อียูแบนอเมริกันเข้ายุโรป เหตุโควิดยังรุนแรง
สหรัฐไม่อยู่ในลิสต์ 15 ชาติที่EUไฟเขียวให้เข้ายุโรป ผู้เชี่ยวชาญคาดคนมะกันอาจติดพุ่งวันละแสนคน
สหภาพยุโรปหรือEUประกาศเปิดพรมแดนอีกครั้งในวันนี้ (1 ก.ค.) โดยเป็นการเปิดต้อนรับพลเมืองจาก 15 ประเทศที่สามารถควบคุมการระบาดของไวรัสโควิดได้ดี โดยกลุ่มประเทศที่อียูเปิดพรมแดนต้อนรับประกอบด้วย แอลจีเรีย, ออสเตรเลีย, แคนาดา, ญี่ปุ่น, จอร์เจีย, มอนเตเนโกร, โมร็อกโก, นิวซีแลนด์, รวันดา, เซอร์เบีย, เกาหลีใต้, ตูนิเซีย อุรุกวัย และประเทศไทย โดยสหภาพยุโรปใช้เกณฑ์เดียวกันในการพิจารณาลิสตประเทศปลอดภัยจากการที่ปลอดการติดเชื้อในประเทศต่อเนื่องเกิน14วัน
เช่นเดียวกับนักเดินทางจากจีนก็จะได้รับอนุญาตให้เข้ายุโรปเช่นกัน แต่ยังคงมีข้อจำกัดห้ามพลเมืองจีนจากบางพื้นที่อย่างกรุงปักกิ่งเดินทางเข้ายุโรป
ส่วนประเทศมหาอำนาจใกล้ชิดอียูอย่าง สหรัฐอเมริกาไม่ได้อยู่ในลิสต์ประเทศปลอดภัยของอียูเนื่องจากการระบาดของโควิดยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อ และอาจทวีความรุนแรงขึ้น โดยนายแพทย์แอนโทนี เฟาซี ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติสหรัฐ กล่าวยอมรับต่อที่ประชุมวุฒิสภาว่า เขาไม่แปลกใจเลยหากชาวอเมริกันป่วยโควิดเพิ่มวันละ 1แสนคน เพราะเห็นได้ชัดว่าเรายังไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อในแต่ละพื้นที่ทั่วประเทศได้
หมอเฟาซียังกล่าวอีกว่าสหรัฐกำลังเดินไปในเส้นทางที่ผิดต่อการรับมือโควิด เพราะบางมลรัฐเริ่มพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นหลังคลายล็อกดาวน์ จนส่งผลให้มลรัฐอื่นๆที่สามารถควบคุมการระบาดได้แล้ว ต้องใช้มาตรการกักตัวเป็นเวลา 14 วันต่อชาวอเมริกันที่เดินทางจากพื้นที่เสี่ยงระบาด
ทั้งนี้ รอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สหรัฐพบผู้ติดโควิดรายใหม่สูงสุดทุบสถิติที่กว่า 47,000 ราย ซึ่งเป็นตัวเลขติดเชื้อรายวันสูงสุดนับตั้งแต่สหรัฐพบการระบาดของโควิด โดยทั้งรัฐอลาสก้า, แอริโซนา, แคลิฟอร์เนีย, จอร์เจีย, ไอดาโฮ, โอคลาโฮมา, เซาท์แคโรไลนาและเท็กซัส ล้วนพบผู้ติดเชื้อรายวันที่ยังคงเพิ่มสูงต่อเนื่อง