posttoday

อียูแบนอเมริกันเข้ายุโรป เหตุโควิดยังรุนแรง

01 กรกฎาคม 2563

สหรัฐไม่อยู่ในลิสต์ 15 ชาติที่EUไฟเขียวให้เข้ายุโรป ผู้เชี่ยวชาญคาดคนมะกันอาจติดพุ่งวันละแสนคน

สหภาพยุโรปหรือEUประกาศเปิดพรมแดนอีกครั้งในวันนี้ (1 ก.ค.) โดยเป็นการเปิดต้อนรับพลเมืองจาก 15 ประเทศที่สามารถควบคุมการระบาดของไวรัสโควิดได้ดี โดยกลุ่มประเทศที่อียูเปิดพรมแดนต้อนรับประกอบด้วย แอลจีเรีย, ออสเตรเลีย, แคนาดา, ญี่ปุ่น, จอร์เจีย, มอนเตเนโกร, โมร็อกโก, นิวซีแลนด์, รวันดา, เซอร์เบีย, เกาหลีใต้, ตูนิเซีย อุรุกวัย และประเทศไทย โดยสหภาพยุโรปใช้เกณฑ์เดียวกันในการพิจารณาลิสตประเทศปลอดภัยจากการที่ปลอดการติดเชื้อในประเทศต่อเนื่องเกิน14วัน

เช่นเดียวกับนักเดินทางจากจีนก็จะได้รับอนุญาตให้เข้ายุโรปเช่นกัน แต่ยังคงมีข้อจำกัดห้ามพลเมืองจีนจากบางพื้นที่อย่างกรุงปักกิ่งเดินทางเข้ายุโรป

ส่วนประเทศมหาอำนาจใกล้ชิดอียูอย่าง สหรัฐอเมริกาไม่ได้อยู่ในลิสต์ประเทศปลอดภัยของอียูเนื่องจากการระบาดของโควิดยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อ และอาจทวีความรุนแรงขึ้น โดยนายแพทย์แอนโทนี เฟาซี ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติสหรัฐ กล่าวยอมรับต่อที่ประชุมวุฒิสภาว่า เขาไม่แปลกใจเลยหากชาวอเมริกันป่วยโควิดเพิ่มวันละ 1แสนคน เพราะเห็นได้ชัดว่าเรายังไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อในแต่ละพื้นที่ทั่วประเทศได้ 

หมอเฟาซียังกล่าวอีกว่าสหรัฐกำลังเดินไปในเส้นทางที่ผิดต่อการรับมือโควิด เพราะบางมลรัฐเริ่มพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นหลังคลายล็อกดาวน์ จนส่งผลให้มลรัฐอื่นๆที่สามารถควบคุมการระบาดได้แล้ว ต้องใช้มาตรการกักตัวเป็นเวลา 14 วันต่อชาวอเมริกันที่เดินทางจากพื้นที่เสี่ยงระบาด

ทั้งนี้ รอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สหรัฐพบผู้ติดโควิดรายใหม่สูงสุดทุบสถิติที่กว่า 47,000 ราย ซึ่งเป็นตัวเลขติดเชื้อรายวันสูงสุดนับตั้งแต่สหรัฐพบการระบาดของโควิด โดยทั้งรัฐอลาสก้า, แอริโซนา, แคลิฟอร์เนีย, จอร์เจีย, ไอดาโฮ, โอคลาโฮมา, เซาท์แคโรไลนาและเท็กซัส ล้วนพบผู้ติดเชื้อรายวันที่ยังคงเพิ่มสูงต่อเนื่อง