posttoday

‘ดวงตาจักรวาล’ ของจีนจะกระตุ้นให้เอเลี่ยนบุกโลกหรือไม่

06 มกราคม 2564

จีนจ่อเปิด ‘ดวงตาจักรวาล’ หรือ FAST ให้ทั่วโลกได้ใช้ 1 เม.ย.นี้ โดยให้ต่างชาติเข้าใช้ได้ด้วย ผู้เชี่ยวชาญแสดงความเห็นเรื่องการติดต่อกับสิ่งมีชีวิตต่างดาวว่ามีความเสี่ยง

ซินหัวรายงานว่ากล้องโทรทรรศน์วิทยุฟาสต์ (FAST) เส้นผ่านศูนย์กลาง 500 เมตร ซึ่งเป็นกล้องโทรทรรศน์วิทยุที่มีจานรับสัญญาณคลื่นวิทยุแบบจานเดี่ยวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เตรียมเปิดให้บริการแก่ทั่วโลกตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.นี้

หอสังเกตการณ์ดาราศาสตร์แห่งชาติ (NAOC) สังกัดสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีน (CAS) ซึ่งเป็นผู้ดูแลการทำงานของกล้องโทรทรรศน์ดังกล่าวยืนยันเมื่อวันจันทร์ว่า (4 ม.ค.) นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกจะสามารถทำการจองใช้อุปกรณ์ดังกล่าวทางออนไลน์ได้ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. ส่วนตารางการจัดสรรเวลาจะออกมาภายในวันที่ 1 ส.ค.

เจียงเผิง หัวหน้าวิศวกรของกล้องฟาสต์จากหอสังเกตการณ์ฯ กล่าวว่าช่วงปีแรกของการเปิดให้ชุมชนวิทยาศาสตร์ทั่วโลกใช้งานกล้องโทรทรรศน์นี้ จะมีการจัดสรรเวลาสำหรับการสังเกตการณ์ราวร้อยละ 10 ให้กับบรรดานักวิทยาศาสตร์ต่างชาติเจียงเสริมว่า “นักวิทยาศาสตร์ชาวจีนก็ต้องจองใช้บริการทางออนไลน์ตามขั้นตอนที่กำหนดไว้เช่นกัน”

ทั้งนี้ กล้องโทรทรรศน์ฟาสต์ตั้งอยู่ในภูมิประเทศแบบคาสต์ที่ถูกกัดกร่อนเป็นแอ่งกลมลึกซึ่งเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ ในมณฑลกุ้ยโจว และได้ชื่อว่าเป็นกล้องโทรทรรศน์วิทยุที่ตอบสนองเร็วที่สุดในโลก โดยเริ่มเปิดดำเนินงานอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 11 ม.ค. 2020

ตอนที่ทางการจีนเปิดตัวกล้องโทรทรรศน์วิทยุแห่งนี้เมื่อเดือนกันยายน 2016 รายงานข่าวระบุว่ามันมีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจสัญญาณของสิ่งมีชีวิตนอกโลก โดยกล้องตัวล่าสุดนี้มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โค่นแชมป์เก่าอย่างกล้องโทรทรรศน์อาเรซิโบในเปอร์โตริโก ซึ่งมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 300 ม. และเพิ่งจะพังทลายลงไปเมื่อเร็วๆ นี้ 

อย่างไรก็ตาม ไม่นานนักหลังจากที่มีข่าวดังกล่าว สตีเฟ่น ฮอว์กิ้ง นักวิทยาศาสตร์ชื่อก้องโลกผู้ล่วงลับได้เตือนว่าวันหนึ่งมนุษย์อาจได้รับสัญญาณตอบกลับจากดาวดวงอื่นที่มีลักษณะคล้ายกับดาวคล้ายโลก แต่เราต้องระวังสัญญาณตอบกลับดังกล่าวให้มาก

ฮอว์กิ้งเปรียบเทียบการติดต่อกับสิ่งมีชีวิตที่มีอารยธรรมล้ำหน้ากว่ามนุษย์เป็นครั้งแรกกับเหตุการณ์ที่ชาวอเมริกันพื้นเมืองเผชิญหน้ากับ คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ซึ่งไม่เป็นผลดีกับเจ้าถิ่นมากนัก เพราะปรากฎว่าผู้มาเยือนกวาดล้างเจ้าถิ่นเดิมจนแทบเหี้ยน

