posttoday

เศรษฐกิจสู้โควิดไม่ไหว ทองคำจะแพงขึ้นได้อีก

03 สิงหาคม 2563

บทวิเคราะห์มองทิศทางทองคำในตลาดโลกหลังเตรียมจ่อทะลุ2,000ดอลล์ แต่จะไหวไหม?

ราคาทองคำทำนิวไฮท์อีกครั้งและกำลังใกล้ 2,000 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์เข้าไปทุกที โดยในช่วงเช้าวันที่ 3 สิงหาคมราคาขึ้นมาอยู่ที่ 1,984 เหรียญสหรัฐ ซึ่งเฉพาะในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาราคาทองคำเพิ่มขึ้นมาถึง 11% แล้ว นับเป็นอัตราเพิ่มขึ้นรายเดือนที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2012

คำถามสำคัญในตอนนี้ไม่ใช่แค่คำถามว่าทองจะทะลุ2,000 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์หรือไม่ แต่ยังมีคำถามด้วยว่าทองจะไปไกลกว่านี้หรือไม่ด้วย?

สำนักข่าว Reuters มองว่าเพราะการแพร่กระจายของโควิด-19 ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นและความตึงเครียดระหว่างสหรัฐ - จีนบั่นทอนความหวังที่จะเห็นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วต้องและทำให้นักลงทุนต้องหันเเข้าหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัยเช่นทองคำ ทำให้ราคาทองสูงขึ้นมากกว่า 28% ในปีนี้

อีกปัจจัยคือ ผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปีของสหรัฐที่น้อยลงและอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐที่ต่ำซึ่งทองคำมักจะมีราคาสูงขึ้นเมื่อดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ และการความต้องการถือทองคำยังเป็นการรักษามูลค่าสินทรัพย์จากอัตราเงินเฟ้อ และจากค่าเงินที่อ่อนลงเพราะมีเงินในระบบเป็นจำนวนมาก

จะเห็นได้ว่าเงินเหรียญสหรัฐอ่อนค่าลง ความต้องการถือทองคำก็สูงขึ้น สาเหตุที่ค่าเงินเหรียญสหรัฐอ่อนลงก็เพราะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่อัดเงินเข้าระบบเป็นจำนวนมาก และมีโอกาสที่เฟดจะใช้มาตรการกระตุ้นมากกว่านี้ เพราะสถานการณ์ในสหรัฐยังน่าเป็นห่วง

ก่อนหน้าที่เฟดจะตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยตลาดคาดว่าจะไม่เปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยทำให้ทองคำพุ่งขึ้นมา 9 วันติดต่อกัน แต่หลังจากการการประกาศของเฟดราคาทองคำหยุดชั่วครู่และเงินเหรียญสหรัฐหยุดอ่อนค่าชั่วครู่เช่นกัน แต่นี่เป็นปฏิกริยาสั้นๆ เพราะหลังจากเปิดตลาดอีกครั้งทองก็ปรับราคาขึ้นมาอีก

สาเหตุที่ทองคำหยุดขึ้นช่วงสั้นๆ ก็เพราะเฟดยืนยันที่จะพยุงเศรษฐกิจต่อไปจนกว่าเศรษฐกิจจะต้านทานผลกระทบจากการระบาดได้หรือมีการจ้างงานอย่างเต็มที่ แต่ในเวลาเดียวกันเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดก็บอกว่าวิกฤตครั้งนี้รุนแรงในระดับ "ชั่วชีวิตหนึ่งก็เพิ่งเคยเห็น" แน่นอนว่าใครที่ได้ยินก็ต้องคิดหนัก

ดังนั้น ตลาดจึงยังไม่มีมั่นใจนักและยังมีความวิตกเรื่องความขัดแย้งระหว่างจีนกับสหรัฐที่ลากยาวและหนักขึ้นเรื่อยๆ

สำนักข่าว Bloomberg ตั้งข้อสังเกตว่าผู้ซื้อทองในเวลานี้มีหลากหลายมาก แม้แต่ลูกค้ารายใหญ่อย่างจีนและอินเดียก็ยังไม่มาก สาเหตุสำคัญก็คือนักลงทุนไม่ได้หวังสูงกับพันธบัตรรัฐบาลเหมือนที่เคยเป็นมา ตามปกติในเวลาวิกฤตแบบนี้นักลงทุนจะหันเข้าหาบอนด์เพื่อกระจายความเสี่ยง แต่เพราะผลตอบแทนน้อย นักลงทุนจึงไม่เห็นประโยชน์ที่จะถือบอนด์

ตามปกติแล้วทองคำไม่ก่อให้เกิดรายได้อีกทั้งยังต้องเสียเงินให้การดูแลรักษา แต่เพราะสถานการณ์บีบคั้นในทุกด้านโดยเฉพาะความไม่แน่ไม่นอน ทำให้นักลงทุนต้องหันเข้าหาทองคำในฐานะการลงทุนที่ปลอดภัยที่สุดแล้วในตอนนี้

อย่างไรก็ตาม มีเรื่องต้องระวัง เพราะทางการจีนเตรียมใช้มาตรการเพื่อควบคุมการซื้อขายทองคำในประเทศเพราะตอนนี้มีความต้องการในจีนสูงมา แต่จีนเกรงว่าจะเกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอยแบบเดียวกับเมื่อตอนที่เกิดการเก็งกำไรราคาน้ำมันจนส่งผลกระทบต่อสถาบันการเงินในจีน

Photo by Jung Yeon-je / AFP