posttoday

บราซิลติดโควิดทะลุล้าน คาดแซงหน้าสหรัฐขึ้นอันดับหนึ่งเร็วๆนี้

20 มิถุนายน 2563

โควิดในบราซิลยังห่างไกลจุดพีค แม้ตัวเลขติดเชื้อทะลุล้าน คาดอีกไม่นานแซงหน้าสหรัฐป่วยเยอะสุดของโลก

กระทรวงสาธารณสุขบราซิลรายงานเมื่อวานนี้ (19 มิ.ย.) ว่าสถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิดในประเทศส่งผลให้มีผู้ป่วยสะสมทะลุเกิน 1 ล้านคนแล้ว โดย 24 ชั่วโมงของวันศุกร์ที่ผ่านมามีรายงานการติดเชื้อใหม่ถึง 54,771 ราย ตัวเลขสะสมทั้งประเทศอยู่ที่ 1,032,913 คน รักษาหายแล้วราว 520,000 เสียชีวิตสะสม 49,090 เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 1,206 ราย

บราซิลพบผู้ติดเชื้อโควิดรายแรกของประเทศเมื่อวันที่ 26 ก.พ. จนถึงตอนนี้เป็นเวลากว่า 3 เดือนแล้วที่บราซิลยังไม่สามารถควบคุมการระบาดได้ และยังคงห่างไกลจากคำว่าจุดสูงสุดของการระบาด เนื่องจากยังพบรายงานผู้ติดเชื้อใหม่รายวันตั้งแต่เมืองใหญ่ของประเทศอย่างนครเซาเปาโล นครริโอเดอจาเรโร ไปจนถึงพื้นที่ห่างไกลแถบป่าอเมซอน

บราซิลติดโควิดทะลุล้าน คาดแซงหน้าสหรัฐขึ้นอันดับหนึ่งเร็วๆนี้

แม้จะยังไม่พบสัญญาณของจุดพีคการระบาด แต่ตามเมื่อใหญ่ของประเทศได้ให้ร้านค้า ร้านอาหาร และภาคธุรกิจที่ไม่จำเป็นกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งแล้วเมื่อหลายสัปดาห์ก่อนหน้านี้

สถานการณ์ดังกล่าว ผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยาหลายรายคาดตรงกันว่า ตัวเลขติดเชื้อสะสมของบราซิลอาจแซงหน้าสหรัฐในไม่ช้า ซึ่งขณะนี้บราซิลยังเป็นอันดับสองของประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากสุดในโลก รองจากสหรัฐซึ่งอยู่ในอันดับหนึ่งด้วยผู้ติดเชื้อสะสมที่กว่า 2.2 ล้านคน

เมื่อเดือนที่แล้วองค์การอนามัยโลกได้ประกาศให้พื้นที่แถบละตินอเมริกากลายเป็นพื้นที่ศูนย์กลางระบาดแห่งใหม่ของโควิด-19 โดยขณะนี้หลายประเทศแถบอเมริกาใต้รวมถึงชิลีเปรูต่างก็มีตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่รายวันและตัวเลขผู้เสียชีวิตรายวันสูงขึ้น เช่นเดียวกับเม็กซิโกที่เพิ่งมียอดผู้เสียชีวิตสะสมเกินกว่า 20,000 คนแล้ว

บราซิลติดโควิดทะลุล้าน คาดแซงหน้าสหรัฐขึ้นอันดับหนึ่งเร็วๆนี้

นายแพทย์ Miguel Nicolelis นักประสาทวิทยาผู้มีส่วนในคณะทำงานรับมือโควิดของรัฐเซาเปาโล กล่าวว่า ขณะนี้บราซิลกำลังเดินตรงสู่หายนะ "คุณจะเห็นได้ว่าบราซิลซึ่งมีประชากร 212 ล้านคน เป็นศูนย์กลางระบาดตั้งแต่เดือนเมษายน เราเฝ้าดูสถานการณ์ทั่วโลกผ่านไปโดยที่เราไม่ได้ทำอะไรเลย"

นายแพทย์ Nicolelis กล่าววิจารณ์ถึงการทำงานของประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนารู ผู้นำบราซิลซึ่งเพิกเฉยและไม่รับมือกับปัญหาโควิดอย่างจริงจัง รัฐบาลท้องถิ่นของแต่ละรัฐในบราซิลต้องหามาตรการรับมือกันเอง

ประธานาธิบดีโบลโซนารู ผู้ซึ่งได้ฉายาว่าทรัมป์แห่งอเมริกาใต้ ตกเป็นที่วิจารณ์อย่างกว้างขวางถึงเรื่องดังกล่าว ไม่เว้นแม้แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของบราซิลเองซึ่งสละเก้าอี้ไปแล้วถึง 2 รายในระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือน เนื่องจากมีความคิดเห็นไม่ตรงกับผู้นำ ประธานาธิบดีโบลโซนารูได้แต่ตั้งรมว.กระทรวงหมอคนใหม่เป็นนายพลในกองทัพที่ชื่อ Eduardo Pazuello ซึ่งไม่ได้มีประสบการบริหารงานด้านสาธารณสุขของประเทศมาก่อน

แม้ยอดติดเชื้อของบราซิลจะยังไม่ถึงจุดพีค แต่ที่"พีค"กว่าคือท่าทีอันเพิกเฉยของผู้นำบราซิลเนื่องจากเขายังได้เพิกเฉยต่อมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม โดยบอกว่ามาตรการนี้จะยิ่งทำให้คนตกงาน และเป็นอันตรายต่อเศรษฐกิจประเทศยิ่งกว่าไวรัสโควิดเสียอีก

อีกความพีคของโบลโซนารูคือ เมื่อสองสัปดาห์ก่อน"ทรัมป์แห่งอเมริกาใต้"ผู้นี้ยังได้แสดงจุดยืนเดียวกับ"ทรัมป์แห่งสหรัฐ" ด้วยการขู่ว่าจะถอนตัวจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยให้เหตุผลว่าเป็นหน่วยงานแห่งนี้ทำงานโดยมีวาระซ้อนเร้นเรื่อง "อคติเชิงอุดมการณ์" (ideological bias) จากการแสดงท่าทีหลายครั้งของอนามัยโลกที่"เอาแน่เอานอน"ไม่ได้