posttoday

วัคซีนโควิดไม่ช่วยให้การท่องเที่ยวฟื้นตัวเร็วขึ้น

12 กันยายน 2563

ภาคการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อาจต้องใช้เวลาฟื้นตัวอีกหลายปี แม้จะมีวัคซีนออกมาก็ไม่ช่วยให้กลับสู่ภาวะปกติในเร็ววัน

แองเกล ลัล มันคัส รองประธานและกรรมการผู้จัดการภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกของ Booking.com ผู้ให้บริการด้านการจองที่พักออนไลน์เผยว่า เชื่อว่าวัคซีนและการรักษาอื่นๆ จะช่วยให้ผู้คนรู้สึกปลอดภัยที่จะกลับมาเดินทางอีกครั้ง แต่ถึงจะมีวัคซีนแล้วก็ยังต้องใช้เวลาอีกหลายปี ไม่ใช่หลายไตรมาส กว่าการท่องเที่ยวจะกลับสู่ภาวะปกติก่อนเกิดการระบาดของ Covid-19

นอกจากนี้ ยังกล่าวอีกว่า แม้ทั่วโลกจะมีวัคซีนใช้แล้ว การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวยังต้องขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจโลกและความพึงพอใจในการใช้จ่ายเงินเพื่อการท่องเที่ยวของผู้บริโภคด้วย เนื่องจากเศรษฐกิจขาลงทำให้ผู้คนมีรายได้ลดลง

ในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ ธุรกิจโรงแรมในเอเชียแปซิฟิกสูญเสียรายได้อย่างน้อย 50,000 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยโรงแรมราว 80% ต้องปิดกิจการชั่วคราวระหว่างที่เชื้อโคโรนาไวรัสแพร่ระบาดรุนแรง ขณะที่ในปีนี้อุตสาหกรรมการบินทั่วโลกไม่รวมสายการบินอาจสูญเสียรายได้ราว 2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ

มันคัสยังเผยอีกว่า คนที่ต้องการเดินทางท่องเที่ยวในขณะนี้มักจะเลือกการท่องเที่ยวในประเทศ ชายหาด หรือแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ โดยที่พักทางเลือก อาทิ การตั้งแคมป์ บ้านพักบนต้นไม้ ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ซึ่งมีสัดส่วน 40% ของยอดจองใหม่ในไตรมาสที่ 2   ของปีนี้

นอกจากนี้ จุดหมายปลายทางที่สามารถขับรถไปได้ยังเป็นที่นิยมมากกว่าปลายทางที่ต้องเดินทางด้วยเครื่องบิน อีกทั้งนับตั้งแต่ Covid-19 เริ่มระบาด มีการใช้คำว่า “สะอาด” หรือ “ถูกสุขอนามัย” เพิ่มขึ้นกว่า 60% เมื่อลูกค้าถามถึงที่พัก

ทั้งนี้ เมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมาบริษัทที่ปรึกษา Euromonitor International คาดการณ์ว่า ความต้องการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศอาจลดลงถึง 80% ในปีนี้ และต้องรอจนถึงปี 2023 การท่องเที่ยวจึงจะฟื้นตัวกลับสู่สภาพก่อนเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัส

การคาดการณ์นี้สอดคล้องกับข้อมูลล่าสุดของ Mastercard  ผู้ให้บริการการชำระเงินทั่วโลกที่วิเคราะห์ว่า จนถึงเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ผู้บริโภคในกลุ่มประเทศ G20 ซึ่งเป็นประเทศร่ำรวยและประเทศกลุ่มสหภาพยุโรป เดินทางท่องเที่ยวและใช้จ่ายเงินในละแวกประเทศตัวเองมากกว่าเดินทางไกล