนหน้าโดยไม่ได้มีการเปิดเผยถึงรายละเอียดของเนื้อหาในจดหมายแต่อย่างใด บอกแต่เพียงว่า "จดหมายฉบับนี้แสดงถึงความใจกว้างและมีน้ำใจเป็นอย่างยิ่ง"

เจ็น ปคากิ เลขานุการสื่อมวลชนประจำทำเนียบขาวคนใหม่ก็ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเป็นครั้งแรก โดยกล่าวถึงแนวทางการดำเนินงานของฝ่ายบริหารชุดใหม่ ซึ่งเน้นย้ำถึง "การสร้างความไว้วางใจใหม่ให้กับชาวอเมริกัน"

พร้อมกล่าวว่าเธอและฝ่ายบริหารทุกคนจะร่วมกันทำงานกับไบเดนเพื่อนำ "ความโปร่งใสและความจริงกลับมาสู่รัฐบาล"

เธอยังเผยว่า "ไบเดนดูมีความสุขและกระตือรือร้นที่จะทำงาน อีกทั้งเขายังรู้สึกเหมือนได้กลับบ้านเมื่อเข้าไปในทำเนียบขาว" เนื่องจากไบเดนเคยใช้เวลาถึง 8 ปีในนั้นในฐานะรองประธานาธิบดีของบารัค โอบามา

นอกจากนี้ยังได้เผยถึงแนวทางการดำเนินนโยบายระหว่างประเทศโดยกล่าวว่าไบเดนจะเริ่มติดต่อผู้นำต่างประเทศตั้งแต่วันศุกร์ โดยเริ่มจาก จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา

โดยการติดต่อจะลำดับความสำคัญประเทศที่เป็นคู้ค่าและพันธมิตรก่อนซึ่งไบเดนกล่าวว่าเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องสร้างความสัมพันธ์เหล่านั้นขึ้นมาใหม่ และรับมือกับความท้าทายและภัยคุกคามจากทั่วโลกที่กำลังเผชิญอยู่

อย่างไรก็ตามปคากิเผยว่าขณะนี้ไบเดนยังไม่มีแผนที่จะพูดคุยกับวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย