posttoday

โพลล์ชี้คนอเมริกันไม่ชอบจีนสูงเป็นประวัติการณ์

31 กรกฎาคม 2563

ชาวอเมริกัน 73% หรือเกือบ 3 ใน 4 ไม่ชอบจีน สูงที่สุดนับตั้งแต่ศูนย์วิจัยพิวเริ่มสำรวจทัศนคติของชาวอเมริกันต่อจีนเมื่อ 15 ปีที่แล้ว

ศูนย์วิจัยพิว (PEW) สำรวจความคิดเห็นชาวอเมริกันเกี่ยวกับจีนจำนวน 1,003 คนระหว่างวันที่ 16 มิ.ย.-14 ก.ค. พบว่าชาวอเมริกัน 73% หรือเกือบ 3 ใน 4 ไม่ชอบจีน ถือว่าสูงที่สุดนับตั้งแต่ศูนย์วิจัยพิวเริ่มสำรวจทัศนคติของชาวอเมริกันต่อจีนเมื่อ 15 ปีที่แล้ว

เพียงแค่เดือน มี.ค. เดือนเดียว ซึ่งเป็นช่วงที่เชื้อโคโรนาไวรัสเริ่มแพร่ระบาดในสหรัฐ ชาวอเมริกันมองจีนในแง่ลบเพิ่มขึ้นถึง 7 จุด รวมทั้งยังมีความเข้าใจเป็นวงกว้างในหมู่ชาวอเมริกันว่าจีนรับมือกับการแพร่ระบาดได้ไม่ดี จนเชื้อระบาดไปทั่วโลก

เมื่อเทียบกับตัวเลขเมื่อปี 2018 พบว่ามีชาวอเมริกัน 47% ที่มีทัศนคติในแง่ลบกับจีน

ขณะที่ชาวอเมริกัน 50% มีมุมมองที่ดีต่อสหภาพยุโรป

แคท เดฟลิน จากศูนย์วิจัยพิวเผยว่า ทัศนคติของชาวอเมริกันต่อจีนเริ่มลดลงอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่ปี 2018 ซึ่งเป็นช่วงที่สหรัฐและจีนเปิดสงครามการค้าระหว่างกัน และดิ่งลงต่อเนื่องหลังจาก Covid-19 ระบาด ทว่าเดฟลินเองก็ไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าทั้งสองเหตุการณ์นี้เป็นสาเหตุให้ชาวอเมริกันไม่ชอบจีนเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ โพลล์ยังพบอีกว่า ชาวอเมริกัน 57% มองจีนเป็นคู่แข่งของสหรัฐ 16% มองว่าจีนเป็นหุ้นส่วน แต่ที่น่าตกใจคือ มีชาวอเมริกันถึง 26% ที่มองว่าจีนเป็นศัตรูของสหรัฐ ซึ่งตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นจากการสำรวจเมื่อปี 2012 ถึง 2 เท่า

ศูนย์วิจัยพวยังพบอีกว่า ชาวอเมริกันยังส่งเสริมให้รัฐบาลสหรัฐตอบโต้การละเมิดสิทธิมนุษยชนของจีนรุนแรงมากขึ้น

ทั้งนี้ โพลล์ล่าสุดนี้เกิดขึ้นในช่วงที่นโยบายของสหรัฐต่อจีนถูกนำมาถกมากขึ้นใช้ช่วงการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐซึ่งกำลังจะเกิดขึ้นในเดือน พ.ย.นี้ โดยทั้งทรัมป์ และ โจ ไบเดน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต ต่างก็โทษว่าอีกฝ่ายอ่อนข้อให้จีน