posttoday

รู้หรือไม่ 3 พ.ย. นี้ไม่ได้มีแค่เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ

02 พฤศจิกายน 2563

แท้จริงแล้วการเลือกตั้งในสหรัฐที่จะจัดขึ้นในวันที่ 3 พ.ย. นี้ประชาชนไม่ได้เลือกประธานาธิบดีเท่านั้น แต่ยังเลือกฝ่ายปกครองและนิติบัญญัติเกือบครึ่งประเทศไปพร้อมๆ กัน

การเลือกตั้งที่จะจัดขึ้นในวันที่ 3 พฤศจิกายนนี้ที่สหรัฐไม่ได้มีแค่การชิงดำตำแหน่งประธานาธิบดีกันระหว่างโดนัลด์ ทรัม์ปกับโจ ไบเดนเท่านั้น แต่ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งยังจะทำการลงคะแนนเสียงเพื่อเลือก 3 ตำแหน่ง ได้แก่ วุฒิสภา, สภาผู้แทนราษฎร และผู้ว่าการรัฐ 

การเลือกตั้งวุฒิสภา (Senate elections) เป็นสภาสูงสุดของรัฐสภาสหรัฐ ประกอบด้วยสมาชิกวุฒิสภาซึ่งเป็นผู้แทนจากแต่ละรัฐ โดยแต่ละรัฐมีผู้แทนรัฐละ 2 คนไม่ว่าจะมีประชากรมากหรือน้อย มีวาระดำรงตำแหน่ง 6 ปี ปัจจุบันมีทั้งหมด 50 รัฐจึงมีสมาชิกวุฒิสภา 100 คน

แต่เนื่องจากวาระค่อนข้างนานจึงจะต้องมีการเลือกตั้งทุกๆ 2 ปีเพื่อผลัดตำแหน่งในสภาไปเรื่อยๆ ครั้งละ 1 ใน 3 ของสมาชิกทั้งหมดในสภา สมาชิกจึงแบ่งออกเป็น 3 ระดับ (class) ตามปีที่เข้ามาและปีที่จะหมดวาระไป และการเลือกตั้งวุฒิสมาชิกครั้งใดครึ่งหนึ่งจะเวียนมาจัดช่วงเดียวกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีด้วยโดยในปีนี้เป็นการเลือกสมาชิกระดับที่ 2 (class 2)

นอกจากนี้ในการเลือกตั้งในปีนี้มีการเลือกตั้งพิเศษ 2 รัฐคือแอริโซนา เพื่อแทนจอห์น แมคเคนที่เสียชีวิตในปี 2018 และในจอร์เจียเพื่อแทนจอห์นนี ไอแซกสัน ที่ลาออกเมื่อปลายปี 2019 ในการเลือกตั้งวุฒิสภาสหรัฐครั้งล่าสุดในปี 2014 พรรครีพับลิกันได้ 9 ที่นั่งจากพรรคเดโมแครตและได้รับเสียงข้างมากในวุฒิสภา

ปัจจุบันพรรครีพับลิกันมี 53 ที่นั่งในวุฒิสภา ขณะที่พรรคเดโมแครตมี 45 ที่นั่ง ทั้งนี้การเลือกตั้งครั้งนี้พรรคเดโมแครตจะต้องได้มาอีก 3-4 ที่นั่งเพื่อครองเสียงข้างมากซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อไบเดนหากเขาชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี ในทางกลับกันหากทรัมป์ชะนเลือกตั้ง แต่มีเสียงในวุฒิสภาจากพรรคเดียวกันไม่มากพอก็จะเป็นปัญหาต่อการบริหารประเทศเช่นกัน 

การเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎร (House of Representatives elections) จะจัดขึ้นเพื่อเลือกตั้งผู้แทนจากเขตรัฐสภาทั้งหมด 435 เขตใน 50 รัฐของสหรัฐอเมริกา โดยจำนวนผู้แทนราษฎรของแต่ละรัฐขึ้นอยู่กับจำนวนประชากรในรัฐนั้นๆ เช่น รัฐแคลิฟอร์เนียมีประชากรมากที่สุดจึงมี ส.ส. 53 คน ส่วนรัฐไวโอมิงที่มีประชากรน้อยที่สุดมี 1 คน (แม้ว่าจะมีขนาดของรัฐมใหญ่มากก็ตาม) 

สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมีวาระ 2 ปี ข้อสังเกตควรจำก็คือการเลือกตั้ง ส.ส. ของสหรัฐครั้งใดครั้งหนึ่งจะจัดขึ้นพร้อมกับการเลือกตั้งประธานาธิบดี โดยประธานสภาผู้แทนราษฎรมาจากพรรคที่ครองเสียงข้างมากในสภา ทั้งนี้พรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2019 ด้วยจำนวน 235 ที่นั่ง โดยเป็นผลมาจากการเลือกตั้งในปี 2018 ดังนั้นเพื่อให้ครองเสียงข้างมากรีพับลิกันจะต้องได้รับ 21 ที่นั่งในปีนี้

การเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐ (Gubernatorial elections) การปกครองส่วนท้องถิ่นของสหรัฐอเมริกาประกอบด้วย 50 รัฐ โดยแต่ละรัฐจะมีผู้ว่าการรัฐ 1 คน ซึ่งในวันที่ 3 พฤศจิกายนจะมีการเลือกผู้ว่าการรัฐใน 11 รัฐ หรืออาจมีการเลือกตั้งในรัฐอื่นๆ เพิ่มเติมหากมีผู้ว่าการรัฐใดพ้นวาระ ทั้งนี้การเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐครั้งก่อนจัดขึ้นในปี 2016 ยกเว้นในรัฐนิวแฮมป์เชียร์และเวอร์มอนต์ซึ่งมีการเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐคนปัจจุบันในปี 2018 เนื่องจากผู้ว่าการรัฐทั้งสองมีวาระเพียง 2 ปี

การเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐมีการอิงกับพรรคการเมืองหลักของประเทศด้วย แต่ไม่มีผลต่อการบริหารประเทศรัฐบาลกลางมากนัก ผู้ว่าการรัฐต่างๆ มีฐานะเป็นทั้งประมุขรัฐและผู้นำฝ่ายบริหารของรัฐ แต่ละรัฐมีอำนาจกึ่งปกครองตนเอง สามารถกำหนดนโยบายและกฎหมายของตัวเองได้ แต่มีอำนาจส่วนหนึ่งเป็นของรัฐบาลกลาง เช่น การต่างประเทศและด้านกลาโหม

การเลือกตั้งประธานาธิบดี (Presidential election) 

เป็นการเลือกตั้งทางอ้อมโดยผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะลงคะแนนเสียงเพื่อเลือกคณะผู้เลือกตั้ง และคณะผู้เลือกตั้งจะทำการเลือกประธานาธิบดีคนใหม่ โดยในปีนี้คณะผู้เลือกตั้งจะลงคะแนนในวันที่ 14 ธันวาคม 2020 ทั้งนี้คณะผู้เลือกตั้งมีจำนวน 538 คน ดังนั้นผู้เข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีที่ได้รับคะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้ง 270 เสียงขึ้นไปจะได้รับตำแหน่งประธานาธิบดี โดยมีกำหนดเปิดตัวผู้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ในวันที่ 20 มกราคม 2021