ชาวบ้านกว่า 7 หมื่นชีวิตหนีตายสงครามอาร์เมเนีย-อาเซอร์
สงครามอาเซอร์-อาร์เมเนียทวีความรุนแรง ประชาชนอพยพแล้ว 70,000-75,000 คน
เจ้าหน้าที่เผยการปะทะระหว่างอาร์เมเนียและอาเซอร์ไบจานครั้งนี้มีผู้เสียชีวิตราว 290 คน จากการคาดการณ์เบื้องต้นพบว่าครึ่งหนึ่งของประชากรในพื้นที่นากอร์โน-คาราบัคหรือราว 70,000-75,000 คนต้องอพยพจากพื้นที่พิพาท
อัยการอาเซอร์ไบจานกล่าวว่าบ้านเรือน 427 แห่งของประชากรราว 1,200 คนถูกทำลาย ซึ่งปัจจุบันผู้อยู่อาศัยในภูมิภาคนี้เกือบทั้งหมดเป็นชาวอาร์เมเนีย
ฮัสซัน รูฮานี ประธานาธิบดีอิหร่านเตือนเมื่อวันพุธ (7 ตุลาคม) ว่าความขัดแย้งครั้งนี้จะพัฒนาไปสู่สงครามเต็มรูปแบบ เราต้องไม่ทำให้สงครามระหว่างอาร์เมเนียและอาเซอร์ไบจานครั้งนี้กลายเป็นสงครามระดับภูมิภาค
ไฮโก มาส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเยอรมนีได้เรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายหยุดยิง หากไม่เป็นเช่นนั้นสหภาพยุโรปควรเพิ่มแรงกดดันต่ออาเซอร์ไบจาน
เช่นเดียวกับวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียได้เรียกร้องให้มีการหยุดยิงเช่นกัน โดยเน้นย้ำว่าอาร์เมเนียเป็นสมาชิกขององค์การสนธิสัญญาความมั่นคงร่วม (CSTO) พันธมิตรทางทหารระหว่างอดีตสหภาพโซเวียต 6 รัฐที่นำโดยรัสเซีย แต่อาเซอร์ไบจานและพื้นที่พิพาทนากอร์โน-คาราบัคไม่ได้อยู่ในสนธิสัญญา
ทางด้านตุรกีได้ส่งทหารและโดรนเพื่อสนับสนุนอาเซอร์ไบจานพันธมิตรชาวเติร์กในการต่อสู้ครั้งล่าสุด โดยนักวิเคราะห์กล่าวว่าการสนับสนุนของตุรกีครั้งนี้จะฉุดรัสเซียเข้าสู่ความขัดแย้งครั้งยิ่งใหญ่
ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายมีความขัดแย้งกันมานานหลายทศวรรษในภูมิภาคอาร์เมเนียของอาเซอร์ไบจานซึ่งแยกตัวออกจากบากูในปี 1990 และสงครามครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 30,000 คน