สองเกาหลีตึงเครียด เปียงยางระเบิดทิ้งศูนย์ประสานงานโซล

ผู้นำกองทัพเกาหลีเหนือได้ออกคำขู่ต่อทางการเกาหลีใต้ในวันนี้ว่า อาจส่งกองกำลังทหารเข้าไปยังเขตปลอดทหารใกล้พรมแดนเกาหลีใต้(Demilitarized Zone - DMZ) เพื่อตอบโต้กรณีที่รัฐบาลโซลไม่อาจจัดการกับกลุ่มนักเคลื่อนไหวซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นผู้แปรพักตร์จากเกาหลีเหนือ ทำการโปรยใบปลิวโฆษณาชวนเชื่อโจมตีผู้นำคิมจองอึนข้ามพรมแดนมายังฝั่งเหนือ

สื่อทางการเกาหลีเหนือรายงานว่า กองทัพได้รับการเตือนความพร้อมในระดับสูงสุด ของการตอบโต้ด้วยกำลังทหารหากได้รับคำสั่งจากเบื้องบน

ก่อนหน้านี้เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีรายงานว่านางสาวคิมโยจอง น้องสาวของผู้นำคิมจองอึนได้ออกมาขู่ในลักษณะเดียวกัน ว่าจะสั่งให้กองทัพลงมือจัดการกับเกาหลีใต้ รวมถึงทางเกาหลีเหนือได้ตัดสายโทรศัพท์ซึ่งเป็นช่องทางสื่อสารของทหารทั้งสองฝ่ายและระหว่างรัฐบาล

ขณะที่ในวันเดียวกันนี้(16 มิ.ย.) กระทรวงรวมชาติเกาหลีใต้เผยว่า ฝั่งเกาหลีเหนือได้ปิดศูนย์ประสานงานสองเกาหลีซึ่งเป็นอาคารสูง 4 ชั้นที่ตั้งอยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรมแกซอง โดยเมื่อเวลา 14.50 น. ตามเวลาท้องถิ่น มีรายงานเสียงระเบิดดังขึ้นพร้อมกับกลุ่มควันพวยพุ่งจากบริเวณดังกล่าวซึ่งมองเห็นได้จากฝั่งเมืองพาจูของเกาหลีใต้

เพียงไม่กี่นาทีหลังเกิดกลุ่มควันและเสียงระเบิด สำนักข่าวกลางKCNAสื่อกระบอกเสียงของรัฐบาลเปียงยางยืนยันว่า ศูนย์ประสานงานดังกล่าว "ถูกทำลายทิ้งราบเป็นหน้ากลองแล้ว" 

ท่าทีอันแข็งกร้าวของเกาหลีเหนือชัดเจนและทวีความรุนแรงขึ้นตลอดช่วงสองเดือนที่ผ่าน นับตั้งแต่มีรายงานข่าวการป่วยหนักของผู้นำคิมจองอึน มาจนถึงกรณีกลุ่มนักเคลื่อนไหวฝั่งใต้ปล่อยบอลลูนใบปลิวข้ามไปฝั่งเหนือ ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่าผู้ออกมาแสดงท่าทีอันแข็งกร้าวไม่ใช่ตัวผู้นำคิม แต่กลับนางสาวคิมโยจอง น้องสาวของผู้นำคิม ซึ่งก่อนหน้านี้ช่วงที่มีกระแสข่าวคิมจองอึนป่วยหนัก เธอได้ถูกจับตามองเป็นพิเศษในฐานะผู้สืบทอดอำนาจต่อจากพี่ชาย

สำหรับศูนย์ประสานงานสองเกาหลี ก่อตั้งขึ้นเพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ อันเป็นผลจากการพบปะระหว่างผู้นำคิมจองอึนกับประธานาธิบดีมุนแจอินที่หมู่บ้านปันมุนจองในปี 2018 และทั้งคู่ลงนามตั้งสำนักงานประสานงานร่วมกัน รวมถึงลงนามในข้อตกลงยุติการกระทำที่ยั่วยุหรืออาจเป็นภัยคุกคามระหว่างกัน