posttoday

แกนนำม็อบฮ่องกงช่วยบอกชาวโลก ส่งแรงใจให้ผู้ชุมนุมในไทยต่อเนื่อง

18 ตุลาคม 2563

ตั้งแต่โจชัว หว่องจนถึงนาธาน ลอว์ ผู้ที่เป็นแกนหลักของการประท้วงที่ฮ่องกงสนับสนุนผู้ประท้วงในไทยเต็มที่

โจชัว หว่อง แกนนำเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงยังคงส่งกำลังใจให้ผู้ชุมนุมในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยวานนี้เขาได้โพสต์ภาพความเหมือนกันของการประท้วงที่ฮ่องกงเมื่อปี 2019 และในไทยเมื่อปี 2020 พร้อมกับแฮชแท็ก #MilkTeaAlliance ซึ่งหมายถึงการรวมพลังของผู้ชุมนุมในไทย ฮ่องกง และไต้หวัน แต่แฮชแท็กนี้ยังมีความนัยหมายถึงการต่อต้านจีนด้วย

และเมื่อวานนี้เขายังโพสต์ว่า "แม้รถไฟฟ้าใต้ดินจะปิด แต่ผู้กล้าชาวไทยฝ่าฝืนกฎหมายเข้มงวดแห่ไปตามท้องถนนและส่งเสียงดัง ปณิธานของพวกเขาสำหรับประชาธิปไตยไทยไม่สามารถยับยั้งได้"

เขายังทิวตข้อความประกอบภาพคลิปวิดิโอที่ผู้ชุมนุมเปิดไฟฟน้าจอสมาร์ทโฟนเป็นหนึ่งเดียวกัน หว่องบอกว่า "ไฟฉายทุกอันหรือแสงหิ่งห้อยแต่ละตัวแสดงถึงจิตวิญญาณอันแน่วแน่ในการต่อต้านในประเทศไทย เพื่อความยุติธรรม อนาคตที่ดีกว่า และประชาธิปไตยที่ถูกขโมยไป ขอให้โลกได้โปรด #StandWithThailand (ยืนเคียงข้างไทญ) ในการต่อสู้ของพวกเขา"

ส่วนาธาน ลอว์ (Nathan Law) หนึ่งในแกนนำเรียกร้องประชาธิปไตยที่ฮ่องกงและได้ลี้ภัยอยู่ที่อังกฤษได้แสดงจุดยืนสนับสนุนการประท้วงที่ไทย โดยโพสต์แฮชแท็ก #StandWithThailand พร้อมกับบอกว่า "พวกเราชาวฮ่องกงต้องเผชิญกับการข่มเหงทางการเมืองที่ไม่สิ้นสุดในการประท้วงที่ดำเนินมาตลอดทั้งปี การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยเป็นการต่อสู้ร่วมกันและเรายืนหยัดร่วมกับเพื่อนใน #MilkTeaAlliance"

นาธาน ลอว์ยังโพสต์ต่อเนื่อง (Thread) ในทวิตเตอร์เพื่อบอกเล่าว่ากำลังเกิดอะไรกับนายบุญเกื้อหนุน เป้าทอง ผู้ต้องหาตามมาตรา 110 (ผู้ใดกระทำการประทุษร้ายต่อพระองค์ หรือเสรีภาพของพระราชินีหรือรัชทายาท หรือต่อร่างกายหรือเสรีภาพของผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์)

ลอว์บอกว่า ผมไม่รู้จักฟรานซิส (นายบุญเกื้อหนุน เป้าทอง) เป็นการส่วนตัว แต่การแสวงหาเสรีภาพและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์แบบเดียวกันทำให้เราเชื่อมโยงกัน ภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของ #Milkteaalliace" และบอกว่า "ผมรู้สึกเจ็บปวดเมื่อเขาตัดสินใจอย่างกล้าหาญยอมมอบตัวเองให้ตำรวจเพื่อพิสูจน์ว่าเขาเป็นผู้บริสุทธิ์แม้ว่าเขาจะต้องถูกจำคุกตลอดชีวิตภายใต้กฎหมายที่เข้มงวดจากยุคก่อนที่ใช้ในปัจจุบันก็ตาม"

ลอว์กล่าวต่อไปว่า "เมื่อสองสามวันก่อนเขาได้บันทึกวิดีโอเพื่อสนับสนุนการเคลื่อนไหวของฮ่องกงและไต้หวัน ตำรวจกล่าวหาว่าเขาตั้งใจจะทำร้ายสมเด็จพระราชินีเมื่อวันที่ 14 ต.ค. ซึ่งการประท้วงเป็นไปอย่างสงบและไม่ขัดขวางการเคลื่อนขบวนเสด็จของสมเด็จพระราชินี"

เขาบอกต่อว่า "ฟรานซิสเป็นผู้ต้องหาภายใต้การปกครองของทหารที่กีดกันประชาชนจากสิทธิขั้นพื้นฐานในการประท้วงและการพูดโดยพลการ เห็นได้ชัดว่าผู้มีอำนาจตั้งใจที่จะข่มขู่ผู้ประท้วงคนอื่น ๆ โดยให้ฟรานซิสเป็นตัวอย่าง ข้อหานี้อาจทำให้เขาติดคุกตลอดชีวิต"

"เมื่อฟรานซิสทราบเรื่องหมายจับเขาจึงตัดสินใจเผชิญหน้ากับข้อกล่าวหาที่ไร้สาระนี้ - ในวันที่ 16 ต.ค. เขาเดินทางไปที่สถานีตำรวจและระบุชัดเจนว่าเขาไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายใคร" และ "ก่อนที่เขาจะก้าวเข้าไปในสถานีตำรวจเขายืนยันอีกครั้งถึงความมุ่งมั่นในการต่อสู้เพื่ออิสรภาพ เขาอ้างถึงประธานาธิบดีรูสเวลต์ที่กล่าวว่า “ข้อจำกัดเดียวที่เราจะทำให้พรุ่งนี้เป็นจริงได้คือความสงสัยของเราในวันนี้ ขอให้เราก้าวไปข้างหน้าด้วยศรัทธาที่เข้มแข็งและกระตือรือร้น”

นาธาน ลอว์ทิ้งท้ายว่า "บ่อยครั้งผู้คนที่อาศัยอยู่ในสังคมประชาธิปไตยมักใช้เสรีภาพโดยไม่แยแสอะไร ในขณะที่อีกส่วนหนึ่งของโลกผู้ประท้วงต้องถูกจำคุกตลอดชีวิตเพราะสิทธิขั้นพื้นฐานที่สุดในการประท้วงและลงคะแนนเสียง เราทุกคนยืนหยัดร่วมกันและสนับสนุนการแสวงหาประชาธิปไตย"