posttoday

จับกระแสให้ทัน หลังโควิดศก.ออนไลน์อาเซียนโตพรวด

10 พฤศจิกายน 2563

เศรษฐกิจอินเทอร์เน็ตของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ใกล้จะเกิดปรากฎการณ์บูมหลังการระบาดของโควิด

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่าเศรษฐกิจอินเทอร์เน็ตที่ร้อนแรงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซบเซาลงในช่วงที่เกิดโรคระบาด แต่การใช้จ่ายออนไลน์จะกลับมาอย่างรวดเร็วและเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่าเป็นมากกว่า 3 แสนล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2025 (พ.ศ. 2568) จากการประเมินผลการวิจัยของ Google, Temasek Holdings Pte และ Bain & Co.

มูลค่าของธุรกรรมใน 4 เซกเตอร์สำคัญ ได้แก่ อีคอมเมิร์ซ, การเดินทาง, สื่อและการขนส่ง และอาหารคาดว่าเพิ่มขึ้นเพียง 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐมาอยู่ที่ประมาณ 105,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2563 ตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นมาได้เพราะผู้บริโภคจำนวนมากหันมาจับจ่ายผ่านมือถือเป็นครั้งแรกในช่วงการระบาด แต่การระบาดทำให้ผู้บริโภคหยุดการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นรายได้หลักๆ ของอาเซียน

ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นที่ตั้งของบริษัท Lazada ของ Alibaba Group Holding Ltd. และ Sea Ltd. ที่ได้รับการสนับสนุนจาก Tencent Holdings Ltd. ซึ่งเป็นสองบริษัทยัษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซของจีน

อาเซียนจะมีมูลค่าการค้าขายด้านอีคอมเมิร์ซเพิ่มขึ้น 63% จากปี 2019 เนื่องจากผู้บริโภคตามบ้านเลือกซื้อของชำและสินค้าจำเป็นจากร้านค้าออนไลน์อย่างแพลตฟอร์ม RedMart ของ Lazada และ Shopee ของ Sea ขณะนี้คาดว่าการซื้อของออนไลน์จะแตะ 172,000 ล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2025 เมื่อเทียบกับประมาณการ 153,000 ล้านเหรียญสหรัฐก่อนหน้านี้

งานวิจัยที่รายงานข่าวชิ้นนี้นำมาใช้เป็นการจับตาสถานการณ์ธุรกิจออนไลน์อย่างใกล้ชิดซึ่งครอบคลุม 6 ประเทศและทำหน้าที่เป็นเกณฑ์มาตรฐานสำหรับอุตสาหกรรมอินเทอร์เน็ตที่เติบโตอย่างรวดเร็วในภูมิภาค บอกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในอาเซียนนั้นเป็นข้อบ่งชี้ที่ชัดเจนว่ากระแสที่มาแรงไม่ได้ลดลงเพราะสภาพแวดล้อมที่ท้าทายของปีนี้

ไม่น่าแปลกใจที่ธุรกิจท่องเที่ยวออนไลน์ได้รับผลกระทบมากที่สุด มูลค่าธุรกรรมทางธุรกิจลดลง 58% เหลือเพียง 14,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปีนี้ อย่างไรก็ตาม เมื่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวสามารถฟื้นตัวได้ในที่สุด มูลค่าตลาดจะเพิ่มเป็น 60,000 ล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2025

แต่ไม่น่าเชื่อว่าการขนส่งและการจัดส่งอาหารซึ่งเป็นเซกเตอร์ที่ครอบครองโดยผู้นำธุรกิจอย่าง Grab Holdings Inc. และ Gojek ก็ได้รับผลกระทบลดลง 11% สู่ระดับ 11,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2020

ความต้องการบริการเรียกรถโดยสารลดลงทั่วโลกส่งผลให้สตาร์ทอัพที่มีค่าที่สุด 2 แห่งในภูมิภาคนี้ต้องลดคนงานลง

โดยรวมแล้วการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคในปีนี้ทำให้ภาคอินเทอร์เน็ตก้าวหน้าขึ้น เอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตหน้าใหม่เพิ่มขึ้น 40 ล้านคนในปี 2020 ในขณะที่ผู้ใช้บริการดิจิทัล 1 ใน 3 เข้ามาใช้ธุรกิจออนไลน์เป็นครั้งแรกเนื่องจากการระบาดของโควิด-19

อีคอมเมิร์ซกำลังผลักดันการเติบโตในอินโดนีเซียแม้ว่าจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการระบาดใหญ่ต่อเศรษฐกิจโดยรวมก็ตาม เศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตกอยู่ในภาวะถดถอยครั้งแรกในไตรมาสที่สามนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินในเอเชียเมื่อกว่าสองทศวรรษที่แล้วแต่ Google, Temasek และ Bain คาดว่าเศรษฐกิจดิจิทัลของอินโดนีเซียจะเพิ่มขึ้นเกือบสามเท่าเป็น 124,000 ล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2025 แม้ว่าจะลดลงจากประมาณการก่อนหน้านี้ที่ 133,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

นอกจากนี้การแพร่ระบาดยังช่วยเร่งการนำบริการทางการเงินออนไลน์มาใช้เนื่องจากผู้บริโภคจำนวนมากขึ้นพึ่งพาวิธีการชำระเงินและโอนเงินแบบไม่ต้องสัมผัสโดยหลีกเลี่ยงเงินสด อย่างไรก็ตามการให้กู้ยืมแบบดิจิทัลไม่เปลี่ยนแปลงจากปีที่แล้ว โดยมีมูลค่าที่ 23,000 ล้านเหรียญสหรัฐซึ่งสะท้อนถึงความกังวลเกี่ยวกับสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้

การลงทุนด้านเทคโนโลยีในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ลดลงตั้งแต่ปี 2018 (พ.ศ. 2561) โดยมีสาเหตุหลักมาจากการชะลอตัวของการระดมทุนจากยูนิคอร์นขนาดใหญ่ บริษัทเทคโนโลยีของภูมิภาคนี้ระดมทุนได้ 6.300 ล้านเหรียญสหรัฐในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ลดลงจาก 7,700 เหรียญสหรัฐในปีก่อน การศึกษาแสดงให้เห็นว่าการลงทุนที่ไม่ใช่ยูนิคอร์นกำลังเพิ่มขึ้น

Photo by AFP  / Bay ISMOYO