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฮอว์กิ้งเตือนถึงอันตรายจากการติดต่อสื่อสารกับเอเลี่ยน เมื่อปีที่แล้วศาสตราจารย์ด้านวิทยาศาสตร์เคยเตือนว่า สิ่งมีชีวิตใดก็ตามที่สามารถเข้าใจข้อความที่มนุษย์ส่งออกไป จะต้องมีความเจริญก้าวหน้ามากกว่ามนุษย์นับพันปี หากเป็นเช่นนั้นพวกเขาจะมีพลังมหาศาล และอาจมองเราเป็นเพียงของไร้ค่าไม่ต่างจากที่เรามองแบคทีเรีย

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2010 ฮอว์กิ้งเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า เอเลี่ยนอาจจะกำลังตระเวนไปทั่วจักรวาลเพื่อปล้นแหล่งทรัพยากรของดาวดวงอื่น หรือเข้ายึดครองเป็นเมืองขึ้น

แม้จะพูดเตือนถึงอันตรายจากการติดต่อกับเอเลี่ยน แต่ใช่ว่าฮอว์กิ้งจะต่อต้านการค้นหาสิ่งมีชีวิตนอกโลกเสียทีเดียว เพราะตัวเขาเองก็เป็นผู้ริเริ่มโครงการค้นหาสัญญาณจากนอกโลกโดยตรวจค้นดวงดาวที่อยู่ใกล้เคียงกับโลกนับล้านดวงเพื่อหาสิ่งมีชีวิตไปเมื่อปี 2015 โดยได้รับการสนับสนุนจากราชสมาคมแห่งลอนดอน ซึ่งเป็นที่ชุมนุมนักปราชญ์แห่งวิทยาศาสตร์

อย่างไรก็ดี การค้นเอเลี่ยนด้วยเทคโนโลยีเดิมๆ ก็มีปัญหาเชิงเทคนิคเหมือนกัน Scientific American รายงานการทดลองของนักวิจัยมหาวิทยาลัยคอร์โดบาในอาร์เจนตินา เมื่อเดือนกันยายน 2020 เผยว่าแบบจำลองใหม่ที่จำลองการติดต่อระหว่างเอเลี่ยนในดาวต่างๆ ข้ามทางช้างเผือก ชี้ให้เห็นว่าการส่งสัญญาณวิทยุข้ามจักรวาลมีโอกาสสำเร็จน้อย ยกเว้นว่าในระบบของเราจะมีดาวเอเลี่ยนอยู่หนาแน่นและเอเลี่ยนเหล่านั้นมีอายุขัยยืนยาว 

ถึงแม้ว่าเราจะยังไม่รู้ผลของการเปิดกล้องโทรทรรศน์ของจีนในครั้งนี้ว่าจะพบสิ่งมีชีวิตต่างดาวหรือไม่ แต่การที่จีนเชื้อเชิญให้ต่างชาติเข้ามาร่วมใช้งานมันได้ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี เพราะความร่วมมือระหว่างจีนและชุมชนการวิจัยอวกาศระหว่างประเทศหยุดชะงักในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเนื่องจากความตึงเครียดทางการเมือง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามรายงานของ Time ระบุว่า สภาคองเกรสของสหรัฐได้ผ่านร่างกฎหมายในปี 2011 ซึ่งห้ามไม่ให้นักวิทยาศาสตร์ชาวจีนขึ้นสถานีอวกาศนานาชาติโดยอ้างถึงปัญหาด้านความมั่นคง

Photo by Handout / National Astronomical Observatories of the Chinese Academy of Sciences (NAOC) / NOEL CELIS / AFP

‘ดวงตาจักรวาล’ ของจีนจะกระตุ้นให้เอเลี่ยนบุกโลกหรือไม่

‘ดวงตาจักรวาล’ ของจีนจะกระตุ้นให้เอเลี่ยนบุกโลกหรือไม่

‘ดวงตาจักรวาล’ ของจีนจะกระตุ้นให้เอเลี่ยนบุกโลกหรือไม่

‘ดวงตาจักรวาล’ ของจีนจะกระตุ้นให้เอเลี่ยนบุกโลกหรือไม่