posttoday

ฝรั่งเศสคุมเข้ม! เพิ่มกำลังทหารกว่า 2 เท่าหลังเกิดเหตุรุนแรง

30 ตุลาคม 2563

ปธน.ฝรั่งเศสสัญญาจะปราบปรามกลุ่มหัวรุนแรงพร้อมยกระดับเตือนภัยขั้นสูงสุด

ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศสยืนยันว่าจะต่อสู้กับการก่อการร้ายที่เกิดขึ้นในฝรั่งเศสโดยเชื่อว่าเป็นผลมาจากกลุ่มคนชาวมุสลิมหัวรุนแรง หลังเกิดเหตุการณ์สังหารชาวฝรั่งเศส 3 รายที่โบสถ์แห่งหนึ่งในเมืองนีซเมื่อวานนี้ (29 ต.ค.) ซึ่งเป็นการโจมตีครั้งที่สองในฝรั่งเศสในช่วงเวลาไม่ถึงสัปดาห์

โดยภายหลังแหล่งข่าวด้านความมั่นคงและเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่า ผู้ต้องสงสัยเป็นชายสัญชาติตูนีเซีย อายุ 21 ปี และมีรายงานว่าเขาเดินทางเข้าประเทศฝรั่งเศสเมื่อต้นเดือนตุลาคม โดยเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย ผ่านทางลัมเปดูซา ประเทศอิตาลี

ทั้งนี้ รัฐบาลฝรั่งเศสมีการประกาศยกระดับการเตือนภัยขั้นสูงสุด รวมถึงเสริมกำลังทหารจาก 3,000 นายเป็น 7,000 นายเพื่อคุ้มกันสถานที่สำคัญต่างๆ เช่น ศาสนสถานและโรงเรียน

รวมถึงประธานาธีดีเอ็มมานูเอล มาครง ยังให้สัญญาว่าจะปราบปรามกลุ่มคนหัวรุนแรงรวมถึงปิดมัสยิดและสถานที่อื่นๆ ที่ถูกกล่าวหาว่าก่อให้เกิดความรุนแรง

มาครงกล่าวว่าฝรั่งเศสเป็นประเทศที่ถูกทำร้ายโดยประชาชนฝรั่งเศสถูกสังหารขณะเดียวกันสถานกงสุลฝรั่งเศสในประเทศซาอุดิอาระเบียก็กำลังถูกโจมตี โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างฝรั่งเศสและโลกมุสลิม

Photo by ERIC GAILLARD / POOL / AFP