posttoday

ประเทศร่ำรวยกว้านซื้อวัคซีนโควิดไปแล้วเกินครึ่ง

18 กันยายน 2563

กว่าครึ่งหนึ่งของวัคซีนที่จะผลิตได้ในอนาคตตกอยู่ในมือบรรดาประเทศร่ำรวยที่มีประชากรรวมกันเพียง 13% ของประชากรโลกเท่านั้น

องค์กรการกุศลอ็อกซ์แฟม (Oxfam) เผยรายงานโดยอาศัยข้อมูลจากบริษัทซอฟท์แวร์ Airfinity ของอังกฤษว่า กลุ่มประเทศร่ำรวยซึ่งมีประชากรรวมกันราว 13% ของประชากรโลกคว้าส่วนแบ่งวัคซีน Covid-19 รวมกันมากถึง 51% ของวัคซีนที่กำลังจะผลิตในอนาคต

อ็อกซ์แฟมยังเตือนอีกว่า แม้ว่าวัคซีนที่มีแนวโน้มว่าจะประสบความสำเร็จทั้ง 5 ตัวสามารถผลิตออกมาได้ ประชากรโลกราว 2 ใน 3 จะยังไม่ได้รับวัคซีนจนกว่าจะถึงปี 2022 เป็นอย่างน้อย

วัคซีนตัวเก็งทั้ง 5 ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการทดลองระยะสุดท้ายสามารถผลิตได้ 5,900 ล้านโดส เพียงพอสำหรับฉีดให้ประชากรโลกราว 3,000 ล้านคน โดยส่วนใหญ่คือ 51% ตกไปอยู่ในมือของประเทศร่ำรวยหรือพัฒนาแล้ว รวมทั้งสหรัฐ อังกฤษ สหภาพยุโรป ออสเตรเลีย ฮ่องกง มาเก๊า ญี่ปุ่น สวิตเซอร์แลนด์ และอิสราเอล

ส่วนที่เหลืออีกราว 2,600 ล้านโดสเป็นของประเทศกำลังพัฒนา อาทิ อินเดีย บังกลาเทศ จีน บราซิล อินโดนีเซีย และเม็กซิโก

อย่างไรก็ดี Oxfam เผยว่าประเทศอังกฤษสั่งจองวัคซีนล่วงหน้าเทียบเท่ากับ 5 โดสต่อประชากร 1 คน ทั้งที่โดยทั่วไปแล้วต้องใช้วัคซีน 2 โดสต่อประชากร 1 คน ซึ่งดูเหมือนเป็นการเอาเปรียบประเทศที่ไม่ร่ำรวยที่ไม่สามารถสั่งจองวัคซีนจำนวนมากๆ ได้

“การเข้าถึงวัคซีนไม่ควรขึ้นอยู่กับว่าคุณอยู่ที่ไหน หรือคุณมีเงินในกระเป๋าเท่าไร” โรเบิร์ต ซิลเวอร์แมน จาก Oxfam ประจำสหรัฐกล่าว